ผู้ว่าธปท. ยืนยันแบงก์ยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้อ้างอิง ไม่ทำให้ภาระหนี้สินประชาชนเพิ่ม

ขอนแก่น 24 ธ.ค. – ผู้ว่าธปท. ย้ำประชาชนไม่ต้องกังวลว่าภาระหนี้สินจะเพิ่ม แบงก์ยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้อ้างอิงตาม กนง. ชี้ดอกเบี้ยเงินกู้สินเชื่อธุรกิจควรปรับขึ้นก่อน 


นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวในงานสัมมนาสื่อมวลชนประจำปี 2561 ที่จังหวัดขอนแก่น ว่า ประชาชน ไม่ต้องวิตกกังวลว่าภาระหนี้จะเพิ่มขึ้นหรืออัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์จะปรับขึ้น หลังจากที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.25 จากร้อยละ 1.50 เป็นร้อยละ 1.75 เพราะสภาพคล่องส่วนเกินในระบบยังมีอยู่สูง ธนาคารพาณิชย์จึงยังไม่จำเป็นที่จะต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ที่คิดกับประชาชน ทั้ง MLR  MOR และ MRR หรือหากจะมีการขึ้นดอกเบี้ยควรปรับขึ้นเฉพาะสินเชื่อที่ให้กับภาคธุรกิจ ขณะที่การแข่งขันของธนาคารพาณิชย์ยังมีอยู่สูงมาก

ส่วนสินเชื่อที่อยู่อาศัยนั้นผู้กู้ประมาณร้อยละ2 ใน 3 ใช้อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3 ปี ส่วนสินเชื่อบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล คิดอัตราดอกเบี้ยตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดซึ่งเป็นดอกเบี้ยคงที่ คือสูงสุดไม่เกินร้อยละ 28 ดังนั้นดอกเบี้ยเงินกู้บ้านกับสินเชื่อส่วนบุคคล จึงไม่มีการปรับขึ้น ประชาชนจึงไม่ได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายครั้งนี้


ในฝั่งของผู้ออมเงิน จะได้รับประโยชน์จากการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย เนื่องจากดอกเบี้ยในตลาดการเงินระยะสั้น เช่นกองทุนตราสารหนี้ จะปรับผลตอบแทนขึ้นทันที ขณะที่สถาบันการเงินขนาดใหญ่มีการปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากประจำทำให้ผู้ออมได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้น

ส่วนที่มีการกังวลว่าดอกเบี้ยนโยบายจะปรับทิศทางเป็นดอกเบี้ยขาขึ้นนั้น ผู้ว่าการธปท.กล่าวว่าการตัดสินนโยบายการเงิน จะพิจารณาจากข้อมูลเศรษฐกิจในแต่ละช่วงเวลา ซึ่งปัจจุบันเศรษฐกิจไทยยังมีปัจจัยเสี่ยงโดยเฉพาะปัจจัยภายนอกประเทศที่ไม่สามารถควบคุมได้ และการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายที่ผ่านมาไม่ได้เป็นการส่งสัญญาณว่าจะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทุกครั้งที่มีการประชุม 


นายวิรไท กล่าวถึงทิศทางเศรษฐกิจไทยในปี 2562 ว่า จะขยายตัวประมาณร้อยละ 4 ลดลงจากปีนี้ที่โตร้อยละ 4.2 ซึ่งเป็นการเติบโตที่สอดคล้องกับระบบเศรษฐกิจไทย โดยมีปัจจัยบวกมาจากการบริโภค การจ้างงาน และการลงทุนภาคเอกชนที่ขยายตัวต่อเนื่อง ขณะที่การลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของรัฐบาลจะมีความชัดเจนมากขึ้นในปีหน้าซึ่งจะเกิดผลชักจูงให้ภาคเอกชนมาลงทุนต่อเนื่องโดยการลงทุนถือเป็นสิ่งที่สำคัญเพราะหากการลงทุนติดเครื่องจะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจไทย

“ แม้จีดีพีเศรษฐกิจไทยในปีหน้าจะลดลงบ้าง แต่การชนโดยเฉพาะฐานะต่างประเทศของไทยยังดีมีเสถียรภาพอย่างไรก็ตามต้องไม่ชะล่าใจต้องสร้างภูมิคุ้มกันที่ดี ลดจุดเปราะบางในประเทศ” นายวิรไท กล่าว

ส่วนปัจจัยเสี่ยงสำหรับเศรษฐกิจไทยในปีหน้าคือสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน ซึ่งยังต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง มีทั้งผลบวกและผลลบต่อการส่งออกของประเทศไทยโดยยังมีความไม่แน่นอนที่ยังต้องติดตามใกล้ชิด ความเสี่ยงจากสภาพเศรษฐกิจจีนที่มีการปรับโครงสร้างหลายอย่างโดยเฉพาะปัญหาหนี้ธุรกิจจีนที่จะกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจจีน และความขัดแย้งระหว่างประเทศปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ที่เกิดขึ้นในตะวันออกกลาง การประท้วงรัฐบาลในยุโรป รวมถึงการลงมติที่สหราชอาณาจักรจะออกจากสหภาพยุโรป ( Brexit).-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

บุกจับกำนันหญิงแหนบทองคำ ฉ้อโกง 41 ล้าน

ตำรวจพิษณุโลกเปิดปฏิบัติการ “หักขาไก่” นำ 10 หมายจับ รวบตัว “กำนันหญิงแหนบทองคำ” ประธานกองทุนหมู่บ้าน กับคณะกรรมการกองทุนฯ ร่วมฉ้อโกงประชาชน หลังชาวบ้าน 140 ราย แจ้งความ มูลค่าความเสียหาย 41 ล้านบาท

ชาวเมียวดีหวั่นถูกตัดไฟฟ้า เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์

ชาวบ้านเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้ามชายแดนแม่สอด จ.ตาก หวั่นไทยตัดไฟฟ้า กระทบวงกว้าง เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์-เครื่องปั่นไฟ รับมือ ด้าน PEA ชี้ตัดไฟเมียนมาอาจสูญเปล่า หากไม่พิจารณาให้ครบถ้วน

ข่าวแนะนำ

รวบแล้วนักโทษหนีเรือนจำนนทบุรี จนมุมที่ จ.ชลบุรี

จับได้แล้วนักโทษชายหนีเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ระหว่างออกกองงานภายนอก จนมุมที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่งย่านบางแสน จ.ชลบุรี ก่อนนำตัวมาสอบสวนและดำเนินคดีที่ สภ.เมืองนนทบุรี

ตัดไฟ 5 จุดชายแดนเมียนมา วันแรก กระทบชาวบ้านหลายหมื่นคน

หลังทางการไทยตัดไฟฟ้าที่เชื่อมโยงไปยังเมืองเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก ส่งผลชาวบ้านแห่กักตุนน้ำมัน โรงพยาบาลเมียวดีได้รับผลกระทบในการเก็บเวชภัณฑ์ที่ต้องใช้ตู้แช่

ตร.ปัตตานีเร่งล่า 6 คนร้ายควงปืนปล้นร้านสะดวกซื้อ

อุกอาจ 6 คนร้าย พร้อมอาวุธมีด-ปืน ยกพวกปล้นร้านสะดวกซื้อใน อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ได้เงินไป 4,492 บาท ตำรวจเร่งไล่กล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ที่คนร้ายใช้เป็นเส้นทางหลบหนี

นายกฯ​ ยกคณะเยือนจีน หารือความร่วมมือรอบด้าน

นายกรัฐมนตรี​ ยกคณะเยือนจีนอย่างเป็นทางการ หารือความร่วมมือรอบด้าน แก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์-อาชญากรรมข้ามชาติ ย้ำไทยปลอดภัย พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนตลอดปี สานต่อ​รถไฟความเร็วสูง-แลนด์บริดจ์ ขณะที่เตรียมรับแพนด้ายักษ์คู่ใหม่​ และจะไปให้กำลังใจนักกีฬาไทยแข่งเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว