กรุงเทพฯ 18 ก.พ.- ศาลเปิดรับคำร้องวันหยุด โฆษกศาลเผยสถิติร้องคดีเลือกตั้ง ส.ส.2 วันเเรกทั่วประเทศ 23 คดี หลัง กกต.ประกาศรายชื่อ ขั้นตอน อยู่ระหว่างการพิจารณาคดีของศาลฎีกา ยันพิจารณาคดีรวดเร็วยุติธรรมมีประสิทธิภาพ
นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวถึงความคืบหน้าในการพิจารณาคดีเลือกตั้ง ส.ส.ภายหลัง กกต.ประกาศบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมาว่า ภายหลัง จากที่ กกต.ประกาศรายชื่อ ในวันที่ 16-17 ซึ่งเป็นวันหยุดราชการ เเต่ศาลชั้นต้นซึ่งมีหน้าที่รับคำร้องเเละไต่สวนก่อนที่จะส่งศาลฎีกาวินิจฉัย ได้เปิดทำการในวันหยุดเพื่อให้การพิจารณาพิพากษาคดีเลือกตั้งเป็นไปอย่างรวดเร็วเเละมีประสิทธภาพ จากข้อมูลที่ได้รับพบว่า มีคดีที่มีการยื่นคำร้องขอให้วินิจฉัยสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ในวันที่ 16 ก.พ.จำนวน 7 เรื่อง เเละวันที่ 17 ก.พ.จำนวน16 เรื่อง 2 วัน รวมกันจำนวน 23 เรื่อง ซึ่งขณะนี้ คดียังอยู่ระหว่างการพิจารณาของพิจารณาของศาลฎีกา
นายสุริยัณห์ กล่าวว่า คดีส่วนใหญ่ที่มีการร้องเข้ามาทั้ง 2 วันเเรก จะ เป็นคดียื่นคำร้องกรณีพรรคที่ผู้ร้องเป็นสมาชิกไม่ดำเนินการจัดตั้งสาขาพรรคการเมือง หรือตัวเเทน พรรคการเมืองประจำจังหวัด ตามมาตรา 145 พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง2560 ส่วนที่เหลือก็จะเกี่ยวกับเป็นสมาชิกพรรคเดียวน้อยกว่า 90 วัน (ลาออกจากพรรคเดิมแล้วมาเป็นสมาชิกพรรคใหม่) ,ไม่เป็นสมาชิกพรรคการเมืองเลย , เเละกรณีเป็นสมาชิกพรรคมากกว่า 1 พรรคการเมือง
โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวว่า คดีเลือกตั้ง ส.ส.ที่จะถูกนำเข้าสู่การพิจารณาของศาลฎีกา จะเป็นลักษณะคดี เช่น กรณีผู้สมัคร ส.ส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้งขอให้ศาลมีคำสั่งให้รับสมัครหรือเพิ่มชื่อเป็นผู้สมัคร, กรณีผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ขอให้ศาลมีคำสั่งให้รับสมัครหรือเพิ่มชื่อเป็นผู้สมัคร, กรณีอุทธรณ์คำวินิจฉัยของ กกต. ที่ให้ถอนการรับสมัครตามคำร้องของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งหรือผู้สมัครอื่น เเละกรณีผู้อำนวยการเขตการเลือกตั้งขอให้ถอนชื่อผู้สมัคร สส.แบบบัญชีรายชื่อและแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง
นายสุริยัณห์ กล่าวว่า เป็นที่คาดการณ์กันว่าจะมีปริมาณการร้องคดีที่เกี่ยวกับการทุจริตในการเลือกตั้งเขามาหลายรูปเเบบ เเละปริมาณที่มาก ทางสำนักงานศาลยุติธรรมได้เตรียมความพร้อม โดยมีการอบรมเเละเเจกคู่มือปฏิบัติราชการของตุลาการ ส่วนวิธีพิจารณาคดีเลือกตั้ง ส.ส. ตามรัฐธรรมนูญ 2562 เพื่อใช้เป็นแนวทางและวิธีปฏิบัติในการพิจารณาคดีของศาลฎีกา และศาลชั้นต้น ที่ได้รับมอบหมายให้ไต่สวนพยานแทน รวมถึงความพร้อมในส่วนของบุคคลากรและเครื่องมือสื่อสารในการติดต่อระหว่างศาลเพื่อรองรับคดีเลือกตั้ง ที่จะเข้าสู่การพิจารณาคดีของศาลฎีกาไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาคารสถานที่ งบประมาณ อัตรากำลัง รวมถึงจะใช้เทคโนโลยีในการประชุมซักซ้อมความเข้าใจให้แก่บุคลากรในศาลยุติธรรมเพื่อให้พร้อมที่สุดในการอำนวยความยุติธรรมให้แก่ทุกฝ่ายด้วยความรวดเร็ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้สมัคร ส.ส.ที่ถูก กกต. ตัดสิทธิ์ ทยอยเดินทางไปยื่นคำร้องต่อศาลฎีกา เพื่อขอให้วินิจฉัยสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ตามมาตรา 49 และมาตรา 59 ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. โดยมีรายงานว่าเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมามีผู้สมัคร เดินทางไปยื่นคำร้อง 7 เรื่อง โดยไปยื่นที่ศาลจังหวัดปทุมธานี 2 เรื่อง ศาลจังหวัดธัญบุรี จำนวน 2 เรื่อง ศาลแพ่งธนบุรี 1 เรื่อง ศาลจังหวัดกำแพงเพชร จำนวน 1 เรื่อง ศาลจังหวัดสีคิ้ว 1 เรื่อง
และในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ มีผู้ยื่นคำร้อง 16 เรื่อง ประกอบด้วย ศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี 1 เรื่อง ศาลจังหวัดเชียงใหม่ 3 คดี ศาลจังหวัดเพชรบูรณ์ 1 เรื่อง ศาลจังหวัดร้อยเอ็ด 7 เรื่อง ศาลจังหวัดสีคิ้ว 1 เรื่อง ศาลจังหวัดมหาสารคาม 1 คดี ศาลจังหวัดนครพนม 1 เรื่อง ศาลจังหวัดวิเชียรบุรี 1 คดี
ทั้งนี้คำร้องที่ผู้สมัคร ส.ส.มายื่น เกี่ยวกับเรื่องพรรคไม่ดำเนินการจัดตั้งสาขาพรรคการเมืองและตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด รวมทั้งกรณีเป็นสมาชิกพรรคมากกว่า 1 พรรคการเมือง .-สำนักข่าวไทย