อสมท 28 ธ.ค.- ปิดตลาดหุ้นปีจอไม่แม้ตัวเขียวเทียบกับวานนี้ แต่หากเปรียบเทียบกับสิ้นปีระกาลดลงเกือบ 200 จุด ฝันรอปีกุน จะลงทุนง่ายๆ หมูๆ มีกำไร
หุ้นไทยแม้วันนี้จะปิดตัวเขียวเทียบกับวานนี้ แต่ปีนี้ก็นับว่าเป็นปีที่หินผันผวนสุดสุด โดยปิดท้ายสุดของปีนี้ปีจอ เมื่อ 16.30 น. ที่ผ่านมา กราฟฟิกหุ้น STILL จะเห็นได้ว่า ดัชนีปิดที่ .1,563.88 เพิ่มขึ้นกว่า 15.51 จุด มูลค่าซื้อขาย กว่า 3,800 ล้านบาท วันนี้วันสุดท้ายนักลงทุนแห่ไปซื้อกองทุนแอลทีเอฟ หรือกองทุนรวมหุ้นระยะยาวและอาร์เอ็มเอฟ หรือกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ เพื่อหักลดหย่อนภาษี เป็นวันสุดท้ายของปี ในขณะที่กองทุนก็ต้องบริหารเงินเข้าไปซื้อหุ้น ส่วนใหญ่ก็เข้าไปซื้อหุ้นบิ๊กแค๊ป หรือ หุ้นขนาดใหญ่ เช่น แบงก์ หุ้นพลังงาน หุ้นไอซีที โดยมูลค่าแอลทีเอฟแต่ละปีมีการซื้ออยู่ที่ประมาณ 4-5 หมื่นล้านบาท ขณะนี้ก็มีวงเงินสะสม 1.3 แสนล้านบาท ปีหน้ายังซื้อได้ต่อ โดย ครม.กำหนดให้เป็นปีที่ซื้อแอลทีเอฟลดหย่อนภาษีได้เป็นปีสุดท้าย หากรัฐบาลใหม่หลังการเลือกตั้งไม่มีการเปลี่ยนแปลงมติ ครม.
ปีนี้นับว่าเป็นปีผกผันอย่างมาก จะเห็นได้ตาม ดัชนีสูงสุดของปีอยู่ที่ระดับ 1,838.96 จุด เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2561 เป็นดัชนีที่ขึ้นไปสูงสุดตั้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดการซื้อขายเมื่อปี 2518 นับว่าสูงสุดในรอบ 43 ปี หลังจากนั้นหุ้นก็ขึ้นขึ้นลงลง และเข้าสู่จุดต่ำสุดของปีเมื่อวานนี้
ส่วนปีหน้า ปีกุนหรือปีหมู ก็มีหลายปัจจัยที่ลุ้นกัน เดิมทีเมื่อเดือน พ.ย. นักวิเคราะห์ก็คาดกันว่าปีหน้าหุ้นอาจจะไปถึง 2,000 จุด แต่ตอนนี้ก็ไม่มีใครกล้าฟันธง เพราะมีปัจจัยทั้งในและต่างประเทศที่ไม่แน่นอน ซึ่งทั้งสองเรื่องเชื่อมโยงระหว่าง โดยเฉพาะการเลือกตั้งในไทยจะเลื่อนหรือไม่จากคาดการณ์ว่าจะเกิดขึ้น 24 กุมภาพันธ์ 2562 ในขณะที่เหตุการณ์ของโลกก็ต้องจับตาดูสงครามการค้าระหว่างยักษ์ใหญ่จีนและสหรัฐ เรื่องการขึ้นดอกเบี้ย และปัญหาของสหรัฐ ที่ต้องเข้าสู่ภาวะปิดหน่วยงานรัฐชั่วคราว (Shutdown) เพราะพรรคเดโมแครตและรีพับลิกัน ไม่สามารถตกลงเรื่องร่างงบประมาณชั่วคราวได้ตามกำหนด ซึ่งขณะนี้ก็มีการประเมินกันว่าเศรษฐกิจโลกปีหน้า จะเติบโตแบบชะลอตัวหรือขยายตัวประมาณร้อยละ 3 เท่านั้น นอกจากนี้ก็ต้องตามลุ้นว่าการก่อสร้างโครงการพื้นฐานของไทยและการลงทุนอีอีซี จะเป็นไปตามแผนงานหรือไม่ด้วย.-สำนักข่าวไทย