ชพน.เปิดตัว 343 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทั่วประเทศ

โรงแรมรามาการ์เด้นท์ 31 ม.ค.-พรรคชาติพัฒนา แถลงนโยบายก้าวหน้า ก้าวไกล ไทยไร้ปัญหา ด้านการท่องเที่ยวเป็นวาระแห่งชาติ พร้อมเปิดตัว 343 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทั่วประเทศ ชู “เทวัญ ลิปตพัลลภ” เป็นว่าที่ผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 1


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (31 ม.ค.) พรรคชาติพัฒนา เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทั่วประเทศ โดย มี ส.ส.เขต 279 คน และ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 64 คน รวม 343 คน ซึ่งมีนายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา เป็นว่าที่ผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 พร้อมจัดกิจกรรมส่องสว่าง นำแสงเป็นทางออกแก้ปัญหาให้กับประเทศไทย นำโดย นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา ที่หยิบไฟฉายส่องแสง ร่วมกับสมาชิกพรรคทั้งหมดที่เปิดแฟลชโทรศัพท์ ร่วมกันเต็มพื้นที่การจัดงาน 

ทั้งนี้ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา แถลงนโยบายพรรคก้าวหน้าก้าวไกลไทยไร้ปัญหา โดยมีนโยบาย 9 ด้าน ได้แก่ 1.นโยบายการศึกษา ที่เด็กไทยสามารถเรียนรู้ 2 ภาษา เน้นการเรียนรู้นอกห้องเรียน โดยให้ทุกจังหวัดสร้างอุทยานแห่งการเรียนรู้ และแก้ไขปัญหาหนี้สินครู 2.นโยบายเศรษฐกิจรากหญ้าเพื่อให้เกษตรกรสามารถอยู่ได้ด้วยตนเอง โดยจัดตั้งกองสวัสดิการเพื่อเกษตรกร 20,000 ล้านบาท พร้อมสร้างเกษตรกรรุ่นใหม่และจัดโซนนิ่งการทำเกษตร ตลอดจนตั้งกองทุนพัฒนาตำบลในเรื่องของการท่องเที่ยว 2 ล้านบาท 


3.นโยบายสังคม ต่ออายุการเกษียณอายุราชการ เป็นอายุ 65 ปี เพราะเห็นว่าผู้สูงอายุจำนวนมากยังมีประสบการณ์และสามารถทำงานได้ ปรับเบี้ยผู้สูงอายุเป็น 2,000 บาทเท่ากันทุกคน และลูกกตัญญูสามารถนำค่ารักษาพยาบาลของพ่อ-แม่มาลดหย่อนภาษีได้ 4.นโยบายโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจ เชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานกับประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมเร่งสร้ามอเตอร์เวย์และพัฒนารถไฟรางคู่ให้ครอบคลุมทั้งประเทศ 5.นโนบายอุตสาหกรรม พลังงาน และสิ่งแว้ดล้อม เน้นการใช้พลังงานทดแทนเป็นพลังงานหลัก ทั้งพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม โดยจัดตั้งกองทุนโซลาร์รูฟท็อป เพื่อให้ประชาชนกู้เงินในการจัดทำพลังงานทดแทน 

6.นโยบายการท่องเที่ยว โดยผลักดันการท่องเที่ยวให้เป็นวาระแห่งชาติ เพราะการท่องเที่ยวเป็นรายได้หลักและเป็นจุดแข็งของประเทศ พร้อมทั้งผลักดันโครงการไทยแลนด์ริเวียร่า ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเลียบชายหาด ทั้งฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน รวมทั้งพัฒนาอาหารไทย เป็นครัวไทยครัวโลก 7.นโยบายเศรษฐกิจดิจิทัล โดยให้ใช้ระบบ 5G และตั้งกองทุน startup 5,000 ล้านบาท 8.นโยบายการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น เพิ่มเงินค่าตอบแทนให้แก่ อสม. 2,000 บาท เพื่อให้มีกำลังใจในการช่วยเหลือชุมชน และ 9.นโยบายกีฬา คือ กีฬาสร้างคนสร้างชาติ รู้จักแพ้รู้จักชนะ และทำตามกฎกติกา จะทำให้เกิดความรักความสามัคคี พร้อมให้มีการจัดสร้างสนามกีฬา เป็น Mini Sport Complex หรือ Mini ฟิตเนส เพื่อให้ทุกคนมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง และจัดกีฬาใหญ่ ๆ ภายในประเทศ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง