ดัชนีความเชื่อมั่น 3 เดือนข้างหน้า ลดลงร้อยละ 5.25

กรุงเทพฯ 10 ม.ค. – สภาธุรกิจตลาดทุนไทย เผย ดัชนีความเชื่อมั่น 3 เดือนข้างหน้า ลดลงร้อยละ 5.25 ประเมินตลาดหุ้นปีนี้ผันผวนสูง แนะสำรองเงินสด ร้อยละ 15 -20



นายไพบูลย์ นลินทรางกูร  ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย  เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนประจำเดือนมกราคม 2562 ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้าปรับตัวลดลงเป็นเดือนที่สามติดต่อกันอยู่ในเกณฑ์ทรงตัว (Neutral) เช่นเดิม โดยลดลง ร้อยละ 5.25 มาอยู่ที่ระดับ 92.75 นักลงทุนกังวลความเสี่ยงจากนโยบายทางการค้าของสหรัฐฯ การไหลเข้าออกของเงินทุนจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย โดยนักลงทุนเชื่อมั่นสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศและผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนหนุนความเชื่อมั่นนักลงทุน


กลุ่มหลักทรัพย์ที่นักลงทุนให้ความสนใจมากที่สุด คือ หมวดธนาคาร (Bank) หมวดการท่องเที่ยวและสันทนาการ (Tourism) และหมวดพาณิชย์ (Comm) ขณะที่มองว่า หมวดสื่อและสิ่งพิมพ์ (Media) หมวดเหล็ก (Steel) และหมวดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (Prop) ไม่น่าสนใจลงทุนมากที่สุด

นอกจากนี้ มีประเด็นที่ต้องพิจารณา คือ ความคืบหน้าการเจรจานโยบายทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน การปรับลดคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยระยะยาวของสหรัฐฯลงเหลือ 2  ครั้ง ในปี 2562 การโหวตข้อตกลง Brexit ในสภาอังกฤษในเดือน ม.ค. และเศรษฐกิจโลกที่ส่งสัญญาณชะลอตัวลง รวมถึงทิศทางอัตราดอกเบี้ยของไทยภาพหลังการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปี และการเข้าสู่การเลือกตั้งที่กำลังมีขึ้นในช่วงต้นปี 2562


นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ซี แอล เอส เอ (ประเทศไทย) จำกัด มองว่าตลาดหุ้นของไทยปี 2562 มีความผันผวนมากกว่าปีที่แล้ว โดยปัจจัยต่างประเทศเข้ามามีน้ำหนักกับตลาดหุ้นปีนี้มากกว่าปัจจัยภายในประเทศ เช่น สงครามการค้าจีนกับสหรัฐฯ การปรับขึ้นดอกเบี้ยยของเฟด และภาระหนี้ของยุโรปที่สูงมาก ส่วนปัจจัยในประเทศ คือ การเลือกตั้ง ซึ่งจะเป็นปัจจัยกระตุ้นการใช้จ่ายและการบริโภคในประเทศให้มีความคึกคัก 

สำหรับเป้าหมายดัชนีตลาดหุ้นไทยปี 2562 ประเมินไว้ที่ 1,850 จุด กลุ่มที่น่าสนใจ คือ หุ้นกลุ่มพลังงาน การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน อสังหาริมทรัพย์ สื่อสารโทรคมนาคม และธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ ส่วนกลุ่มหุ้นที่น่ากังวลในระยะสั้นๆ เช่น กลุ่มโรงพยาบาล และธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็ก

ทั้งนี้ มองว่าหลังการเลือกตั้งตลาดหุ้นจะผันผวนมากขึ้น แนะนักลงทุน มีวินัยในการลงทุน มีเงินสดสำรองอย่างน้อย 15 -20 % และศึกษาข้อมูลก่อนการลงทุน . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง