กรุงเทพฯ 7 ม.ค.- ทีเส็บคาดว่า ปีนี้อุตสาหกรรมไมซ์จะมีลูกค้ารวม 1.3 ล้านคน สร้างรายได้ให้ประเทศ 100,500 ล้านบาท เดินหน้ายกมาตรฐาน เตรียมเสนอที่ประชุมรัฐมนตรีท่องเที่ยวอาเซียนที่เวียดนาม เพิ่มประเภทมาตรฐาน AMVS
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ เปิดเผยว่า ปีนี้อุตสาหกรรมไมซ์ จะมีลูกค้าต่างประเทศใช้บริการวม 1.3 ล้านคน สร้างรายได้ให้ประเทศ 100,500 ล้านบาท อยู่บนพื้นฐานเศรษฐกิจไทยขยายร้อยละ 3.7 โดยจะมุ่งทำตลาดใหม่ที่ยังมีศักยภาพเพิ่มมากขึ้น และต้องการให้ลูกค้าไมซ์ ขยายวันอยู่ในประเทศไทยนานขึ้น ซึ่งในช่วงกลางปีนี้ทีเส็บจะทำไมซ์โรดโชว์ที่ประเทศอังกฤษ สหรัฐอเมริกาในเมืองใหญ่ เช่น มินิโซต้า โดยจะเน้นตลาดผู้ประกอบการธุรกิจขนาดใหญ่
นอกจากนี้ จะมุ่งดึงงานไมซ์กลุ่มที่มีแนวโน้มคามอุตสาหกรรมใหม่ เชื่อมระหว่างภาครัฐและเอกชนผู้ประกอบการ ซึ่งจะจับมือกับสภาอุตสาหกรรมทั่วประเทศโดย เน้นงานที่เป็นลักษณะ บีทูบี ( Business-to-Business ซึ่งเน้นลูกค้าองค์กร)มากขึ้น จากปัจจุบันส่วนใหญ่เป็นตลาดบีทูซี( Business-to-Consumer )ที่เน้นบริการให้กับลูกค้าที่เป็นผู้บริโภคทั่วไป จังหวัดที่จะเน้นได้แก่ เชียงใหม่ ขอนแก่น และพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกหรืออีอีซี
นายจิรุตถ์ กล่าวว่า ทีเส็บได้พัฒนามาตรฐานสถานที่จัดประชุม หรือ Thailand MICE Venue Standards:TMVS ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558-2562 และเป็นประเทศแรกในอาเซียนโดยปัจจุบันมีผู้ประกอบการที่ผ่านมารับรองมาตรฐานแล้วรวมทั้งสิ้น 371 แห่ง คิดเป็นจำนวน 949 ห้อง/พื้นที่ทั่วประเทศ และทีเส็บยังผลักดันให้ห้องประชุมเป็นมาตรฐานอาเซียน REGIONAL STANDARD ASEN MICE STANDARDS(AMVS) ซึ่งมีผู้ได้มาตรฐานส่วนนี้แล้ว 33 ราย และในปีนี้ จะผลักดันมาตรฐานเพิ่มเติมในสถานที่จัดงานแสดงสินค้า ในการประชุมรัฐมนตรีท่องเที่ยวอาเซียนที่ประเทศเวียดนามจะมีขึ้นในเร็ว ๆ นี้
สำหรับแผน 5 ปี ทีเส็บ จะยกร่างแผนแม่ ปี 2562-2566 พัฒนามาตรฐานสถานที่จัดงานประเทศไทย เพื่อให้ประเทศไทยขึ้นสู่การเป็นศูนย์กลางธุรกิจไมซ์เอเชียด้วยมาตรฐานสากล และเป็นศูนย์กลางการศึกษาไมซ์แห่งอาเซียน ตั้งเป้ามีสถานที่จัดงานระดับมาตรฐานมากที่สุดในอาเซียน ด้วยจำนวนมากกว่า 600 แห่งหรือจำนวน 1,200 ห้อง ทั้งภายในเมืองหลักไมซ์ซิตี้และเมืองรองตามนโยบายของรัฐบาลภายในปี 2566 นอกจากนี้ ยังเพิ่มผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านหลักสูตรบริหารจัดการสถานที่จัดงาน ให้ได้มากกว่า 500 คน และผลักดันให้ประเทศไทยเป็นผู้นำหลักสูตรนี้ ผ่านการรับรองในระดับอาเซียน -สำนักข่าวไทย