กรุงไทยมองเศรษฐกิจไทยปีนี้โต 4.1% ภายใต้เศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว

กรุงเทพฯ 18 ก.พ. – ธนาคารกรุงไทย คาดเศรษฐกิจไทยปีนี้โตต่อเนื่องที่ 4.1% โดยภาคอุตสาหกรรมมีแรงปะทะมากขึ้นจากการเก็บภาษีระหว่างจีนและสหรัฐฯ แนะผู้ประกอบการเตรียมพร้อมรับมือยอดสั่งซื้อที่มีแนวโน้มลดลงและการแข่งขันด้านราคาที่อาจเพิ่มขึ้น 


นายพชรพจน์ นันทรามาศ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส สายงาน Global Business Development and Strategy ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยปีนี้จะเติบโตที่ 4.1% ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สคช.) ที่รายงานว่าเศรษฐกิจไทยปี 2561 ที่ผ่านมาเติบโต 4.1% และประมาณการปี 2562 ไว้ที่ 3.5 – 4.5%  โดยความเสี่ยงหลักในช่วง 6 เดือนข้างหน้า มาจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน และหากสถานการณ์สงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯยังไม่มีทางออกที่ดี จะเป็นปัจจัยกดดันภาคอุตสาหกรรมในครึ่งปีแรก การใช้นโยบายรัฐช่วยพยุงเศรษฐกิจยังมีความจำเป็น ความต่อเนื่องของการเบิกจ่ายงบประมาณด้านการลงทุนของภาครัฐในโครงการโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ จะเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนในช่วงเปลี่ยนผ่านทางการเมือง

“อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ คาดว่าจะไม่สูงกว่าปีที่ผ่านมา เป็นเพราะเศรษฐกิจโลกมีสัญญาณจะชะลอตัวลง โดย IMF ได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตเศรษฐกิจโลกจากเดิม 3.7% เหลือ 3.5% นักวิเคราะห์เริ่มให้คำเตือนถึงโอกาสการเกิดเศรษฐกิจถดถอย หรือ Recession โดยผลการสำรวจความเห็นนักวิเคราะห์ในเดือนมกราคม ให้โอกาสการเกิด Recession ในสหรัฐฯ ในช่วง 12 เดือนข้างหน้าที่ 26% เพิ่มขึ้นมากจากระดับ 14% ในปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ ภาคการผลิตของจีนอยู่ในภาวะชะลอตัวอย่างชัดเจน การส่งออกของไทยจึงมีแนวโน้มชะลอตัวเช่นกัน ทั้งนี้ภาคอุตสาหกรรมมีแรงปะทะมากขึ้น จากการเก็บภาษีนำเข้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ที่เริ่มส่งผลกระทบที่ชัดเจนมากขึ้น เห็นได้จากการชะลอคำสั่งซื้อจากคู้ค้าในประเทศจีน กำลังซื้อของประเทศตลาดเกิดใหม่รวมถึงอาเซียนที่อาจชะลอตาม ดังนั้นผู้ประกอบการควรเตรียมตัวกับยอดคำสั่งซื้อจากต่างประเทศที่มีแนวโน้มลดลง การแข่งขันด้านราคาที่น่าจะเพิ่มขึ้น”


ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ธนาคารกรุงไทย ประเมินต่อไปว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย จะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่  1.75% ต่อปี ในช่วงครึ่งปีแรก เพื่อพิจารณาผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวและสงครามการค้า การปรับตัวของตลาดเงินและตลาดทุน หลังเฟดส่งสัญญาณว่าจะระมัดระวังในการปรับขึ้นดอกเบี้ยที่ทำให้ดอลลาร์อ่อนค่าลง จนทำให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นค่อนข้างเร็ว รวมทั้งมาตรการควบคุมสินเชื่อ (LTV limit) ที่จะเริ่มบังคับใช้ในเดือนเมษายนนี้ อย่างไรก็ตาม หากผลกระทบจากปัจจัยเหล่านี้ไม่รุนแรง คาดว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสู่ระดับ 2%ต่อปี ในช่วงครึ่งปีหลัง . – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา

พปชร. เปิดตัวทัพใหญ่ ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา เผยเลือดไหลเข้าพรรคพร้อมรับใช้ประชาชนอีกมาก

สาวถูกงูเห่ากัดใช้เบตาดีนทา สุดท้ายถูกหามเข้า ICU

อุทาหรณ์ สาวโพสต์โดนงูเห่ากัดตอนตี 5 ล้างแผล ทาเบตาดีนสู้พิษงู ลุกไปเข้าเวรเช้าต่อ ก่อนภาพตัด ถูกหามเข้าไอซียู

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

เตือนพายุฤดูร้อนไทยตอนบน ฉ.1 มีผล 6-8 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 มีผลกระทบช่วงวันที่ 6-8 มี.ค.68 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ข่าวแนะนำ

ขอหมายจับสามีภรรยาแจ้งความเท็จไฟไหม้บ้านเผาเงิน 10 ล้าน

ตำรวจขอศาลออกหมายจับสามีภรรยา แจ้งความบ้านถูกไฟไหม้เผาเงิน 10 ล้านบาท ด้าน พฐ. ตรวจบ้านไฟไหม้ไม่พบไฟฟ้าลัดวงจร ยืนยันน่าจะเป็นการจงใจวางเพลิง พบเงิน 10 ล้าน ไม่มีจริง พร้อมตรวจสอบเส้นเงินอีก 6.5 ล้าน ที่ยึดได้ในรถ ส่อฟอกเงิน-บัญชีม้า

พายุฤดูร้อนถล่มอีสาน

พายุฤดูร้อนถล่มอีสาน ลมแรง ต้นไม้ล้ม

ไทยเข้าสู่ฤดูร้อนไปเมื่อวันศุกร์ ที่ 28 ก.พ.68 หลายพื้นที่ถูกพายุฤดูร้อนพัดถล่ม โดยเฉพาะเมื่อวานฝนกระหน่ำ ลมแรง ต้นไม้ล้ม ต้นทุเรียนโค่น อุตุฯ เตือนช่วง 6-8 มีนาคมนี้ ระวังพายุฤดูร้อน

ระดมชุดสืบสวนเร่งไล่ล่าคนร้ายชิงทอง 102 บาท

ตำรวจภูธรภาค 6 ระดมชุดสืบสวนเร่งไล่ล่าโจรชิงทองกลางห้างดังแม่สอด พร้อมจำลองเหตุการณ์ถอดแผนประทุษกรรมคนร้าย คาดมีข่าวดีเร็วๆ นี้ ขณะที่ 5 อำเภอชายแดน ยังเข้มตั้งจุดตรวจ-จุดสกัด ป้องกันคนร้ายหนีข้ามแดน

นายกฯ พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน

นายกฯ หารือภาคเอกชน พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน เยอรมนี พูดคุยข้อจำกัดการขออนุญาตจำหน่ายยาและเวชภัณฑ์พัฒนาการรักษาโรคในไทย สานต่องานอดีตนายกฯ เศรษฐา พร้อมขอให้เป็นตัวกลางส่งออกสินค้าเกษตรไทยไปต่างประเทศ