สุโขทัย 3 มี.ค. – กรมเจรจาฯ ปลื้มเกษตรกรภาคเหนือตอนล่างใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอ สร้างรายได้ขยายส่งออกตลาดโลก
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เผยผลการผนึกกำลังของกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศร่วมกับสภาเกษตรกรแห่งชาติ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดสุโขทัย สำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดสุโขทัย และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ที่ร่วมลงพื้นที่จัดสัมมนาและพบปะเกษตรกรภาคเหนือตอนล่าง ระหว่างวันที่ 27 กุมภาพันธ์ – 1 มีนาคม 2562 จังหวัดสุโขทัย ภายใต้โครงการ “เพิ่มศักยภาพเกษตรกรในยุคการค้าเสรี ครั้งที่ 4” ว่าได้รับความสนใจและตอบรับอย่างดีจากกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง จากจังหวัดสุโขทัย พิษณุโลก อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ และนครสวรรค์ โดยเฉพาะเกษตรกรกลุ่มผู้ผลิตและแปรรูปกาแฟ ชาดอกกาแฟ ส้ม ละมุด และใบตองตานี ซึ่งผู้ผลิตหลายรายมีศักยภาพสามารถใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) สร้างรายได้และขยายการส่งออกไปต่างประเทศ
นอกจากนี้ มีการพัฒนาสินค้าตลอดห่วงโซ่อุปทาน ตั้งแต่การรักษาคุณภาพ มาตรฐานสินค้า สร้างเอกลักษณ์สินค้าในพื้นที่ มีการเสริมนวัตกรรมความคิดสร้างสรรค์ เช่น การปลูกกาแฟให้มีกลิ่นทุเรียน มีความหวานของน้ำตาลฟรุตโตสและคั่วมือ รวมทั้งแปรรูป พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายทั้งรูปแบบเมล็ดกาแฟคั่วบด และดริป อีกทั้งยังเชื่อมโยงเครือข่ายกับเกษตรกรกาแฟแม่ฮ่องสอน ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ รวมถึงสร้างพันธมิตรธุรกิจกับร้านกาแฟสด ที่พักโฮมสเตย์ สร้างเรื่องราวประวัติของกาแฟในพื้นที่ และจับมือร่วมกับธุรกิจท่องเที่ยว ทำให้สามารถผลิตสินค้าที่ตอบสนองความต้องการของตลาด โดยเฉพาะกลุ่มผู้บริโภคผู้รักสุขภาพ มีความพร้อมที่จะส่งออก ช่วยสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับชุมชนในพื้นที่ระยะยาว
นางอรมน กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมฯ ยังได้ลงพื้นที่พบหารือกับเกษตรกรผู้ผลิตส้มปลอดสารพิษกลุ่มแม่สินพัฒนา อำเภอศรีสัชนาลัย ซึ่งเป็นเกษตรแปลงใหญ่ พื้นที่กว่า 17,000 ไร่ จำหน่ายส้มสด และแปรรูปผลิตภัณฑ์ด้วยนวัตกรรม อาทิ สบู่ส้ม สเปรย์กันยุง น้ำหมักชีวภาพ ส้มผงแห้ง รวมถึงจับมือกลุ่มท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม สร้างทางเดินไม้ไผ่บนยอดต้นส้ม เปลี่ยนภาพลักษณ์สู่สวนส้มปลอดภัยไร้สารพิษ ถือเป็นจุดเช็คอินท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดสุโขทัย นอกจากนี้ ยังได้พบปะกลุ่มเกษตรกรใบตองตานีคลองกระจง ซึ่งเป็นแหล่งปลูกใบตองขนาดใหญ่ของไทย เกษตรกรเน้นการใช้นวัตกรรม เทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ แปรรูปผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายรูปแบบ จากทุกส่วนของต้นกล้วย เช่น กระทงบรรจุภาชนะขึ้นรูป กระเป๋า ของตกแต่งบ้านจากใยกล้วย เมนูอาหารคาวหวาน รวมทั้งได้พบหารือกับเกษตรกรกลุ่มละมุดอินทรีย์ ซึ่งขณะนี้ ได้จำหน่ายในประเทศผ่านห้างโมเดิร์นเทรด และส่งออกไปตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะเยอรมนีแล้ว ในการนี้ พบว่าส้มปลอดสารพิษ ใบตองตานี ละมุดของสุโขทัย อยู่ระหว่างการขึ้นทะเบียนสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์หรือ GI ซึ่งจะช่วยให้สินค้าสามารถขายได้ในราคาสูงขึ้น เพราะมีเรื่องราวและคุณสมบัติพิเศษต่างจากผลไม้ชนิดเดียวกันที่ผลิตจากแหล่งอื่น
“การลงพื้นที่ครั้งนี้ยังเป็นการติดตามงานของกรมเจรจาฯ ที่ได้ดำเนินการร่วมกับสภาเกษตรกรแห่งชาติปีที่ผ่านมา ซึ่งได้จุดประกายให้เกษตรกรเห็นโอกาสของการผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์ เพื่อสนองความต้องการของผู้บริโภคโดยเฉพาะกลุ่มรักสุขภาพและสิ่งแวดล้อม โดยในการพบปะเกษตรกรครั้งนี้ พบว่าผู้ผลิตสินค้าอินทรีย์ประสบความสำเร็จสามารถจำหน่ายสินค้าเกษตรของตนเองราคาสูงกว่าสินค้าเกษตรทั่วไปถึง 10 เท่า สินค้าเกษตรอินทรีย์ยังเป็นที่ต้องการเพิ่มขึ้นในตลาดในประเทศและต่างประเทศ ทำให้เกษตรกรในพื้นที่เริ่มรวมกลุ่มผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์มากขึ้น” นางอรมน กล่าว.-สำนักข่าวไทย