กรุงเทพฯ 5 ก.พ. – “อมตะ” เผยอานิสงส์สงครามการค้า จีนเจรจาขอขยายพื้นที่ลงทุนในไทยเพิ่ม ส่วน “เลือกตั้ง” สร้างความเชื่อมั่น แต่หลังเลือกตั้งย้ำขอบ้านเมืองสงบ
นายวิบูลย์ กรมดิษฐ์ กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่การตลาด บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด ( มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีนักลงทุนต่างประเทศสนใจเข้ามาเจรจา เพื่อใช้พื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ทั้งระยองและชลบุรีเพิ่มขึ้นในช่วงนี้ ทั้งเกิดจากปัจจัยปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน ทำให้นักลงทุนจีนเตรียมแผนย้ายฐานลงทุน เพื่อลดความเสี่ยงการจัดเก็บภาษีของสหรัฐ รวมถึงเรื่องความเชื่อมั่นการลงทุน เพราะไทยมีการเลือกตั้ง รวมทั้งโครงการลงทุนเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ซึ่งคาดว่าแต่ละรายที่เจราจรจะได้ข้อสรุปการลงทุนเร็ว ๆ นี้
“แม้การเลือกตั้งจะสร้างความเชื่อมั่นมากขึ้น แต่สิ่งที่นักลงทุนอยากเห็น คือ ความสงบทางการเมืองไม่มีปัญหาขัดแย้งเหมือนในอดีต ซึ่งหากเลือกตั้งเสร็จสิ้นจัดตั้งรัฐบาลเรียบร้อย โครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐไม่เปลี่ยนแปลง เช่น อีอีซี เชื่อมั่นว่าการลงทุนจะเพิ่มขึ้นเป็นผลดีต่อประเทศแน่นอน” นายวิบูลย์ กล่าว
นายวิบูลย์ กล่าวว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้นักลงทุนฝรั่งเศสได้เยี่ยมชมนิคมฯ อมตะ ชลบุรี ซึ่งทางนิคมฯ พร้อมรับการลงทุน โดยขณะนี้นิคมฯ ได้พัฒนาให้เป็นสมาร์ทซิตี้ใช้เทคโนโลยีมาส่งเสริมทุกรูปแบบ โดยในส่วนของพลังงานทดแทนได้ส่งเสริมโซลาร์รูฟท็อปและเทคโนโลยีรองรับ ขณะเดียวกันอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการโซลาร์ลอยน้ำในพื้นที่อ่างเก็บน้ำของ 2 นิคมฯ โดยเบื้องต้นจะให้เอกชนเข้ามาเสนอราคาแข่งขัน อาจจะเริ่มต้นที่ประมาณพื้นที่ลด 1 เมกะวัตต์ก่อน เพื่อจะขอดูราคาและเทคโนโลยี ซึ่งเบื้องต้นจะเป็นโครงการที่ช่วยลดต้นทุนค่าไฟฟ้าส่วนกลางสำหรับระบบสาธารณูปโภคต่าง ๆ
นายวิบูลย์ กล่าวด้วยว่า อมตะฯ ห่วงใยปัญหาสิ่งแวดล้อมและปัญหาฝุ่น ได้เน้นย้ำทุกโรงงานปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การควบคุมมลพิษอย่างเคร่งครัด อย่างไรก็ตาม โรงงานในอมตะส่วนใหญ่เป็นโรงงานเทคโนโลยีที่ไม่ได้ก่อให้เกิดปัญหามลพิษอยู่แล้ว ทั้งนี้ ในพื้นที่นิคมฯ เองก็มีการติดตามปัญหา โดยติดตั้งตัววัดคุณภาพอากาศรอบพื้นที่นิคมฯ โดยติดในชุมชนต่าง ๆ เพื่อให้ชาวบ้านร่วมสังเกตการณ์ ซึ่งในอมตะฯชลบุรีติดตั้ง 6 สถานี ซึ่งไม่พบว่าทั้งคุณภาพก๊าซ, ฝุ่น ไม่เกินค่ามาตรฐานแต่อย่างใด โดยสถานีฯ นี้ยังตรวจวัดปริมาณแสงแดดและน้ำฝน ทำให้รับทราบถึงแนวโน้มการพัฒนาพลังงานแสงอาทิตย์ในนิคมฯ ได้ด้วย.-สำนักข่าวไทย