รัฐสภา 3 เม.ย. – “ประเสริฐ” ยัน รัฐบาลจริงจังปราบปรามพนันออนไลน์-แก๊งคอลเซนเตอร์ โชว์ตัวเลขปิดเว็บพนัน กว่า 30,000 เว็บ 700,000 ซิมม้า
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ชี้แจงฝ่ายค้าน โดยยืนยันงบลงทุนของกรมอุตุนิยมวิทยา ปีนี้มีเพียง 1,022 ล้านบาท ไม่ได้สูงถึง 2,012 ล้านบาทตามที่ฝ่ายค้านอภิปราย
ส่วนกลุ่มเว็บพนันออนไลน์และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งฝ่ายค้านโจมตีว่ารัฐบาลบกพร่องในการแก้ปัญหานั้น ขอยืนยันว่าตั้งแต่รัฐบาลของนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ขึ้นบริหารราชการแผ่นดิน ให้ความสำคัญกับการปราบปรามทุจริต อาชญากรรมทางไซเบอร์ทุกรูปแบบ โดยนายกฯ ได้เรียกตนไปพบหลายครั้ง และเรียกหน่วยงานอื่นๆด้วย รวมถึงเชิญประธาน กสทช. ไปพบ เพื่อแก้ปัญหาร่วมกัน พร้อมระบุก่อนที่รัฐบาลจะเข้ามาบริหาร มีการปิดเว็บพนันออนไลน์ไปกว่า 2000 เว็บ แต่เมื่อรัฐบาลเข้ามาบริหาร 6 เดือนได้ปิดเว็บพนันไปแล้วกว่า 30,000 เว็บ
ขณะเดียวกัน เรื่องของซิมม้าได้ ประสาน กสทช. มีการปิดซิมที่ไม่ได้มีการจดทะเบียนไปแล้วกว่า 700,000 ซิม และยังดำเนินการอย่างต่อเนื่องควบคู่กับการปราบปรามสัญญาณเถื่อน
ส่วนเรื่องศูนย์ AOC 1441 คือการบูรณาการระหว่างโอปะเรเตอร์ทุกค่าย กสทช. ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็ได้รับโทรศัพท์จากประชาชนต่อเนื่องตั้งแต่เปิดศูนย์ในเดือนพฤศจิกายน 2566 มีคนโทรเข้ามาแล้วกว่า 500,000 ราย เฉลี่ยวันละประมาณ 3000 สาย ซึ่งแต่ละสายก็ใช้เวลาตั้งแต่ 45 นาที ถึง 1 ชั่วโมง เพื่อเล่ารายละเอียดต่างๆ เพื่อนำไปดำเนินการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน โดยพบว่าความเสียหายที่มากที่สุดคือการหลอกให้ลงทุน เฉลี่ยต่อวันประมาณ 80 ล้านบาท ซึ่งการแก้ปัญหาเว็บพนันและแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ไม่เพียงแต่บูรณาการหน่วยงานในประเทศ แต่ยังมีการประสานงานความร่วมมือระหว่างประเทศภายใต้กรอบอาเซียน มีการผลักดันคณะทำงานอาเซียนด้านการป้องกันการหลอกลวงทางสื่อออนไลน์ ซึ่งเมื่อ 19 มีนาคมที่ผ่านมา ปลัดกระทรวงดีอี ได้เดินทางไปทำข้อตกลงที่กรุงพนมเปญ เพื่อขอความร่วมมือให้ดำเนินการกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่อาศัยกัมพูชาและแนวชายแดนเป็นที่พำนัก นอกจากนี้ ยังได้ขอความร่วมมือจากแอปพลิเคชันต่างๆ เช่น Facebook TikTok ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี
นายประเสริฐ กล่าวต่อว่า นอกจากปราบปรามปัญหาแล้ว รัฐบาลยังให้ความสำคัญต่อการนำเทคโนโลยีมาพัฒนาชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชน เช่นกรณีบัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกโรค เป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงสาธารณสุข โดยได้นำร่องที่จังหวัดนครราชสีมา และกำลังดำเนินการตั้งศูนย์ข้อมูลเพื่อให้มีการเชื่อมโยงข้อมูลด้านสุขภาพระหว่างโรงพยาบาลที่สังกัดกระทรวงสาธารณสุขและนอกสังกัด ซึ่งหากการดำเนินการดังกล่าวเสร็จสิ้นก็จะเป็นประโยชน์กับประชาชนในการรักษาพยาบาล ที่จะให้มีการเชื่อมหรือโอนถ่ายข้อมูลในการรักษาได้อย่างรวดเร็วเพียงไม่กี่วินาที
ส่วนโครงการ Clound ID ก็เป็นโครงการสำคัญและเป็นธงอันหนึ่งของกระทรวงที่จะดำเนินการให้ได้ภายในปี 2567 และโครงการดังกล่าวเชื่อมโยงกับทางกระทรวง ดังนั้นก่อนที่จะนำเข้า ครม. จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการสอบถามและประสานกับอีก 20 กระทรวง
นายประเสริฐ ยังกล่าวถึง กรณีสมาชิกได้อภิปรายถึงการทำงานของ กสทช. ว่า หากมีความจำเป็นก็อาจต้องมีการแก้ไขกฎหมาย กสทช. ซึ่งต้องขอความร่วมมือจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกคนที่ต่างก็สะท้อนปัญหาของ กสทช. ในปัจจุบัน พร้อมยืนยันรัฐบาลพร้อมน้อมรับข้อเสนอแนะต่างๆจากฝ่ายค้าน เพื่อนำไปดำเนินการเพื่อประโยชน์ของประชาชน -313 .-สำนักข่าวไทย