มาตรการดื่มไม่ขับ จับยึดรถ วันแรกยึดรถแล้ว 88 คัน

กองทัพบก 28 ธ.ค.- คสช.เดินหน้าใช้มาตรการ “ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ”  เริ่ม 27 ธ.ค.61 – 2 ม.ค.62 วันเดียวยึด รถไว้ 88 คัน เป็นจักรยานยนต์ 63 คัน และ รถยนต์ 25 คัน ยึดใบขับขี่รถจักรยานยนต์ 95 คน และยึดใบอนุญาตขับขี่รถโดยสารสาธารณะ  รถยนต์ 34 คน


พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ เป็นหนึ่งในมาตรการดูแลความปลอดภัยให้ประชาชนในช่วงเทศกาลและวันหยุดต่อเนื่อง ซึ่งเป็นไปตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 46/2558 เรื่อง มาตรการแก้ไขปัญหาอันเกิดจาการขับขี่ยานพาหนะ ที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้ดำเนินการมาตลอด 4 ปี สำหรับในห้วงเทศกาลปีใหม่ ตั้งแต่ 27 ธันวาคม 2561- 2 มกราคม 2562 นี้ 

รองโฆษก คสช. กล่าวว่า  พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ เลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้มอบให้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย ร่วมกับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  ฝ่ายปกครอง กระทรวงคมนาคม องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ชุมชนและประชาชนจิตอาสา ดำเนินมาตรการดังกล่าวอีกเช่นเคย โดยได้จัดตั้งจุดตรวจตามเส้นทางคมนาคม บนถนนสายหลัก สายรอง ทางตรงระยะยาว หรือจุดเสี่ยงจุดล่อแหลมที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนได้ใช้เส้นทางอย่างปลอดภัย เน้นป้องกันไม่ให้มีการดื่มสุราแล้วขับรถ 


พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าวว่า หากตรวจพบพฤติกรรมสุ่มเสี่ยง เจ้าหน้าที่จะใช้การชี้แจง แนะนำให้ยุติการใช้รถ ติดต่อญาติหรือผู้นำชุมชนมารับทราบเหตุ หากจำเป็นเจ้าหน้าที่จะนำรถไปเก็บรักษาไว้ก่อน ณ สถานที่ที่จัดเตรียมไว้พร้อมดูแลป้องกันความเสียหายของรถ เช่นการลงทะเบียน บันทึกภาพ ติดตั้งกล้องวงจรปิด ทั้งนี้เจ้าของรถสามารถติดต่อขอรับรถคืนได้หลังเทศกาล  

รองโฆษก คสช. กล่าวว่า โดยสถิติการดำเนินมาตรการ ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ตั้งแต่ปี 2559-2561 ปรากฏว่าผู้กระทำผิดและรถที่เจ้าหน้าที่เก็บรักษาไว้ตลอดเทศกาลมีจำนวนสูงขึ้นทุกปี ดังนี้  ปี 2559 เจ้าหน้าที่นำรถไปเก็บรักษาไว้ 3,046 คัน แยกเป็นจักรยานยนต์ ๒,๔๗๗ คัน และ รถยนต์ 569 คัน ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด 30,152 คน  ปี 2560 เจ้าหน้าที่นำรถไปเก็บรักษาไว้ 4,354 คัน แยกเป็นรถจักรยานยนต์ 3,118  คัน และ รถยนต์ 1,236 คัน ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด 66,783 คน  ปี 2561 เจ้าหน้าที่นำรถไปเก็บรักษาไว้ 6,326 คัน แยกเป็นรถจักรยานยนต์ 4,823 คัน และ รถยนต์ 1,503 คัน ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด 245,356 คน

