คาดเลือกตั้งเงินสะพัด 3-5 หมื่นล้านบาท

กรุงเทพฯ 24 ม.ค. – หอการค้าไทยมั่นใจการเลือกตั้งและมาตรการคืนภาษีแวตช่วงตรุษจีนดันเศรษฐกิจไทยเติบโตได้จริง แต่ต้องจับตาความชัดเจนสงครามการค้าสหรัฐและจีนจะออกมาอย่างไร


นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ภายหลังการประกาศพระราชกฤษฎีกาฯ และทาง กกต.ประกาศวันเลือกตั้งในวันที่ 24 มีนาคม 2562 นั้น เชื่อว่าจะทำให้ต่างชาติมั่นใจว่าประเทศไทยดีขึ้นส่งผลให้นักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศเชื่อมั่น ต่อการลงทุน และส่งผลดีต่อภาพลักษณ์ให้กับตลาดทุนและการลงทุนในประเทศ โดยเฉพาะการลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ดังนั้น จากขั้นตอนในช่วงเลือกตั้งนี้จะมีกิจกรรมในด้านต่าง ๆจะส่งผลต่อบรรยากาศเศรษฐกิจในประเทศเกิดความคึกคัก เกิดกิจกรรมทางการเมือง ทำให้มีเม็ดเงินสะพัดในระบบเศรษฐกิจจากกิจกรรมหาเสียง คาดว่าประมาณ 30,000-50,000 ล้านบาท และจะส่งผลกระตุ้นจีดีพีของประเทศขยายตัวประมาณร้อยละ 0.2-0.3 

ทั้งนี้ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงที่รอความชัดเจนว่าส่งครามการค้าสหรัฐกับจีนจะออกมาอย่างไร โดยกระทรวงการคลังจะใช้มาตรการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) ร้อยละ 5 ในช่วงเทศกาลตรุษจีนนี้ ทางศูนย์ฯ มองว่าการที่กระทรวงการคลังเตรียมเงินงบประมาณคืนภาษีแวต 7,000 ล้านบาท ในช่วงที่มีการจับจ่ายใช้สอยช่วงตรุษจีนและคืนเงินภาษีแวตผ่านบัตรเดบิตของธนาคารที่เข้าร่วมโครงการนี้ โดยจะต้องมีการลงทะเบียนก่อนนั้น เชื่อว่าแนวทางนี้จะเป็นการส่งเสริมกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศได้ แต่ตอนนี้ ยังขาดการประชาสัมพันธ์ของหน่วยงานภาครัฐ เพราะประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่รู้มากนัก จึงเป็นสิ่งที่กระทรวงการคลังจะต้องเร่งดำเนินการเป็นการเร่งด่วน และเชื่อว่าการคืนเงินภาษีแวตที่เตรียมไว้ 7,000 ล้านบาท สามารถพยุงเศรษฐกิจในประเทศ การค้าปลีกที่ประชาชนจะจับจ่ายใช้สอยในช่วงตรุษจีน โดยปกติมีเงินสะพัดเทศกาลตรุษจีนอยู่แล้ว 100,000 ล้านบาท และจากมาตรการเสริมของรัฐในช่วงเทศกาลตรุษจีนจะทำให้เม็ดเงินสะพัดเพิ่มอีก 10,000 ล้านบาท 


อย่างไรก็ตาม เมื่อได้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เชื่อว่าจะทำให้เศรษฐกิจมีเสถียรภาพมากขึ้น ดังนั้น มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยปี 2562 จะขยายตัวในกรอบร้อยละ  4-4.5 ภายใต้สมมติฐานไม่มีปัจจัยเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลก แต่ความเป็นไปได้ว่าโอกาสการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยน่าจะขยายตัวร้อยละ  4.2 

นอกจากนี้ ทางศูนย์ฯ เปิดเผยถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการ Modern Trade ประจำไตรมาส 4 ปี 2561 พบว่ากลุ่มตัวอย่าง ซึ่งเป็นผู้ประกอบการขนาดใหญ่ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค มองว่าปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจด้านบวก คือ จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางเข้ามาอย่างต่อเนื่องช่วงปลายปีและเทศกาลปีใหม่ ส่งผลต่อการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน นโยบายและมาตรฐานสวัสดิการของรัฐ เช่น บัตรสวัสดิการ ช้อปช่วยชาติ นโยบายลดภาษีเงินได้นิติบุคคลเอื้อต่อการประกอบธุรกิจ ขณะที่ ปัจจัยลบที่มีต่อความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการ อาทิ ดอกเบี้ยนโยบายมีการปรับขึ้น ราคาสินค้าเกษตรยังอยู่ในระดับไม่สูงส่งผลต่อรายได้ครัวเรือน ภาระหนี้สินของครัวเรือนและสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบันทำให้ผู้บริโภคยังไม่มีการขยายตัว ทำให้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการ Modern Trade ไตรมาส 4 อยู่ที่ระดับ 52.1 ปรับตัวสูงขึ้นจากในช่วงไตรมาส 3 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 51.7 ด้วย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ข่าวแนะนำ

ซุ้มไฟเฉลิมพระเกียรติฯ สุดตระการตา รับประเพณียี่เป็ง

ยามค่ำคืนในตัวเมืองเชียงใหม่ ประดับประดาด้วยแสงไฟรับประเพณียี่เป็ง หรือลอยกระทงเชียงใหม่ โดยเฉพาะบนถนนท่าแพ มีการสร้างซุ้มประดับไฟเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จำนวน 14 ซุ้ม ยาวกว่า 200 เมตร.

“ฟิล์ม รัฐภูมิ” ตั้งโต๊ะแจงปมรีดทรัพย์ รับอ้างชื่อ “หนุ่ม กรรชัย” เพื่อขายงาน

“ฟิล์ม รัฐภูมิ” ตั้งโต๊ะแจงปมเรียกรับเงิน 20 ล้านบาท จากดิไอคอน ยอมรับอ้างชื่อ “หนุ่ม กรรชัย” เพราะต้องการขายงาน

คุมตัว “ตี่ลี่ฮวงจุ้ย” ฝากขัง เจ้าตัวเงียบรีบเดินขึ้นรถตู้

ตำรวจกองปราบคุมตัว “ตี่ลี่ฮวงจุ้ย” ฝากขัง ผู้ต้องหาปัดตอบสื่อ ด้านพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว เพราะมีพฤติการณ์หลบหนี