BIG STORY : นครศรีฯ พร้อมรับมือพายุปาบึก

นครศรีธรรมราช 3 ม.ค. – สถานการณ์ล่าสุดในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช หลังผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช สั่งอพยพประชาชนพื้นที่ชายฝั่งทั้ง 6 อำเภอ พร้อมสั่งปิดโรงเรียนในพื้นที่เสี่ยง เพื่อความปลอดภัย ขณะที่คลื่นลมในทะเลยังคงมีกำลังแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง



บรรยากาศคลื่นลมบริเวณแหลมตะลุมพุก อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ในช่วงเวลา 17.00 น. วันนี้ (3 ม.ค.) ยังคงมีความรุนแรงของคลื่นและกระแสลมเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง นับตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา น้ำทะเลเป็นสีขุ่นข้น พัดถาโถมเข้าใส่ชายฝั่ง และเข้าใกล้บ้านเรือนของชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 2 และหมู่ 3 ซึ่งเป็นหมู่บ้านชาวประมงที่ปลูกติดชายทะเลเพิ่มมากขึ้น ความสูงของคลื่นกว่า 2-3 เมตร ทำให้ชาวบ้านส่วนใหญ่ต้องอพยพผู้หญิง เด็ก และคนชรา ไปยังศูนย์อพยพในตัวอำเภอ เพื่อความปลอดภัย และนำเรือที่เมื่อวานนี้ได้อพยพขึ้นไปบนฝั่งแล้วรอบหนึ่ง อพยพไปยังที่ปลอดภัยอีกครั้ง เพื่อให้พ้นความรุนแรงของคลื่นที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีกในคืนนี้


ขณะที่บรรยากาศภายในหมู่บ้านและชุมชน ต.ตะลุมพุก ซึ่งปกติมีชาวบ้านอาศัยอยู่กว่า 2,000 คน ขณะนี้บ้านเรือนส่วนใหญ่ถูกปิดเงียบ ชาวบ้านอพยพออกจากพื้นที่แล้ว เหลือไว้เพียงเจ้าหน้าที่ อปพร. ทหาร และผู้ชายที่ทำหน้าที่เวรยาม เฝ้าระวังสถานการณ์


ส่วนบรรยากาศที่ปลายแหลมตะลุมพุก สถานที่ท่องเที่ยวชมทัศนียภาพชายหาดที่ทอดยาวในทะเล ลักษณะคล้ายจะงอยปากของนก วันนี้ถูกน้ำท่วมสูง รถไม่สามารถผ่านเข้าไปบริเวณภายในได้ ร้านค้า ร้านอาหารต่างๆ ปิดให้บริการ เนื่องจากคลื่นลมแรงและไม่ปลอดภัย

จ.นครศรีธรรมราช ได้จัดศูนย์อพยพชาวบ้านในพื้นที่ อ.ปากพนัง ที่โรงยิมเนเซียมของเทศบาลเมืองปากพนัง ซึ่งขณะนี้มีชาวบ้านอพยพมาอาศัยอยู่แล้วร่วม 1,000 คน 

ป้าอนงค์ วัย 80 ปี ชาวบ้านแหลมตะลุมพุก บอกว่า อพยพมาตั้งแต่เมื่อช่วงเช้าวันนี้ เนื่องจากไม่มั่นใจในความปลอดภัย เพราะเมื่อปี 2505 ที่แหลมตะลุมพุกถูกพายุพัดถล่ม ครั้งนั้นตนเองอยู่ในเหตุการณ์ ซึ่งรุนแรงและเกิดความเสียหายอย่างมาก

เช่นเดียวกับพื้นที่ติดชายฝั่งทะเลอีก 5 อำเภอ ซึ่งในวันนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้สั่งการให้อพยพชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งออกจากพื้นที่ทั้งหมด เพื่อความปลอดภัย เช่น ที่บ้านฝายท่า หมู่ 1 ต.ทุ่งใส อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช กำลังทหารจากค่ายฝึกการรบพิเศษสิชล นำรถเข้ามาขนย้ายอพยพประชาชนในพื้นที่ให้ไปอยู่ที่โรงเรียนบ้านห้วยทรายทอง หมู่ 4 ต.ทุ่งใส อ.สิชล โดยมีการลำเลียงคนชรา คนป่วย และเด็ก ออกไปเป็นชุดแรกๆ และจะเร่งอพยพชาวบ้านครบทั้งหมู่บ้านให้ไปอยู่ในที่ปลอดภัย ภายในเช้าพรุ่งนี้ (4 ม.ค.)

ขณะที่นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ขอให้นายอำเภอทุกอำเภอเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น ทั้งจากคลื่นพายุพัดถล่มที่อาจมีความสูงกว่า 5 เมตร รวมทั้งจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน ดินถล่ม ในพื้นที่เมืองและป่าเขา โดยคาดว่าศูนย์กลางของพายุจะพัดเข้าใกล้ จ.นครศรีธรรมราช ในช่วงเย็นวันพรุ่งนี้ ย้ำทุกอำเภอให้ป้องกันระบบการสื่อสารที่อาจล่ม ด้วยการเตรียมพร้อมวิทยุสื่อสารให้สามารถติดต่อแจ้งเตือนประชาชนได้ทันท่วงที โดยขณะนี้ได้สั่งการให้ปิดโรงเรียนในพื้นที่ชายฝั่งแล้วทั้ง 6 อำเภอ คือ อ.ขนอม อ.สิชล อ.ท่าศาลา อ.หัวไทร อ.ปากพนัง และ อ.เมือง ตั้งแต่วันนี้ เพื่อความปลอดภัย และให้เปิดพื้นที่ส่วนราชการทุกอำเภอให้มีความพร้อม เพื่อรองรับการอพยพประชาชนตลอดเวลา 

ทั้งนี้ ทางจังหวัดนครศรีธรรมราชได้เตรียมพร้อมตั้งศูนย์อพยพไว้แล้ว 190 ศูนย์ สามารถรองรับประชาชนได้ 86,000 คน โดยเฉพาะอำเภอชายฝั่งทะเล ซึ่งคาดว่าอาจเกิดคลื่นพายุซัดฝั่ง (สตอร์มเซิร์จ) ได้ มีการกำหนดจุดอพยพถึง 53 ศูนย์ รองรับผู้อพยพได้ 34,400 คน. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร