หุ้นการบินร่วงยกแผง วิตกสถานการณ์อินเดีย-ปากีสถาน

กรุงเทพฯ 28 ก.พ. – ราคาหุ้นกลุ่มการบินปรับลง วิตกผลกระทบสถานการณ์ตึงเครียดอินเดีย-ปากีสถาน



ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหุ้นในกลุ่มการบินราคาปรับลงทั่วหน้า โดยในช่วงเปิดตลาด หุ้น AAV ลบ 0.45% มาอยู่ที่ 4.46 บาท ลดลง 0.02 บาท      หุ้น AOT ลบ 1.45% มาอยู่ที่ 67.75 บาท ลดลง 1.00 บาท  หุ้น BA ลบ 3.91% มาอยู่ที่ 12.30 บาท ลดลง 0.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 16.08 ล้านบาท หุ้น NOK ลบ 4.94% มาอยู่ที่ 3.08 บาท ลดลง 0.16 บาท หุ้น THAI ลบ 1.50% มาอยู่ที่ 13.10 บาท ลดลง 0.20 บาท 


นายภาสกร ลินมณีโชติ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย กล่าวว่า สถานการณ์การเมืองที่ตึงเครียดระหว่างอินเดียและปากีสถานที่เกิดขึ้น สร้างความวิตกกังวลให้นักลงทุนบ้าง แต่ไม่มากนัก เพราะที่ผ่านมา 2 ประเทศมีความตึงเครียดกันมาตลอด โดยเชื่อว่าจะเป็นผลกระทบชั่วคราว เป็นปัจจัยระยะสั้น โดยมีผลกระทบทางลบต่อหุ้นสายการบินโดยเฉพาะ บมจ.การบินไทย (THAI) ที่มีเส้นทางการบินไปยุโรปประมาณร้อยละ  28 มีจำนวนผู้โดยสารชาวยุโรป 20,000 คนต่อวัน บมจ.บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น( AAV) ที่มีเส้นทางบินไปอินเดีย  รวมทั้ง บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) ซึ่งผลกระทบจะมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับจำนวนวันที่มีการยกเลิกเที่ยวบิน

บล.เอเชีย เวลท์ วิเคราะห์ฯ ว่านักลงทุนวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองที่ตึงเครียดระหว่างอินเดียและปากีสถาน หลังจากเกิดสถานการณ์กองทัพปากีสถานยิงเครื่องบินกองทัพอากาศอินเดียร่วงลง 2 ลำ บริเวณพื้นที่ความขัดแย้งในดินแดนแคชเมียร์ คาดว่าส่งผลกระทบทางลบต่อหุ้นสายการบินและการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการบินไทย และ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) ส่งผลให้การบินไทยต้องยกเลิกเที่ยวบินไปปากีสถาน และเที่ยวบินที่บินผ่านน่านฟ้าปากีสถาน เส้นทางกรุงเทพฯ-ยุโรป ทั้งหมด 11 จุดบิน ที่ผู้โดยสารต้องการเช็คอินวันที่ 27 กุมภาพันธ์ รวมทั้งเที่ยวบินที่บัตรโดยสารระบุวันเดินทางเป็นวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2562


นายพิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้างานวิจัยลูกค้าบุคคล บริษัทหลักทรัพย์ภัทร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า  สถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างอินเดีย-ปากีสถาน ถือเป็นความเสี่ยงทางการเมืองระหว่างประเทศ  ที่มีความขัดแย้งกันมานาน และคาดเดาได้ยาก  โดยอินเดียและปากีสถาน ต่างเป็นชาติที่มีอาวุธนิวเคลียร์อยู่ในครอบครอง และอ้างกรรมสิทธิ์เหนือดินแดนแคชเมียร์ แต่เชื่อว่าสถานการณ์จะไม่รุนแรงจนกระทบต่อเศรษฐกิจในภูมิภาค แต่เป็นความไม่แน่นอนที่ต้องจับตามอง เพราะมีโอกาสเกิดขึ้นได้เรื่อย ๆ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตึกถล่มพบเสียชีวิตเพิ่ม

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่าง

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ในพื้นที่โซน B และโซน C มีซากอาคารถล่มทับร่างอยู่ ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่างและค้นหาผู้สูญหายใต้ซากอาคารต่อเนื่อง

ชายวัย 50 ไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องเมียท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากตึก สตง.

ชายวัย 50 ปี ยกมือไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องภรรยาท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากอาคาร สตง.ถล่ม ด้านรอง ผบช.น. เตือนอย่าใช้โอกาสที่มีผู้ประสบเหตุสร้างความสงสารหลอกเอาทรัพย์สิน มีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน

ออกแล้ว! ผลตรวจเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่ม พบไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น

ผลตรวจตัวอย่างเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่มจากแผ่นดินไหว พบได้มาตรฐาน 15 ชิ้น ไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น ยังไม่สรุปเป็นสาเหตุตึกถล่ม ชี้ต้องดูหลายองค์ประกอบ

ข่าวแนะนำ

ตึกถล่มพบเสียชีวิตเพิ่ม

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่าง

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ในพื้นที่โซน B และโซน C มีซากอาคารถล่มทับร่างอยู่ ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่างและค้นหาผู้สูญหายใต้ซากอาคารต่อเนื่อง

ยอดตายแผ่นดินไหวเมียนมา

แผ่นดินไหวเมียนมา ตายเพิ่มเป็นกว่า 2 พันราย

ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 7.7 ทางภาคกลางของเมียนมาเมื่อวันศุกร์พุ่งทะลุ 2 พันราย ขณะที่ชาวบ้านในเมืองมัณฑะเลย์ ใกล้ศูนย์กลางแผ่นดินไหว