ก. เกษตรฯ ไฟเขียวซื้อเครื่องบินฝนหลวง 1.4 พันล้านบาท

กรุงเทพฯ 25 ม.ค. – รมว.เกษตรฯ ไฟเขียวกรมฝนหลวงฯ ซื้อเครื่องบินใหม่ 2 ลำ เฮลิคอปเตอร์ 1 ลำ งบกว่า 1,400 ล้านบาท เชื่อมั่นฝนหลวงมีศักยภาพช่วยทำฝนช่วยเหลือพื้นที่นอกเขตชลประทาน 120 ล้านไร่ ด้านอธิบดีฝนหลวงฯ ระบุมีภารกิจมากขึ้น เร่งเจรจา ก.พ.เพิ่มอัตรากำลังอีกเท่าตัว เผยขาดแคลนนักบินกว่า 10 อัตรา


นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการเกษตรและสหกรณ์ กล่าวมอบนโยบายผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กรมฝนหลวงและการบินเกษตร เนื่องในงานวันคล้ายวันสถาปนากรมฝนหลวงฯ ครบรอบ 2 ปี ว่า กรมฝนหลวงฯ สามารถช่วยชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกรได้ดียิ่งขึ้น หัวใจสำคัญการทำการเกษตรประกอบด้วยดิน น้ำ และอากาศ ประเทศไทยมีพื้นที่เกษตรกรม 149 ล้านไร่ อยู่ในเขตชลประทาน 30 ล้านไร่ ส่วน 120 ล้านอยู่นอกเขตชลประทานต้องอาศัยน้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติและน้ำฝน ซึ่งการปฏิบัติการฝนหลวงช่วยให้เกษตรกรส่วนใหญ่มีน้ำใช้ในการทำการเกษตร


สำหรับการทำฝนหลวงแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลได้ใช้เทคนิคตามตำราฝนหลวงพระราชทาน ทำให้เกิดฝนตกในกรุงเทพฯ และรอบนอก เมื่อวันที่ 15 มกราคมที่ผ่านมาประสบผลสำเร็จอย่างดียิ่ง แต่ช่วงนี้ความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศต่ำและค่าดัชนีการยกตัวของเมฆอยู่ในเกณฑ์ไม่เหมาะสมจึงยังเป็นอุปสรรค แต่สั่งให้กรมฝนหลวงฯ เตรียมพร้อมตลอดเวลาเมื่อสภาพอากาศเอื้ออำนวยให้ขึ้นปฏิบัติการทันที ขณะนี้ได้จัดตั้งหน่วยฝนหลวงเคลื่อนที่เร็ว ซึ่งมีเครื่องมือติดตามสภาพอากาศ นักวิทยาศาสตร์ นักบิน เครื่องบินและสารฝนหลวงพร้อมปฏิบัติการทุกทิศของกรุงเทพฯ ตามทิศทางลมที่จะพัดเมฆเข้ามาตกเป็นฝนในกรุงเทพฯ เพื่อบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก

นายกฤษฎา กล่าวถึงมาตรการแก้ปัญหาเผาซากพืชและวัชพืชจากการทำเกษตรว่า ที่ผ่านมาประสานกับกระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รณรงค์ทำความเข้าใจกษตรกร ทำให้การเผาลดลงอย่างมากตรวจสอบได้จากจุดความร้อน (Hotspot) ลดลงตั้งแต่ปี 2560 รวมทั้งกระทรวงเกษตรฯ แนะนำให้เกษตรกรใช้สารชีวพันธุ์ช่วยย่อยสลายซากพืช เช่น ตอกซังข้าว หลังจากเก็บเกี่ยวข้าวแล้ว รวมถึงข้าวโพดยังคงมีตอของต้นเหลืออยู่ จากเดิมเกษตรกรใช้วิธีเผา ซึ่งปัจจุบันไถกลบแล้วใช้สารจุลินทรีย์ช่วยย่อยสลายภายใน 1สัปดาห์ โดยขณะนี้เกษตรกรนิยมใช้กันมาก ส่วนฝุ่นควันที่มาจากประเทศเพื่อนบ้านทุกปีนั้น ได้ประสานงานเพื่อขอความร่วมมืองดเผาซากพืช ซึ่งรัฐบาลทำได้ก้าวหน้าระดับหนึ่ง โดยช่วงฤดูแล้งเครื่องบินพาณิชย์ไม่ต้องหยุดบินเหมือนบางปี

