สตช.สนองนโยบายนายกฯ ออกมาตรการเข้มก่อนปีใหม่ระดมกวาดล้างอาชญากรรมทั่วประเทศ

กรุงเทพฯ 20 ธ.ค.- สำนักงานตำรวจแห่งชาติสนองนโยบายนายกฯ ออกมาตรการเข้มสั่งระดมทั่วประเทศกวาดล้างคดีอาชญกรรมทุกรูปแบบและออกหาข่าวความเคลื่อนไหวต่างๆ ก่อนเทศกาลปีใหม่ เน้นย้ำให้เอาจริงกับผู้ฝ่าฝืนกฎหมายจราจรป้องกันอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้น 


พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. กล่าวว่า ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กำชับการรักษาความปลอดภัยช่วงเทศกาลวันคริสต์มาสไปจนถึงปีใหม่ โดนเน้นการอำนวยความสะดวกประชาชน ด้านการดูแลความปลอดภัยและการอำนวยความสะดวกด้านจราจร ประกอบกับการเฝ้าระวังสถานการณ์ต่างๆ ในช่วงปีใหม่อย่างใกล้ชิดนั้น พล.ต.อ.จักรทิพย์  ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับ สั่งการ เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกภาคส่วนให้ขับเคลื่อน ในการเพิ่มมาตรการดังกล่าว อย่างเป็นรูปธรรมเพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชนชน นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางในช่วงเทศกาลวันหยุดยาว ดังต่อไปนี้

 มาตรการด้านการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ได้สั่งการมีการระดมกวาดล้างอาชญากรรมทั่วประเทศ ระหว่าง 24 ธ.ค. 2561 – 2 ม.ค. 2562 โดยเน้นการป้องกันและปราบปรามคดีประทุษร้ายต่อทรัพย์ในสถานที่สำคัญ เช่น สถานีขนส่ง ที่พักผู้โดยสาร แหล่งท่องเที่ยว พร้อมตรวจสอบบุคคลตามหมายจับค้างเก่า บุคคลเฝ้าระวัง บุคคลพ้นโทษ , สืบสวนหาข่าวและข้อมูลเชิงลึกเพื่อปิดล้อมตรวจค้นสิ่งของอาวุธต่างๆ ที่จะใช้ในการก่อเหตุ เพิ่มความเข้มในการตั้งจุดตรวจจุดสกัด  ด่านตรวจบุคคลและยานพาหนะ เพื่อตรวจค้นอาวุธปืน อาวุธสงคราม ยาเสพติด และ สิ่งของผิดกฎหมาย , ขอความร่วมมือสถานบริการและสถานบันเทิงต่าง ๆ ให้ปฏิบัติตามคำสั่ง คสช. การเปิด – ปิดให้ตรงเวลา การขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การปล่อยปะละเลยให้เด็กต่ำกว่า 20 ปีเข้าใช้บริการ รวมไปถึงการลักลอบค้าบริการทางเพศและการลักลอบเล่นการพนัน พร้อมทั้งกวดขันจับกุมการเล่นดอกไม้เพลิง พลุประทัด และการปล่อยโคมลอย , จัดทำโครงการประชารัฐร่วมใจดูแลความปลอดภัยบ้านประชาชนช่วงเทศกาลสำคัญ ระหว่าง 24 ธ.ค. 2561 – 2 ม.ค. 2562 ระยะเวลา 10 วัน , ให้ บช.ปส.จัดกำลังสนับสนุนการปฏิบัติของตำรวจท้องที่ สุ่มตรวจมิให้มีการใช้ยาเสพติดชนิดต่างๆ ในสถานบันเทิง ,  สตม. ตรวจคัดกรองการเข้ามาในและออกไปนอกราชอาณาจักรโดยละเอียด โดยเฉพาะ กลุ่มบุคคลที่ต้องเฝ้าระวัง บุคคลต้องห้าม บุคคลที่มีหมายจับ และ การร่วมมือกับภาคประชาชนในการป้องกันเหตุโดยใช้หมายเลขโทรศัพท์ 191 เป็นช่องทางหลักในการรับแจ้งเหตุ รวมทั้งข้อมูลการจราจรการนำผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุหรือเหตุอื่นๆ เข้ารับการรักษาพยาบาล และ ใช้แอพพลิเคชั่น Police I Lert Uเป็นช่องทางสื่อสารสองทางกับประชาชนอีกทางหนึ่ง


มาตรการป้องกันเหตุการณ์การก่อความไม่สงบในพื้นที่ โดยเพิ่มความเข้มในการตรวจรักษาความปลอดภัยสถานที่ที่มีการจัดงานเคาท์ดาวน์ สถานที่ราชการ สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยม และสถานที่สำคัญต่างๆ จัดชุดปฏิบัติการทางยุทธวิธี โดยเฉพาะชุดเคลื่อนที่เร็ว ชุดปฏิบัติการพิเศษ ชุดเก็บกู้และตรวจสอบวัตถุระเบิด ชุดตรวจพิสูจน์ที่เกิดเหตุ ชุดตรวจบันทึกภาพ สนับสนุนการปฏิบัติได้โดยเร็วที่สุดเมื่อเกิดเหตุ , ให้ สันติบาล สนับสนุนด้านการข่าวด้านต่างๆ , สตม. กำชับเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองทุกแห่ง เพิ่มความเข้มในการตรวจสอบเอกสารการเดินทางด้วยความละเอียดรอบคอบ