พ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าวว่า สำหรับในวันที่ 27 ธันวาคม 2561 ซึ่งเป็นวันแรกของมาตรการนี้ พบว่ามีผู้กระทำผิดในลักษณะที่สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุโดยประมาท 6,852 ครั้ง ดำเนินคดี 4,443 ราย เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องเก็บรักษารถไว้ 88 คัน เป็นจักรยานยนต์ 63 คัน และ รถยนต์ 25 คัน  ยึดใบขับขี่รถจักรยานยนต์ 95 คน และยึดใบอนุญาตขับขี่รถโดยสารสาธารณะ  รถยนต์ 34 คน


 “ทั้งนี้ ที่ผ่านมาดื่มไม่ขับ จับยึดรถเป็นมาตรการที่ประชาชนให้การตอบรับเป็นอย่างดี เพราะทำให้ผู้ใช้เส้นทางมีความระมัดระวังและตะหนักในวินัยจราจรยิ่งขึ้น รวมทั้งยังช่วยป้องกันอุบัติเหตุ ลดการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งเป็นไปตามเจตนารมณ์ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติและรัฐบาล ที่หวังให้เทศกาลปีใหม่เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขของคนไทยอย่างแท้จริง” รองโฆษก คสช. กล่าว .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

บุกจับกำนันหญิงแหนบทองคำ ฉ้อโกง 41 ล้าน

ตำรวจพิษณุโลกเปิดปฏิบัติการ “หักขาไก่” นำ 10 หมายจับ รวบตัว “กำนันหญิงแหนบทองคำ” ประธานกองทุนหมู่บ้าน กับคณะกรรมการกองทุนฯ ร่วมฉ้อโกงประชาชน หลังชาวบ้าน 140 ราย แจ้งความ มูลค่าความเสียหาย 41 ล้านบาท

ชาวเมียวดีหวั่นถูกตัดไฟฟ้า เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์

ชาวบ้านเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้ามชายแดนแม่สอด จ.ตาก หวั่นไทยตัดไฟฟ้า กระทบวงกว้าง เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์-เครื่องปั่นไฟ รับมือ ด้าน PEA ชี้ตัดไฟเมียนมาอาจสูญเปล่า หากไม่พิจารณาให้ครบถ้วน

ข่าวแนะนำ

รวบแล้วนักโทษหนีเรือนจำนนทบุรี จนมุมที่ จ.ชลบุรี

จับได้แล้วนักโทษชายหนีเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ระหว่างออกกองงานภายนอก จนมุมที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่งย่านบางแสน จ.ชลบุรี ก่อนนำตัวมาสอบสวนและดำเนินคดีที่ สภ.เมืองนนทบุรี

ตัดไฟ 5 จุดชายแดนเมียนมา วันแรก กระทบชาวบ้านหลายหมื่นคน

หลังทางการไทยตัดไฟฟ้าที่เชื่อมโยงไปยังเมืองเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก ส่งผลชาวบ้านแห่กักตุนน้ำมัน โรงพยาบาลเมียวดีได้รับผลกระทบในการเก็บเวชภัณฑ์ที่ต้องใช้ตู้แช่

ตร.ปัตตานีเร่งล่า 6 คนร้ายควงปืนปล้นร้านสะดวกซื้อ

อุกอาจ 6 คนร้าย พร้อมอาวุธมีด-ปืน ยกพวกปล้นร้านสะดวกซื้อใน อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ได้เงินไป 4,492 บาท ตำรวจเร่งไล่กล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ที่คนร้ายใช้เป็นเส้นทางหลบหนี

นายกฯ​ ยกคณะเยือนจีน หารือความร่วมมือรอบด้าน

นายกรัฐมนตรี​ ยกคณะเยือนจีนอย่างเป็นทางการ หารือความร่วมมือรอบด้าน แก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์-อาชญากรรมข้ามชาติ ย้ำไทยปลอดภัย พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนตลอดปี สานต่อ​รถไฟความเร็วสูง-แลนด์บริดจ์ ขณะที่เตรียมรับแพนด้ายักษ์คู่ใหม่​ และจะไปให้กำลังใจนักกีฬาไทยแข่งเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว