ครูผู้สร้าง…..นักคหกรรมศาสตร์

เนื่องในวันครูแห่งชาติ นำเสนอเรื่องราวของครูตัวอย่าง ของนักศึกษาคณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ บนเส้นทางประสบการณ์กว่า 24 ปี ส่งศิษย์ถึงฝั่งฝัน สู่อาชีพงานประดิษฐ์สร้างสรรค์ เลี้ยงตนเองและครอบครัว ย้ำชัด ‘วิชาชีพคหกรรมศาสตร์ไม่มีวันตาย’ 


ผศ.วินัย ตาระเวช อาจารย์สาขาวิชาเทคโนโลยีงานประดิษฐ์สร้างสรรค์ คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี วัย 50 ที่ชีวิตพลิกผันจากการทุ่มเททำงานจนต้องนอนโรงพยาบาลนานหลายวัน ทั้งครอบครัว เพื่อน ลูกศิษย์นักศึกษาแวะมาเยี่ยมและผลัดกันดูแลตลอด จนพยาบาลสงสัยว่าเราเป็นใคร ถึงมีคนเอาใจใส่มากเช่นนี้ เขาหาข้อมูลและบอกว่า “หมอจะดูแลอาจารย์เป็นอย่างดี เพราะอาจารย์ต้องกลับไปช่วยคนอีกหลายชีวิต” จึงตั้งปณิธานว่า ถ้าหายป่วย จะดูแลสุขภาพให้ดี สร้างสรรค์ผลงานให้มากขึ้น รวมถึงช่วยเหลือผู้คน โดยเฉพาะนักศึกษาเพื่อสร้างโอกาสแก่พวกเขาต่อไป



หลายผลงานที่ผ่านมืออาจารย์ผู้นี้และประจักษ์ต่อสาธารณชนหลายโอกาสสำคัญ เช่น ประดิษฐ์พระประทีปถวายพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช, ออกแบบควบคุมจัดดอกไม้หน้าพระโกศและพระเมรุ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก, จัดทำประติมากรรมดอกไม้แห้งงานดอกไม้แห่งราชัน บุหงาโครงการหลวง, ถวายงานออกแบบควบคุมการจัดดอกไม้ห้องประทับสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี งานพระราชทานปริญญาบัตร มทร. ตั้งแต่ปี พ.ศ.2539 จนถึงปัจจุบัน รวมถึงประดิษฐ์พวงมาลาที่ใหญ่ที่สุดในโลก น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ควบคู่กับการร่วมประกวดแข่งขัน เพื่อสืบสานงานศิลป์และพัฒนาฝีมือ จนได้รับรางวัลมากมายนับไม่ถ้วน

ผศ.วินัย เล่าว่า นักศึกษาคหกรรมศาสตร์ฯ ส่วนใหญ่มีฐานะไม่ค่อยดี “บางครั้งเวลาที่พวกเขาทำงานเพื่อส่วนรวม อาจทำให้กลับบ้านช้ากว่าปกติ เราก็ช่วยสนับสนุนอาหารและเครื่องดื่ม” เพราะเราอยู่ด้วยกันแบบครอบครัว และดูแลเป็นรายกรณี มีการจัดหาทุนบางส่วนให้จากอาจารย์ในสาขา ศิษย์เก่าและเจ้าของสถานประกอบการต่าง ๆ โดยคัดเลือกจากพฤติกรรมการเรียน “ต้องขยันเรียน ตั้งใจเรียน และช่วยเหลืองานส่วนรวม” 

ข้อคิดในการทำงานหรือกิจกรรมให้สำเร็จ ผศ.วินัย เห็นว่า ต้องมีทัศนคติที่ดีต่อสิ่งที่กระทำ จะทำให้เราทำอย่างมีความสุข ทำให้เกิดพลังการทำงานและเกิดเป็นผลงานสำเร็จได้ในไม่ช้า และการปั้นนักศึกษาให้ไปถึงฝัน ประกอบวิชาชีพ หาเลี้ยงตนเองและครอบครัวได้จากสาขาที่เรียนนั้น เป็นเรื่องใหญ่และอาศัยหลายปัจจัย “ต้องวางอนาคตตัวเองล่วงหน้า หรือเรียนรู้แบบอย่างของรุ่นพี่ที่ก้าวหน้า ต้องเป็นนักลงมือปฏิบัติ ต้องขยัน เป็นจิตอาสา รู้จักช่วยเหลือสังคม ไม่ละทิ้งงานเมื่อได้รับมอบหมาย” เพราะจากประสบการณ์ ถ้านักศึกษาเป็นอย่างที่เล่ามา ประสบความสำเร็จหรืออาจจะใกล้ความฝันมากที่สุดอย่างแน่นอนในชีวิตคหกรรมศาสตร์

บางกรณีที่เด็กไม่สนใจเรียน ไม่รับผิดชอบงาน จะส่งไปฝึกงานกับศิษย์เก่าที่เป็นรุ่นพี่ ผลปรากฏว่าเด็กมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นมาก อาจเป็นเพราะได้เห็นโลกอาชีพจริง เห็นประโยชน์ทางวิชาการ จึงกลับมาตั้งใจเรียนเพื่อนำความรู้ไปพัฒนาสร้างสรรค์งานต่อไป และทุกวันนี้ยังคงใช้วิธีการอยู่ ก็ได้ผลดีเช่นเคย และพยายามเน้นการเชื่อมโยงวิชาการกับวิชาชีพกับนักศึกษาอย่างสม่ำเสมอ “ถ้าพวกเขาสามารถประกอบธุรกิจ เกิดเป็นอาชีพที่ตรงกับสาขาที่เรียนมา คนเป็นครูบาอาจารย์ ก็ภาคภูมิใจมากพอแล้ว”

ใครที่จะเข้ามาเรียนในสาขาวิชานี้ ไม่ใช่มองว่าใช้เพียงความคิดสร้างสรรค์ และสร้างเป็นอาชีพที่มีชื่อเสียง แต่ต้องค้นหาความชอบของตัวเราให้เจอก่อน เพื่อจะได้เข้าสู่โลกอาชีพได้อย่างมั่นคง แม้ว่าเทคโนโลยีจะขับเคลื่อนไม่หยุดยั้ง “คหกรรมศาสตร์ก็ไม่มีวันตาย” แต่จะมาช่วยเสริมให้งานคหกรรมศาสตร์สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ลดระยะเวลาการทำงาน ช่วยส่งเสริมด้านการตลาด แต่ที่แน่นอนที่สุด “นักคหกรรมศาสตร์ ยังคงต้องใช้รสมือในการปรุงอาหาร ประดิษฐ์ผลงาน เย็บปักถักร้อย ที่ถือเป็นเสน่ห์และความสามารถเฉพาะบุคคล ซึ่งหุ่นยนต์ไม่สามารถเลียนแบบ หรือกระทำได้”

“ทุกคนเกิดมาเป็นนักคหกรรมอยู่แล้ว ต้องกินต้องสวมใส่เสื้อผ้า จัดการที่อยู่อาศัย ออกแบบตกแต่ง ดูแลครอบครัว รวมถึงสร้างสุนทรียภาพแก่ตนเองและครอบครัวด้วย ซึ่งหมายถึงความสวยงาม ทั้งดอกไม้ งานศิลปะ งานประดิษฐ์สร้างสรรค์ที่เกี่ยวโยงกับวัฒนธรรมประเพณี ที่สำคัญคหกรรมยังสร้างรายได้สร้างอาชีพอย่างน่าสนใจ และเป็นพันธกิจโดยตรงต่อตนเอง ครอบครัว ชุมชน สังคม ประเทศชาติและโลกใบนี้” นี่คือเสน่ห์ของวิชาชีพ ‘คหกรรมศาสตร์’     

ผศ.วินัย กล่าวถึงรางวัลและเกียรติคุณที่ได้รับมากมาย อาทิ รางวัลราชมงคลสรรเสริญ ผู้มีผลงานดีเด่นทางวัฒนธรรม สาขาคหกรรมศาสตร์ ปี พ.ศ.2533 ถือเป็นหนึ่งรางวัลสำคัญในชีวิตการทำงาน และล่าสุดยังได้รับรางวัลเพชรราชธานี ผู้มีผลงานดีเด่นทางวัฒนธรรม สาขาคหกรรมศิลป์ ปี พ.ศ.2560 จากสำนักศิลปะและวัฒนธรรม ม.ราชภัฏอุบลราชธานี 

“จะสร้างงานประดิษฐ์สร้างสรรค์อย่างวิจิตรต่อไป อย่างน้อยที่สุดก็เพื่อแสดงให้ทุกคน เห็นถึงคุณค่าวิชาชีพนี้ และจะปั้นนักคหกรรมศาสตร์ด้วยความตั้งใจ เพื่อให้ลูกศิษย์ทุกคนมีอนาคตที่ประสบความสำเร็จ”

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 15 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่งบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 60% และฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าว โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม และตราด ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูงประมาณ […]

ป.ป.ช.ตั้งองค์คณะไต่สวนจริยธรรมร้ายแรง “แพทองธาร” คลิปคุย “ฮุนเซน”

