สมาคมธนาคารไทยเตือนแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกเงินกลับมาระบาดหนักช่วงนี้

กรุงเทพฯ 31 ส.ค.-สมาคมธนาคารไทย ระบุ กลุ่มคนร้ายแก็งคอลเซ็นเตอร์ได้กลับมาหลอกลวงประชาชนในช่วงนี้มากขึ้น เตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อไปทำธุรกรรมผ่านเครื่องเอทีเอ็มหรือเครื่องฝากเงินสดอัตโนมัติตามที่กลุ่มคนร้ายกล่าวอ้างในโทรศัพท์


รายงานข่าวจากสมาคมธนาคารไทย แจ้งว่า ขณะนี้มีกลุ่มคนร้ายแก็งคอลเซ็นเตอร์ได้กลับมาหลอกลวงประชาชนในช่วงนี้มากขึ้น โดยคนร้ายจะใช้การโทรศัพท์ผ่านระบบคอมพิวเตอร์ หรือ VOIP (Voice over IP) ที่สามารถแปลงสัญญาณเพื่อปลอมเป็นหมายเลขโทรศัพท์ในไทยเบอร์ใดก็ได้ แล้วอ้างชื่อว่าโทรศัพท์มาจากธนาคารพาณิชย์เรื่องสินเชื่อ รวมทั้งแอบอ้างเป็นกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อให้เหยื่อไปทำธุรกรรมใด ๆ ที่ตู้เอทีเอ็ม แล้วหลอกให้ทำรายการโอนเงินหรือบางครั้งจะให้ถอนเป็นเงินสด แล้วฝากผ่านเครื่องฝากเงินสดอัตโนมัติเข้าบัญชีที่กลุ่มคนร้ายเปิดไว้

ทั้งนี้ แก๊งคอลเซ็นเตอร์จะมีกลวิธีที่หลากหลายในการหลอกหลวงเหยื่อ ทั้งการสร้างเรื่องให้ตกใจ หรือเกิดความคาดหวังในรางวัลและเงินคืนต่าง ๆ เช่น แจ้งว่าบัญชีถูกแอบอ้างไปทำเรื่องทุจริต, สินเชื่อได้รับการอนุมัติ, ติดตามทวงถามหนี้บัตรเครดิต, มีรายการใช้บัตรเครดิตผิดปกติ, ได้รับเงินคืนภาษี, การถูกรางวัล หรือการเข้าไปเกี่ยวพันกับแก๊งค้ายาเสพติด ฯลฯ โดยกลุ่มมิจฉาชีพเพิ่มความน่าเชื่อถือด้วยใช้เทคโนโลยีมากำหนดให้เลขหมายที่แสดงบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือไปตรงกับเลขหมายโทรศัพท์ขององค์กรที่แอบอ้าง ซึ่งสร้างความสูญเสียให้แก่ประชาชนผู้บริสุทธิ์เป็นจำนวนมาก และมีผู้ที่ถูกหลอกลวงเป็นทั้งชาวบ้านทั่วไป ข้าราชการ นักธุรกิจ รวมถึงผู้ที่มีการศึกษาสูง


สมาคมธนาคารไทย ขอแจ้งว่าธนาคารพาณิชย์ไม่มีนโยบายในการโทรศัพท์ไปสอบถามข้อมูล หรือติดตามหนี้ แล้วให้ลูกค้าไปทำรายการต่าง ๆ ผ่านเครื่องเอทีเอ็ม หรือเครื่องฝากเงินสดอัตโนมัติแต่อย่างใด ดังนั้นประชาชนควรระมัดระวังในการบอกรายละเอียดข้อมูลส่วนตัว ข้อมูลการเงิน และไม่หลงเชื่อไปทำธุรกรรมผ่านเครื่องเอทีเอ็มหรือเครื่องฝากเงินสดอัตโนมัติตามที่ได้รับแจ้งทางโทรศัพท์

