กาญจนบุรี 17 ม.ค.-ชี้แจงชัดเจน!! ปมดราม่าคลิปตัดผมนักเรียนหญิงผมยาวเกินบ่า ทำตามกฎระเบียบ พร้อมหักคะแนนความประพฤตินักเรียนผู้โพสต์คลิป ทำให้ผู้อื่นเข้าใจผิดและทำให้โรงเรียนเสื่อมเสีย
กรณี Facebook “Black Hat” โพสต์ภาพนักเรียนหญิง ถูกครูใช้ไม้บรรทัดวัด แล้วตัดผมที่ไว้ยาวถึงบ่าออกให้สั้นประมาณต้นคอ โดยในเพจดังกล่าวระบุว่า เกิดขึ้นในโรงเรียนหญิงล้วนแห่งหนึ่งของกาญจนบุรี พร้อมตั้งคำถามถึงความเหมาะสมของการกระทำดังกล่าวว่า เป็นการละเมิดสิทธิ์ของเด็กหรือไม่ จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์จากผู้ใช้ Facebook คนอื่นๆ ที่ไม่ทราบรายละเอียดที่แน่ชัด
ผู้สื่อข่าว สำนักข่าวไทย ลงพื้นที่ลงโรงเรียนกาญจนานุเคราะห์ ซึ่งเป็นโรงเรียนที่เกิดเหตุการณ์ โดยพบกับนางภาวดี จิตตามัย ผู้ช่วยรองผู้อำนวยการกลุ่มบริหารกิจการนักเรียน พร้อมชี้แจงว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา ในช่วงเช้าที่กำลังตรวจระเบียบนักเรียนตามวงรอบเดือน ส่วนที่มีครูใช้กรรไกรตัดผมเด็กนั้นพบว่า เป็นการกระทำตามกฎระเบียบ เพราะมีการระบุไว้ในคู่มือนักเรียนแล้วว่า นักเรียนหญิงทุกคนสามารถไว้ผมยาวได้ไม่เกิน 9 นิ้ว นับจากหูส่วนบน และต้องรัดผมให้เรียบร้อยเมื่ออยู่ในโรงเรียน ซึ่งกฎระเบียบทุกอย่างได้ชี้แจงต่อเด็กและผู้ปกครองตั้งแต่ปฐมนิเทศแล้ว อีกทั้งในช่วงโฮมรูมก็จะมีการชี้แจงระเบียบต่างๆ ผ่านทางครูประจำชั้น
สำหรับนักเรียนคนนี้อยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เคยไว้ผมยาวเกินกว่ากฎระเบียบและตักเตือนมาหลายครั้ง แต่ยังไม่ตัดให้ถูกต้อง จึงถูกดำเนินการตัดผมเพื่อเป็นการลงโทษ แต่ระหว่างนั้นพบว่ามีเพื่อนนักเรียนคนหนึ่งถ่ายคลิปไว้ ก่อนนำไปโพสต์ลงสื่อสังคมออนไลน์ กระทั่งเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ หลังจากนั้นได้เรียกผู้โพสต์คลิปมาพูดคุยเพราะทำให้โรงเรียนเสื่อมเสีย โดยได้หักคะแนนความประพฤติตามระเบียบ โดยเด็กคนดังกล่าวได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์และได้ไล่ลบโพสต์ไปหมดแล้ว
ส่วนบรรยากาศภายในโรงเรียน พบว่านักเรียนไม่ได้วิพากษ์วิจารณ์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะเข้าใจกฎระเบียบโรงเรียนเป็นอย่างดี โดยตัวแทนนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 กล่าวว่า รู้สึกเสียใจที่เหตุการณ์เพียงเล็กน้อยทำให้เกิดกระแสโจมตีโรงเรียน ซึ่งความเป็นจริงกฎระเบียบการแต่งกายของโรงเรียนระบุไว้อย่างชัดเจน และไม่ได้บังคับให้เด็กไว้ผมสั้นจนเกินไป และการที่ครูลงโทษด้วยการตัดผมเพราะไม่ปฏิบัติตามกฎก็ไม่ได้เกินกว่าเหตุ และเกิดขึ้นเป็นปกติ แต่พอมีการแชร์ออกไป ทำให้ผู้ที่ไม่รู้กฎระเบียบ วิพากษ์วิจารณ์โดยไม่รู้รายละเอียดต่างๆ ของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จนกลายเป็นความเสื่อมเสียต่อโรงเรียน.-สำนักข่าวไทย
