กรุงเทพฯ 6 ก.พ. – เลือกตั้งและเงินทุนต่างชาติไหลเข้าตลาดหุ้น ดันดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนเดือนกุมภาพันธ์เพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน นักลงทุนจับตาเสถียรภาพรัฐบาลใหม่หลังเลือกตั้ง
นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้าปรับตัวเพิ่มขึ้น ร้อยละ 25.07 มาอยู่ที่ระดับ 116.76 เพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน โดยอยู่ในเกณฑ์ทรงตัว ผลสำรวจพบว่านักลงทุนเชื่อมั่นสถานการณ์การเมืองที่มีการกำหนดวันเลือกตั้งที่ชัดเจนและภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่มีการเติบโตต่อเนื่อง รวมถึงการเคลื่อนย้ายเงินทุนของต่างประเทศที่มียอดซื้อสุทธิในช่วงเดือนมกราคม และการคลายความกังวลที่ลดลงจากการส่งสัญญาณชะลอปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายทางการเงินของสหรัฐ เป็นปัจจัยหนุนความเชื่อมั่นนักลงทุน
ขณะที่ความคืบหน้าผลการเจราจาทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน และเสถียรภาพของรัฐบาลใหม่หลังเลือกตั้ง ความต่อเนื่องของนโยบายภาครัฐ ทิศทางเงินทุนเคลื่อนย้ายระหว่างประเทศ เป็นปัจจัยที่ต้องติดตาม เพราะอาจจะฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุน
ทั้งนี้ กลุ่มหลักทรัพย์ที่นักลงทุนสนใจให้ความสนใจลงทุนมากที่สุด อยู่ในหมวดการท่องเที่ยวและสันทนาการ หมวดธนาคาร และหมวดพาณิชย์ ขณะที่มองว่าหมวดสื่อและสิ่งพิมพ์ หมวดเหล็ก และหมวดแฟชั่น ไม่น่าสนใจลงทุนมากที่สุด
อย่างไรก็ตาม เงินทุนต่างชาติมีแนวโน้มไหลเข้ามาซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยเดือนกุมภาพันธ์มากขึ้นเมื่อเทียบเดือนมกราคมที่มียอดซื้อสุทธิ 6,580 ล้านบาท เนื่องจากปัจจัยต่างประเทศมีทิศทางดีขึ้น ทั้งสงครามการค้าที่มีสัญญาณดีและธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณชะลอการขึ้นดอกเบี้ย ส่งผลให้เงินทุนต่างชาติเริ่มไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นกลุ่มประเทศเกิดใหม่ รวมถึงประเทศไทย ประกอบกับ ปัจจัยภายในประเทศ คือ การเลือกตั้ง ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน และเชื่อว่าจะมีเม็ดเงินไหลเข้าต่อเนื่อง ขณะที่หลังช่วงเลือกตั้งต้องมาคอยติดตามสถานการณ์อีกครั้งว่าจะเป็นอย่างไร ส่วนช่วงก่อนเลือกตั้งคาดจะมีเงินสะพัดเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจประมาณ 50,000 ล้านบาท จากการทำกิจกรรมของพรรคการเมือง ซึ่งจะส่งผลดีกับตลาดหุ้น. – สำนักข่าวไทย