นายกฤษฎา กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้เห็นชอบแผนเพิ่มประสิทธิภาพฝนหลวง  ซึ่งปัจจุบันมีเครื่องบินขนาดใหญ่ 14 ลำ และให้จัดซื้อใหม่อีก 2 ลำ เพื่อทดแทนเครื่องบินฝูงเก่าที่ใช้งานมานานมีอายุตามวงรอบและจัดหาเฮลิคอปเตอร์ อีก 1 ลำ ตั้งงบประมาณไว้แล้ว นอกจากนี้ ได้ให้แนวทางนายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงฯ และเจ้าหน้าที่ช่วยกันทดลองศึกษาหาเทคนิคเพิ่มเติมกรณีความชื้นสัมพัทธ์และค่าดัชนีการยกตัวของเมฆไม่เหมาะสมจะขึ้นปฏิบัติการฝนหลวงได้ ซึ่งนายสุรสีห์รายงานว่าขณะนี้กำลังทำวิจัยพัฒนาประสิทธิภาพของสารฝนหลวง โดยพัฒนาให้สามารถดูดความชื้นมากขึ้นและจะนำไปทดลองใช้ในการปฏิบัติการหน้าแล้งนี้ 


ส่วนสถานการณ์น้ำจากนี้ไปจนกระทั่งถึงช่วงต้นฤดูฝน กรมชลประทานยืนยันว่ามีน้ำเพียงพอ แม้จะมีการปลูกข้าวต่อเนื่องกันมาก จากที่รณรงค์ให้ปลูกพืชใช้น้ำน้อยแทน แต่เนื่องจากข้าวราคาดี เกษตรกรจึงยังคงปลูกข้าว จึงกำชับให้กรมชลประทานบริหารจัดการน้ำตามแผนที่วางไว้อย่างเคร่งครัด ยืนยันว่ามีน้ำใช้เพียงพอทั้งเพื่ออุปโภคบริโภค การเกษตร และรักษาระบบนิเวศน์อย่างแน่นอน

ด้านนายสุรสีห์ กล่าวว่า กำลังจัดซื้อเครื่องบินใหม่คาซ่า 2 ลำ งบ 900 ล้านบาท จากประเทศอินโดนีเซีย และเฮลิคอปเตอร์ 1 ลำ ราคา 500 ล้านบาท เป็นงบประมาณต่อเนื่องปี 2561-2563 โดยปีนี้จะได้เครื่องบินคาช่ามา 1 ลำ และปีหน้าอีก 1 ลำ มาทดแทนเครื่องเก่า ซึ่งเครื่องบินฝนหลวงที่มีอายุการใช้งานเก่าสุด 40 ปี และใหม่สุด 2 -3 ปี ซึ่งเครื่องบินที่สั่งมาใหม่มีเทคโนโลยีทันสมัยมากขึ้น ทั้งนี้ ยังมีปัญหาบุคลากรไม่เพียงพอ โดยขณะนี้มีข้าราชการ 205 คน พนักงานและลูกจ้างกว่า 200 คน ซึ่งภารกิจฝนหลวงเพิ่มขึ้นทั้งพื้นที่เกษตรและในเขตเมืองจากภาวะความเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งได้เสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ซึ่งสั่งการให้หารือกับสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ขออัตรากำลัง พร้อมเปิดรับสมัครนักบินอีก 4 ตำแหน่ง แทนผู้เกษียณอายุราชการ ทั้งนี้ กรมฝนหลวงฯ ยังต้องการนักบินเพิ่มอีก 10 ตำแหน่ง จึงจะมีจำนวนเหมาะสมกับภารกิจ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

แฟนนางงามแห่ต้อนรับ “โอปอล” กลับไทยสุดอบอุ่น

กรุงเทพฯ 14 มิ.ย. – แฟนนางงามแห่รับ “โอปอล สุชาดา” Miss World 2025 กลับไทยสุดอบอุ่น ก่อนขึ้นรถแห่ฉลองทั่วกรุง “โอปอล” สุชาตา ช่วงศรี มิสเวิลด์ 2025 เดินทางกลับถึงไทย ด้วยเที่ยวบิน TG603 ร่วมงาน ‘Home Coming 72nd Miss World 2025’ ท่ามกลางการต้อนรับสุดอบอุ่นจากแฟนนางงามแน่นสนามบินสุวรรณภูมิ โอปอล กล่าวขอบคุณคนไทย และบอกว่ามงกุฎนี้เป็นของพวกเราทุกคน ตั้งเป้าใช้ตำแหน่งเพื่อช่วยเหลือสังคม หลังจบพิธี โอปอลขึ้นรถโรลส์-รอยซ์เปิดประทุน โบกธงชาติไทย มุ่งหน้าท้องฟ้าจำลอง ร่วมขบวนแห่ฉลองชัยมิสเวิลด์คนแรกของประเทสไทยอย่างสมเกียรติ บรรยากาศที่ท้องฟ้าจำลองมีประชาชนมารอต้อนรับโอปอล บรรดาแฟนนางงามต่างแสดงสัญลักษณ์ด้วยการใส่ชุดสีฟ้า บางคนมีการทำมงกุฎ Miss World มาใส่ และทันทีที่รถของโอปอลเลี้ยวเข้ามายังท้องฟ้าจำลอง มีการโห่ร้องต้อนรับอย่างอบอุ่น ส่วนแรงบันดาลใจในการทำรถขบวนแห่ของ Miss World 2025 นี้ นายธีรฉัตร อินถา ผู้ออกแบบขบวน ระบุว่า ได้มีการนำวัฒนธรรมผสมผสานระหว่างสากลและวัฒนธรรมไทย […]

ประชุม JBC วันแรกเป็นไปด้วยดี สองฝ่ายหารือตรงไปตรงมา

14 มิ.ย.- โฆษก กต. เผยการประชุม JBC “ไทย-กัมพูชา” บรรยากาศเป็นไปด้วยดี ทั้งสองฝ่ายหารือกันอย่างตรงไปตรงมา พร้อมย้ำไทยไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก สำหรับการประชุมจะเสร็จสิ้นในวันพรุ่งนี้ นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงการประชุมกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย – กัมพูชา หรือ JBC ครั้งที่ 6 ว่าตั้งแต่เมื่อเช้า หลังจากคณะผู้แทนไทยฯ ที่นำโดยนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย เดินทางถึงกรุงพนมเปญเมื่อวานนี้ ได้รับรายงานความคืบหน้ามาเป็นระยะ และเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศก็ได้เรียกประชุมผู้บริหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ที่ขอให้เรียกประชุมและรายงานความคืบหน้าเป็นระยะ เพื่อจะได้มีข้อสั่งการ นายนิกรเดช กล่าวว่า การประชุมเริ่มจากที่พบหารือระหว่างสองประธานไทย-กัมพูชา กลุ่มเล็ก จากนั้นได้เริ่มการประชุม JBC เต็มคณะ เพื่อหารือประเด็นทางเทคนิค ที่อยู่ในขอบเขตการทำงานของ JBC เช่นการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีการสำรวจภูมิประเทศ ขณะนี้การประชุมก็ยังคงดำเนินอยู่ ซึ่งช่วงบ่ายก็จะเป็นการหารือตามระเบียบวาระที่วางไว้ เช่นการพูดคุยด้านเทคนิค และคาดว่าจะมีการประชุมไปจนถึงวันพรุ่งนี้ บรรยากาศการประชุมเป็นไปด้วยดี และทั้งสองฝ่ายกำลังเดินหน้าหารือกันตามวาระ ถือว่าการประชุมเป็นไปด้วยดี ทั้งสองฝ่ายเดินหน้าคุย และปรับความคิดหากันด้วยดี ฝ่ายไทยหวังว่าการประชุมครั้งนี้จะมีส่วนช่วยลดความ ตึงเครียดของสถานการณ์ที่เกิดขึ้น […]

ประชุม JBC “ไทย-กัมพูชา” ยึด MOU43 แก้ปมชายแดน-ลดตึงเครียด

14 มิ.ย.- “ไทย-กัมพูชา” แถลงย้ำความสำคัญของการใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม JBC เจรจาประเด็นด้านเขตแดนระหว่างกัน และการทำงานร่วมกันด้วยสันติวิธี ภายใต้กรอบ MOU43 นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย เป็นประธานการประชุมกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) ร่วมกับนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา ทั้งสองฝ่ายกล่าวถ้อยแถลงย้ำความสำคัญของการใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) ในการเจรจาประเด็นด้านเขตแดนระหว่างกันและการทำงานร่วมกันด้วยสันติวิธี ภายใต้กรอบบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก พ.ศ. 2543 (MOU 43) เพื่อประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาชายแดนและลดความตึงเครียดที่มีอยู่ ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการของทั้งสองฝ่าย ประกอบด้วย ผู้แทนจากหน่วยงานเชิงเทคนิคที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม กรมแผนที่ทหาร กองทัพบก กองทัพเรือ สำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา (เทียบเท่ากระทรวง) กระทรวงกลาโหมกัมพูชา กองทัพภาคต่าง ๆ ของกัมพูชา รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชาของกัมพูชาทุกจังหวัด -สำนักข่าวไทย

Cambodia and Thailand hold a closed-door meeting ahead of the official meeting of JBC in Phnom Penh

ไทย-กัมพูชา หารือกลุ่มเล็กก่อนประชุม JBC

พนมเปญ 14 มิ.ย. – สื่อกัมพูชารายงานว่า กัมพูชาและไทย ได้เปิดการหารือกลุ่มเล็กฝ่ายละ 5 คน ก่อนการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม หรือเจบีซี (JBC) ที่กรุงพนมเปญ ในวันนี้ เว็บไซต์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานว่า ในการหารือกลุ่มเล็กที่มีผู้ร่วมเข้าเพียง 10 คน ฝ่ายกัมพูชานำโดยนายเจีย ฬำ  รัฐมนตรีผู้รับผิดชอบกิจการชายแดน ส่วนฝ่ายไทยนำโดยนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงต่างประเทศด้านกิจการชายแดน ซึ่งเป็นนักการทูตผู้เชี่ยวชาญช่วงข้อพิพาทปราสาทพระวิหาร พร้อมกับเผยแพร่ภาพชุดการหารือดังกล่าว.-814.-สำนักข่าวไทย