ศปถ.สรุปยอดอุบัติเหตุ 1 ม.ค. เกิดอุบัติเหตุ 574 ครั้ง เสียชีวิต 73 ราย

ปภ. 2 ม.ค.- ศปถ.สรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนน 1 ม.ค. เกิดอุบัติเหตุ 574 ครั้ง เสียชีวิต 73 ราย กำชับเข้มข้นดูแลเส้นทางสายหลัก จุดเสี่ยงอุบัติเหตุ


นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านสาธารณภัยและพัฒนาเมือง ในฐานะประธานการประชุมคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตลอดทั้งปี เผยว่าศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2565 โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและความร่วมมือของหน่วยงานภาคีเครือข่าย รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 1 มกราคม 2565 ซึ่งเป็นวันที่ 4 ของการรณรงค์ “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ” เกิดอุบัติเหตุ 574 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 73 ราย ผู้บาดเจ็บ 574 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 37.28 ขับรถเร็ว ร้อยละ 35.71 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 89.27 ส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรง ร้อยละ 81 ถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 37.80 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 03.01 – 06.00 น. ร้อยละ 25.96 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุด อยู่ในช่วงอายุ 30 – 39 ปี ร้อยละ 17 

ทั้งนี้ ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 1,890 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 42,189 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 419,239 คัน  มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 85,196 ราย มีความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 24,279 ราย ไม่มีใบขับขี่ 21,815 ราย โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ กาญจนบุรี 24 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร 6 รายจังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ กาญจนบุรี 31 คน 


สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 4 วันของการรณรงค์ (29 ธ.ค.64 – 1 ม.ค.65) เกิดอุบัติเหตุรวม 1,906 ครั้ง ผู้เสียชีวิตรวม 226 ราย ผู้บาดเจ็บรวม 1,894 คน จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุดได้แก่ เชียงใหม่ 74 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร 14 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 70 คน จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 35 จังหวัด

นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในฐานะเลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน เผยว่า วันนี้คาดว่าจะมีประชาชนบางส่วนทยอยเดินทางกลับ ทำให้เส้นทางหลักกลับเข้าสู่กรุงเทพมหานครและจังหวัดใหญ่ในภูมิภาคต่างๆ มีปริมาณรถเพิ่มขึ้น ประกอบกับความอ่อนล้าของผู้ขับขี่ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุง่วงหลับในได้ ขณะที่บางส่วนยังคงเพื่อท่องเที่ยวและเฉลิมฉลองอยู่ในพื้นที่ ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน จึงได้ประสานจังหวัดสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสาสมัครอำนวยการจราจรและดูแลความปลอดภัยแก่ประชาชนตลอดเส้นทาง ดำเนินมาตรการดูแลความปลอดภัยในการเดินทางอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง โดยปรับแผนเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจบนเส้นทางสายหลัก สายรอง และจุดเสี่ยงอันตรายที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง รวมถึงเพิ่มความถี่ในการจัดตั้งจุดตรวจบนเส้นทางสายหลัก ทางร่วม ทางแยก เพื่อชะลอความเร็วรถและประเมินความพร้อมของผู้ขับขี่ เน้นกวดขันพฤติกรรมเสี่ยงและการใช้อุปกรณ์นิรภัย โดยเฉพาะบริเวณจุดเสี่ยงอุบัติเหตุเส้นทางตรงที่มีระยะทางยาวที่มักเกิดอุบัติเหตุจากการหลับใน อีกทั้งเข้มข้นการดูแลเส้นทางสายรองที่ประชาชนใช้เป็นทางลัดและทางเลี่ยงเมือง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นถนนทางตรง วิ่งสวนเลน และไม่มีเกาะกลาง จึงสามารถใช้ความเร็วได้สูง ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ

ทั้งนี้ ขอฝากให้ผู้ใช้รถใช้ถนนปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด ไม่ขับรถเร็ว หากขับรถระยะทางไกลให้หยุดพักรถทุก 1-2 ชั่วโมง ไม่ฝืนขับรถเมื่อมีอาการง่วงนอน เพื่อให้เดินทางถึงจุดหมายอย่างปลอดภัยสำหรับประชาชนที่ประสบหรือพบเห็นอุบัติเหตุ สามารถแจ้งเหตุได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 หรือแจ้งเหตุทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM เพื่อประสานให้การช่วยเหลือต่อไป.-สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น