“สมคิด” สั่งระดมคลังสมอง สศช.ปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ

สศช. 21 ก.พ. – รองนายกรัฐมนตรีสั่ง สศช.ปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ ลดพึ่งพาส่งออก หันมาเน้นเติบโตจากภายในประเทศ ระดมนักเศรษฐศาสตร์คลังสมองปฏิรูปเศรษฐกิจประเทศ หากพบสัญญาณผิดปกติ ตั้งวอร์รูมแจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหา 


นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวระหว่างการตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายคณะผู้บริหาร สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)  ว่า เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้มากกว่าร้อยละ 4 ต่อเนื่องนับเป็นเรื่องที่ยาก เพราะโครงสร้างเศรษฐกิจไทยยังมีปัญหา โดยเฉพาะความเหลื่อมล้ำทางสังคม สศช. ต้องวางบทบาทของตัวเองให้เป็นหน่วยงานกลางศึกษาแนวทางออกมาให้เป็นรูปธรรม  โดยเฉพาะจุดอ่อนในการพึ่งการส่งออก จำนวนสินค้า ประเภทสินค้า เพื่อสร้างความสมดุลระหว่าง เศรษฐกิจในประเทศกับพึ่งพาภาคการส่งออก เชื่อมโยงภาคอุตสาหกรรม ภาคบริการ และภาคการเกษตร เพื่อสร้างกิจกรรมทางเศรษฐกิจควบคู่ไปกับสร้างบุคลากรด้านเทคโนโลยีรองรับกระแสโลกยุคใหม่  ยอมรับว่าไทยเน้นพึ่งพาการส่งออกสูงมากมีสัดส่วนภาคการส่งออกถึงร้อยละ 70 ของจีดีพี ขณะที่การพึ่งพาเศรษฐกิจในประเทศยังมีสัดส่วนน้อย  เมื่อเกิดปัญหาความผันผวนของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าไทยจึงได้รับผลกระทบไปด้วย

นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการ สศช. กล่าวว่า รองนายกรัฐมนตรีได้ให้นโยบาย สศช.เป็นหน่วยงานกลาง ออกแบบแนวคิดให้เป็นรูปธรรม (Think Tank)  ด้วยการแยกแต่ละเรื่อง นำออกมาปฏิบัติให้ชัดเจน  ทั้งการพัฒนาทุนมนุษย์ ระบบเศรษฐกิจ การบริหารงานความเชื่อมโยงระหว่างภูมิภาคและท้องถิ่นให้มีความเชื่อมโยงกัน โดยให้ สศช.เป็นผู้ศึกษาและจัดทำแผนออกไปสู่การปฏิบัติของส่วนราชการผ่านสถาบันนโยบายสาธารณะและการพัฒนา ซึ่งจะเริ่มตั้งขึ้นมาเดือนเมษายน 2562


“สศช. ต้องทำงานเชิงรุกในฐานะหน่วยงานที่มีข้อมูลเฉพาะด้านการค้าการลงทุน หากพบสัญญาณผิดปกติ ให้รีบแจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนภาคเอกชน  รีบเข้ามาหารือเพื่อเตรียมรับมือให้ทันท่วงที และเพื่อปรับโครงสร้างเศรษฐกิจไทยให้เกิดความดุล ไม่พึ่งพิงด้านใดด้านหนึ่งมากเกินไป เน้นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายในประเทศและเป็นผู้นำพัฒนาศักยภาพในกลุ่ม CLMV” นายทศพร กล่าว 

สำหรับการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากกำหนดไว้  3 แนวทาง คือ แนวทางแรก การยกระดับห่วงโซ่การผลิตของไทยไปสู่ระดับโลก ด้วยการส่งเสริม bio economy หรือการแปรรูปทางการเกษตรด้วยเทคโนโลยีและวัตกรรม ช่วยเหลือภาคการเกษตร สร้างผลิตภัณฑ์มูลค่าสูงขึ้น เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการเเข่งขันให้กับภาคการเกษตรให้ชาวบ้าน  ส่งเสริมให้ชาวบ้านเกิดการรวมกลุ่มกันเป็น Cluster ห่วงโซ่พึ่งพาซึ่งกันและกัน  แนวทางที่ 2 การต่อยอดของเดิมที่มีศักยภาพ นำเทคโนโลยีเข้ามามีส่วนร่วมกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และแนวทางที่ 3 คือ การสร้างธุรกิจใหม่ โดยนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการสนับสนุนโมเดลธุรกิจ Ecommerce และการส่งเสริมให้มีการทำธุรกิจเพื่อสังคม หรือ Social Enterprises หรือ SE มากขึ้น เพื่อให้ชุมชนได้รับประโยชน์ในการเติบโตของธุรกิจ เพื่อมุ่งแก้ไขปัญหาความยากจน และปัญหาที่ดินทำกิน รวมถึงเดินหน้าหลายโครงการที่อยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษภูมิภาค เพื่อยกระดับเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ .- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

กระบะชนต้นไม้

สังเวย 7 ศพ กระบะหักหลบรถรับ-ส่งนักเรียน พุ่งชนต้นไม้

รถกระบะเสียหลักจะชนรถตู้รับ-ส่งนักเรียน คนขับตัดสินใจหักหลบ ทำให้รถพุ่งชนต้นไม้ เสียชีวิต 7 ราย ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 4 คน

สลด! รถทัวร์พาผู้โดยสารกลับจากเที่ยวเบตง ชนต้นไม้ ดับ 8 ราย

รถทัวร์พาผู้โดยสารกลับจากเที่ยว อ.เบตง จ.ยะลา เสียหลักไถลลงร่องกลางถนนชนต้นไม้บนถนนสาย 41 อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี เบื้องต้นเสียชีวิต 8 ราย บาดเจ็บจำนวนมาก

ตักบาตรปีใหม่

ปชช.ร่วมตักบาตรวันปีใหม่ 2568 เพื่อความเป็นสิริมงคล

ประชาชนร่วมกิจกรรมตักบาตร​ รับปีใหม่ 2568 เนืองแน่น​ “สุดาวรรณ” เผยตัวเลขสวดมนต์ข้ามปี กว่า 12 ล้านคน พร้อมเชิญชวนสักการะพระเขี้ยวแก้ว ถึง 14 ก.พ.นี้

ข่าวแนะนำ

ผบก.น.3 เผยมี 26 คนจีนเข้าคอร์สตำรวจอาสา กว่าครึ่งจ่ายเงินจริง

ผบก.น.3 เผยมีคนจีน 26 คน เข้าคอร์สตำรวจอาสา กว่าครึ่งจ่ายเงินจริง กำลังไล่สอบเส้นเงินเข้ากระเป๋าใคร ส่วนตำรวจที่ไปอบรมน่าจะได้เงินค่าจ้างจริง

ดีเอสไอประชุมนัดแรกร่วม ตร.นครบาล 1 คดี “นพ.บุญ”

ดีเอสไอรับคดี “นพ.บุญ” กับพวกเป็นคดีพิเศษ เปิดประชุมนัดแรกร่วมตำรวจนครบาล 1 แย้มรู้พิกัด “หมอบุญ” ที่หลบหนีแต่ยังไม่ขอเปิดเผย

คนร้ายวางระเบิดตำรวจตั้งด่าน เจ็บ 6 นาย

คนร้ายวางระเบิดตำรวจขณะตั้งด่าน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี บาดเจ็บ 6 นาย เด็ก 3 ขวบ เจ็บ 1 ราย เชื่อสร้างสถานการณ์ ก่อนครบรอบ 21 ปี ไฟใต้