ขสมก. 18 ม.ค. – ผลการหารือระหว่าง ขสมก. กรมการขนส่งทางบก ทหาร และตำรวจ เตรียมดีเดย์ตั้งด่านจับรถตู้อายุเกิน 10 ปี 21 ม.ค.นี้ หลังพบมีรถหมดอายุลักลอบวิ่งกว่าพันคัน หวั่นระบบเชื้อเพลิงถังแก๊สไม่ปลอดภัย เกิดระเบิดอันตรายต่อผู้โดยสาร
ในช่วงเช้าที่ผ่านมา นายประยูร ช่วยแก้ว รักษาการผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้ประชุมร่วมกับผู้บริหารสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมการขนส่งทางบก และเจ้าหน้าที่ทหาร เพื่อติดตามการแก้ไขปัญหาลักลอบวิ่งให้บริการของรถตู้โดยสาร หมวดที่ 1 ทำสัญญาร่วมวิ่งกับ ขสมก. และมีอายุการใช้งานเกินกว่า 10 ปี ตามกฎหมายกำหนด ที่ผ่านมาภาครัฐกำหนดให้ผู้ประกอบการนำรถมาบรรจุใหม่ทดแทนและขยายเวลาแล้ว แต่พบว่าปัจจุบันยังมีรถตู้หมดอายุมากกว่า 1,000 คัน แอบมาวิ่งให้บริการ
นายประยูร กล่าวว่า วันที่ 21 มกราคมนี้ ทุกฝ่ายที่เข้าร่วมประชุมจะตั้งจุดตรวจ เพื่อจับกุมรถดังกล่าว หากตรวจพบจะมีโทษสูงสุดปรับ 50,000 บาท และอายัดทะเบียนรถคันดังกล่าวไม่ให้กลับมาวิ่งให้บริการ ทั้งนี้ มาตรการที่นำออกมาใช้ เนื่องจากเห็นว่ารถหมดอายุ นอกจากจะมีปัญหาโครงสร้างตัวรถและระบบเชื้อเพลิง ซึ่งถังแก๊สมีอายุการใช้งานรับรองโดยผู้ผลิตไม่เกิน 10 ปี หากเกิดปัญหาและระเบิด จะทำให้เกิดอันตรายต่อผู้โดยสาร ซึ่งมีตัวอย่างให้เห็น เช่น รถแท็กซี่ที่เกิดระเบิดสัปดาห์ที่ผ่านมา
สำหรับรถตู้วิ่งให้บริการกับ ขสมก. มีทั้งหมด 3,860 คัน พบว่าระหว่างปี 2557-2561 อายุครบ 10 ปี ประมาณ 1,900 คัน ผู้ประกอบการนำรถมาเปลี่ยนเป็นรถใหม่ 340 คัน แสดงให้เห็นว่ามีรถอีกจำนวนมากลักลอบวิ่ง รวมทั้งปี 2562 จะมีรถตู้ครบ 10 ปี มากที่สุด คือ 809 คัน
ส่วนการที่คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) มีมติชะลอปรับค่าโดยสารรถเก่า ขสมก. 2,500 คัน ที่ประชุมบอร์ด ขสมก.เมื่อวานที่ผ่านมาได้รับนโยบายและเห็นด้วยกับ คนร. เพื่อลดผลกระทบของประชาชนผู้ใช้รถ อย่างไรก็ตาม รถเมล์เอ็นจีวีที่จัดซื้อใหม่ ขสมก.รับมอบแล้ว 300 คัน จะยังปรับราคา ถือเป็นแนวทางพัฒนางานบริการ รวมทั้งรถร่วมเอกชนมีภาระต้นทุนมากขึ้นก็ยังเดินหน้าปรับราคาวันที่ 21 มกราคมนี้.-สำนักข่าวไทย