นนทบุรี 20 ม.ค. – กระทรวงพาณิชย์เตรียมนำมติ
กกร.ที่เพิ่มเวชภัณฑ์และค่าบริการทางการแพทย์เป็นสินค้าควบคุมให้
ครม.พิจารณาสัปดาห์หน้า หาก ครม.เห็นชอบเดินหน้าศึกษาต่อก่อนประกาศใช้
นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า
ในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 22 มกราคม 2562
กระทรวงพาณิชย์จะนำเสนอมติผลการประชุมของคณะกรรมการว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ
ครั้งที่ 1 ของปี 2562
ที่มีนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน
ซึ่งได้มีการทบทวนรายการสินค้าและบริการควบคุมประจำปี จากปี 2561
มีรายการสินค้าอุปโภคบริโภคที่กระทรวงพาณิชย์ดูแลตามบัญชีสินค้าและบริการควบคุม 54 รายการ แบ่งเป็นสินค้า
49 รายการ และบริการ 5 รายการ
ทั้งนี้ เห็นชอบให้ถอด 4 รายการสินค้า ออกจากบัญชีสินค้าควบคุม
ได้แก่ เยื่อกระดาษ เนื่องจากไม่มีปัญหาด้านโครงสร้างราคาแล้ว เม็ดพลาสติก เพราะมีผู้ผลิตหลายราย
ทำให้การแข่งขันสูง แบตเตอรี่รถยนต์ ซึ่งเป็นแบบดั้งเดิมมีผู้ใช้จำนวนน้อย
และน้ำตาลทราย ให้สอดคล้องกับนโยบายการลอยตัว และขณะนี้ราคาในตลาดอยู่ในระดับต่ำ ส่งผลให้ปี
2562 จะมีสินค้าที่อยู่ในบัญชีสินค้าและบริการควบคุม จำนวน 52 รายการ แบ่งเป็นสินค้า 46 รายการ และบริการ 6 รายการ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ราคาสินค้าปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุม
กกร.ครั้งนั้นยังมีมติเพิ่มบัญชีรายการสินค้าและบริการควบคุม อีก 1 รายการ คือ
เวชภัณฑ์ จากเดิมที่มีเพียงยารักษาโรคเป็นสินค้าควบคุม ส่วนบริการควบคุมเพิ่มอีก 1 รายการ ได้แก่ บริการรักษาพยาบาล
บริการทางการแพทย์ และบริการอื่น ๆ ของสถานพยาบาล เข้ามาอยู่ในบัญชีควบคุมด้วยนั้น
หลังจากเห็นชอบมติดังกล่าวทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนไม่เห็นด้วยและขอเข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
เพื่อขอชี้แจงข้อมูลด้านต่าง ๆ ให้ทางกระทรวงพาณิชย์ได้รับทราบ รอบด้าน ดังนั้น
ขณะนี้จึงยังไม่สามารถตอบอะไรได้มากนักขึ้นอยู่กับว่าที่ประชุม ครม.สัปดาห์หน้าจะเห็นชอบตามมติ
กกร.หรือไม่
“หาก ครม.มีมติเห็นชอบตามมติ กกร.ที่นำเสนอไปทั้งหมด
ในส่วนของการดึงเวชภัณฑ์และบริการทางการพยาบาลเป็นสินค้าควบคุม
ทางคณะอนุกรรมการพิจารณากำหนดมาตรการในการดูแลที่
กกร.แต่งตั้งขึ้นมาจะเดินหน้าศึกษาโครงการต่าง ๆ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงตัวแทนจากโรงพยาบาลเอกชนเพื่อให้ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนและเป็นธรรมทุกฝ่ายในการประกาศใช้หลักเกณฑ์ของสินค้าควบคุม
แต่หากมติ ครม.ไม่เห็นชอบหรือมีมติใดออกมาก็ต้องติดตามกันต่อไป” นายวิชัย กล่าว.-สำนักข่าวไทย