กทม. 14 ก.ค. – ป.ป.ช. มติเอกฉันท์ตั้งองค์คณะไต่สวนจริยธรรมร้ายแรงต่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ปมคลิปเสียงคุยกับ “ฮุน เซน” ที่สำนักงาน ป.ป.ช. วันนี้มีรายงานว่าคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ได้ประชุม และมีมติเป็นเอกฉันท์ให้แต่งตั้งองค์คณะไต่สวน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กรณีปรากฏคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งบริเวณแนวชายแดน ไทย-กัมพูชา โดยนายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข ประธานกรรมการ ป.ป.ช. และนายประภาศ คงเอียด กรรมการ ป.ป.ช. ร่วมเป็นองค์คณะไต่สวน การตั้งองค์คณะไต่สวนครั้งนี้ เป็นไปตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา51 ซึ่งเปิดช่องให้ ป.ป.ช. ตั้งกรรมการไม่น้อยกว่า 2 คนไต่สวนได้ในกรณีที่เกี่ยวข้องกับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองระดับสูงมีผลกระทบต่อสาธารณะอย่างกว้างขวางหรือเกี่ยวพันกับองค์กรตุลาการ ก่อนหน้านี้ ป.ป.ช. มีมติรับเรื่องไว้พิจารณาเบื้องต้น และมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงภายใน 10 วัน โดยให้มีการถอดเทปคำสนทนาและจัดทำคำแปลจากภาษาต่างประเทศอย่างถูกต้อง ครอบคลุมการสอบพยาน และการศึกษา คดีเปรียบเทียบ เช่น […]

เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ลาสิกขา ปมโอน 13 ล้าน

พระนครศรีอยุธยา 14 ก.ค. – เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ สมัครใจลาสิกขา หลังโอนเงินกว่า 13 ล้าน ให้ “สีกากอล์ฟ” ยืนยันไม่มีสัมพันธ์เชิงชู้สาว แต่ยอมรับว่า “อ่อนต่อโลก” พระเทพพัชราภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมาราม อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทำพิธีลาสิกขาด้วยความสมัครใจในวันนี้ ภายหลังจากเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) ลงพื้นที่ตรวจสอบเส้นทางการเงินของวัด พร้อมสอบปากคำพระเทพพัชราภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสฯ นานเกือบ 3 ชั่วโมง พันตำรวจโท สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ท. เปิดเผยว่า อดีตเจ้าอาวาสฯ เต็มใจลาสิกขา เข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย เพราะจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของสีกากอล์ฟ พบว่า เส้นเงินถูกโอนจากบัญชีส่วนตัวของอดีตเจ้าอาวาสฯ ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่า เป็นเงินที่ได้มาจากการรับกิจนิมนต์และสอนหนังสือ โดยโอนไปให้สีกากอล์ฟ รวม 12.8 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีเงินจากบัญชีวัดอีก 3.8 แสนบาท ซึ่งมีทั้งโอนผ่านโทรศัพพ์และให้เป็นเงินสด เริ่มโอนตั้งแต่เดือนมกราคมไปจนถึงเดือนกรกฎาคม 2567 ซึ่งในเดือนเดียวกันพบว่าโอนให้สีกากอล์ฟ […]

แก๊งจีนดำลวงเพื่อนร่วมชาติเรียกค่าไถ่ สังหารโหด

เชียงราย 14 ก.ค. – ตำรวจเร่งคลี่คลายคดีแก๊งจีนดำฆ่าจีนเทา หลอกเพื่อนร่วมชาติมาเรียกค่าไถ่ที่เชียงใหม่ สังหารโหด และนำศพทิ้งกลางป่า ตำรวจพบศพนายหยาง อายุ 24 ปี สัญชาติจีน ถูกห่อด้วยถุงดำ และผ้าปูที่นอน แล้วใช้ผ้ายางพลาสติกห่อทับอีกชั้น ถูกนำมาทิ้งไว้ที่ป่าละเมาะข้างทางริมถนน ใกล้กับหมู่บ้านป่าเหว ตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ โดยก่อนหน้านี้ ได้รับการร้องขอความช่วยเหลือจากพี่สาวของนายหยางให้ช่วยติดตามตัวน้องชาย หลังข้ามชายแดนมาจากเขตเศรษฐกิจพิเศษคิงส์โรมัน ในฝั่งลาว ผ่าน ตม.สบรวก อำเภอเชียงแสน ที่ จ.เชียงราย มาพร้อมกับนายฮูกัง เพื่อนชาวจีนอีกคนหนึ่ง โดยจ้างแท็กซี่เดินทางมายังเชียงใหม่ เมื่อ 8 กรกฎาคมที่ผ่านมาและหายตัวไป ก่อนถูกเรียกค่าไถ่ 3 ล้านบาท เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม ที่ผ่านมา พลตำรวจโทกฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยว่า พบตัวนายฮูกัง เพื่อนชาวจีนที่เดินทางมากับนายหยาง และอ้างว่า ถูกนายซาง เบนซิน และนายหวังซวง นัดหมายให้พานายหยาง […]