ภูมิภาค 5 ม.ค.-พายุปาบึก สร้างความเสียหาย เกิดน้ำป่าจากเทือกเขาหลวงหลาก ส่วนหนึ่งลงสู่อำเภอนบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช อีกส่วนไหลลงสู่ อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี เจ้าหน้าที่ต้องย้ายคุณตาที่ป่วยเป็นอัมพฤกษ์ วัย 89 ปีตอนกลางดึก อีกทั้งชาวบ้านบางส่วนขนของหนีไม่ทัน ข้าวของจมน้ำเสียหาย สัตว์เลี้ยงไม่ว่าจะเป็นหมูนับร้อยๆ ตัวก็เดือดร้อนไปด้วย ต้องแช่ตัวอยู่ในน้ำป่าที่เย็นเฉียบ ติดตามจากรายงาน.-สำนักข่าวไทย
436 ทีมกู้ภัยยังเดินหน้าค้นหาผู้สูญหายจากเหตุแผ่นดินไหวในเมียนมา แม้จะผ่านมา 4 วันแล้ว จนกลิ่นศพเริ่มคละคลุ้งไปทั่ว ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตใกล้แตะหลัก 3,000 ราย
131 แรงงานรอดชีวิตจากตึกถล่มกลับถึงนครพนม ญาติร่วมผูกแขนเรียกขวัญ พร้อมเล่านาทีเฉียดตาย
258 พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ในพื้นที่โซน B และโซน C มีซากอาคารถล่มทับร่างอยู่ ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่างและค้นหาผู้สูญหายใต้ซากอาคารต่อเนื่อง
270 สาวเจ้าของบัตร แจ้งดําเนินคดี “ลุงสมนิจ” อ้างเป็นเมียท้อง 4 เดือน ติดอยู่ในซากตึก สตง.ถล่ม
20 กรมอุตุฯ รายงานไทยตอนบนอากาศร้อน และร้อนจัดบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือและภาคกลาง ฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนอง
34 “อนุทิน” ระบุยังไม่สรุปสาเหตุตึก สตง. ถล่ม บอกต้องรอตรวจสอบเชิงลึก ชี้สภาพหน้างานตอนนี้ยังเก็บหลักฐานไม่ได้ อยู่ระหว่างกู้ภัย คาดใช้เวลาอีกเป็นเดือน
19 ตำรวจคุมตัวสามีภรรยา ชี้จุดทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังร่วมกันก่อเหตุชิงทอง 8 บาท ร้านทองย่านบางพลี จ.สมุทรปราการ อ้างต้องการเงินไปเป็นเจ้าภาพงานบุญผ้าป่า หลังสัญญากับทางวัดไว้
199 กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์