ในช่วงที่ผ่านมาสมาคมธนาคารไทย ให้ความสำคัญในการหาแนวทางป้องกันการทุจริตจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยให้ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการติดตามจับกุมแก็งดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีการตั้งทีมงานควบคุมและป้องกันการทุจริตติดตามพฤติกรรม และหาวิธีป้องกันการทุจริตของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เพื่อป้องกันไม่ให้คนร้ายใช้บัญชีของธนาคารในการกระทำการทุจริตต่อลูกค้าในรูปแบบใด ๆ อย่างไรก็ตาม กลุ่มมิจฉาชีพดังกล่าวมักจะโทรศัพท์มาจากต่างประเทศ และปรับเปลี่ยนรูปแบบการหลอกลวง และหน่วยงานที่นำมาแอบอ้างไปเรื่อย ๆ ทำให้การติดตาม จับกุม และปราบปรามเป็นไปได้ลำบาก ดังนั้นหากลูกค้าได้รับโทรศัพท์จากบุคคลที่ไม่คุ้นเคยสอบถามข้อมูลการเงิน หรือสร้างเรื่อง ซึ่งอาจจะทำให้วิตกกังวลในการที่จะเข้าไปพัวพันกับคดีต่าง ๆ ขอให้ตั้งสติพิจารณาให้ดี อย่าได้รีบเร่งดำเนินการใด ๆ และหากไม่แน่ใจหรือมีข้อสงสัยสามารถโทรศัพท์เข้าไปสอบถามคอลเซ็นเตอร์ของธนาคารพาณิชย์หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงทันที

นอกจากนี้สมาคมธนาคารไทยยังแนะนำให้ประชาชนเก็บรักษาบัตรประชาชนให้ดี และระมัดระวังในการให้สำเนาบัตรประชาชนแก่ผู้อื่น อันอาจนำไปสู่การแอบอ้างเปิดบัญชี เพื่อเป็นบัญชีขารับเงินของมิจฉาชีพ ซึ่งการให้ความร่วมมือกับกลุ่มคนร้ายในการรับจ้างเปิดบัญชีเงินฝากจะมีความผิดตามกฎหมาย-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พยาบาลถูกตบ

“สมศักดิ์” พร้อมช่วยคดี “พยาบาลสาว” ถูกญาติผู้ป่วยตบหน้า

“สมศักดิ์” รมว.สธ. พร้อมสนับสนุนหา “ทนายความ” ช่วยคดี “พยาบาลสาว” ถูกญาติผู้ป่วยตบหน้า บอกหากเจ้าตัวไม่ดำเนินคดี กระทรวงฯ พร้อมออกโรงแทน หวั่นเป็นเยี่ยงอย่าง

รพ.ระยอง ยันดำเนินคดีถึงที่สุดญาติคนไข้ตบพยาบาล

โรงพยาบาลระยอง แถลงปมญาติคนไข้ตบหน้าพยาบาล เผยหลังเกิดเหตุได้ดูแลอาการบาดเจ็บของพยาบาลผู้ประสบเหตุทันที ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด

ข่าวแนะนำ

“หลิว จงอี” ถึงกลาโหม เสนอ 4 ข้อปราบแก๊งคอลฯ

“หลิว จงอี” ถึงกลาโหม เตรียมเสนอ 4 มาตรการปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ “บิ๊กอ้วน” คณะทูตจีนรอต้อนรับ ขณะเจ้าตัวสีหน้ายิ้มแย้ม ไม่ตอบสื่อ

สธ.ลั่นเอาผิดญาติคนไข้ตบพยาบาลให้ถึงที่สุด

ผอ.โรงพยาบาลระยอง เข้าพบผู้ช่วย รมว.สาธารณสุข ปมญาติคนไข้บุกตบพยาบาล สธ. ยืนยันต้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ด้านพยาบาลยังเครียด เยื่อบุแก้วหูอักเสบรุนแรง

รวบชาวจีนเช่าคอนโดพระราม 9 เปิดเว็บพนันออนไลน์

ตำรวจบุกจับ ชาวจีน 15 คน เช่าคอนโดยกชั้น ย่านพระราม 9 เปิดเป็นฐานปฏิบัติการเว็บพนันออนไลน์ พบเงินหมุนเวียนในบัญชีดิจิทัล กว่า 9 ล้านบาท