มาตรการบังคับใช้กฎหมายและอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ในการบริหารจัดระเบียบการจราจร เส้นทางหลัก เส้นทางรอง จุดบริการประชาชน บริเวณที่จัดงานเคาท์ดาวน์ , เร่งการระบายรถ อำนวยความสะดวกด้านการจราจรการเดินทางของประชาชนในการกลับภูมิลำเนาและกลับ กทม. , เตรียมความพร้อมของรถยก รถกู้ภัย เพื่อช่วยเหลือกรณีเกิดเหตุและเปิดเส้นทางการจราจรโดยเร็ว , จัดให้มีการตรวจวัดแอลกอฮอล์กับผู้ขับขี่รถ กวดขันจับกุมตามมาตรการบังคับใช้กฎหมาย 10 ข้อหาหลัก ขับรถเร็ว , ฝ่าฝืนสัญญาณจราจร , ย้อนศร , ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ,ไม่มีใบขับขี่ , แซงในที่คับขัน , เมาแล้วขับ , ไม่สวมหมวกนิรภัย , มอเตอร์ไซค์ไม่ปลอดภัย , ใช้มือถือขณะขับขี่รถ และ การออกข้อบังคับเจ้าพนักงานจราจร ทั่วราชอาณาจักรว่าด้วยการกำหนดช่องแนวทางเดินรถขึ้นและล่องในถนนบางสายและห้ามรถบรรทุก 10 ล้อขึ้นไปเดินในถนนบางสาย , ตรวจสอบรถบัส รถตู้โดยสารสาธารณะ จะต้องได้รับอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบก มีป้าย มีการเสียภาษี มีเส้นทางการวิ่งที่ชัดเจน วิ่งในความเร็วที่กำหนด โดยพนักงานขับรถต้องได้รับอนุญาต มีการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ มีจำนวนพนักงานที่เพียงพอ พักผ่อนเพียงพอ ไม่ขับรถขณะเหนื่อยล้า

รอง โฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์  ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้มีความเป็นห่วงเป็นในพี่น้องประชาชนในช่วงเทศกาลวันหยุดยาว ปีใหม่ 2562 จึงได้กำชับให้กองบัญชาการทุกภาคส่วน เพิ่มความเข้มในการรักษาความปลอดภัยชีวิตและทรัพย์สิน รักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ และอำนวยความสะดวกการจราจรแก่พี่น้องประชาชนอย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้พักผ่อนในช่วงวันหยุดยาวได้อย่างมีความสุขและเดินทางด้วยความปลอดภัย  


 ทั้งนี้ จึงขอประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนและนักท่องเที่ยว ให้ร่วมมือในการป้องกันอาชญากรรม หรืออันตรายที่อาจเกิดขึ้นในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ 2562  โดยห้ามเล่นดอกไม้เพลิง พลุ ประทัด และโคมลอยในลักษณะที่จะสร้างความหวาดกลัวและก่อความเดือดร้อนรำคาญ หรือเป็นอันตรายแก่ผู้อื่น , การยิงปืนขึ้นฟ้าโดยไม่มีเหตุอันควร , การแต่งกายไม่ควรประดับของมีค่าหรือนำทรัพย์สินสินติดตัวไปจำนวนมากเพื่อป้องกันมิให้มิจฉาชีพที่ฉวยโอกาสก่อเหตุประทุษร้ายต่อทรัพย์ , ผู้ปกครองควรกำชับบุตรหลานให้ระมัดระวังเพื่อมิให้ถูกลอกหลวงไปในทางมิชอบ หรือประพฤติตนไม่สมควร  รวมถึงไม่ควรปล่อยให้เด็กไปเที่ยวงานโดยลำพัง รวมไปถึง ผู้ปกครองที่จะนำบุตรหลานออกมาเที่ยวในช่วงวันหยุดให้เขียนชื่อที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้ไว้ในกระเป๋า เพื่อสะดวกในการติดตามกรณีเกิดการพลัดหลง และ ขอความร่วมมือให้ปฏิบัติกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะ เมาไม่ขับ ไม่ใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับขี่รถ การสวมหมวกนิรภัย การคาดเข็มขัดนิรภัยและไม่ขับรถเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ ถึงอุบลฯ แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้ชาวบ้าน

อุบลราชธานี 20 มิ.ย.-นายกฯ ถึงอุบลราชธานี แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้จากประชาชน ก่อนขึ้น ฮ.ไปฐานมรกต ให้กำลังใจทหารแนวหน้า ขำสื่อรุมถาม “ไมค์เขกหัวนายกฯ” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงกองบิน 21 จ.อุบลราชธานี โดยมี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 รอรับ และเดินทางต่อไปที่สนามกีฬานานาชาติ อบต.โดมประดิษฐ์ มีว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี นายเกรียง กัลป์ตินันท์ อดีต รมว.มหาดไทย และ สส.พรรคเพื่อไทย มารอต้อนรับ น.ส.แพทองธาร ได้มอบสิ่งของให้แก่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) และกล่าวทักทายอย่างเป็นกันเอง โดยชาวบ้านหลายคนนำดอกกุหลาบ และผ้าขาวม้า มามอบให้เป็นกำลังใจแก่นายกฯ ในระหว่างที่ประชาชนมอบดอกไม้ให้ นายกฯ ชวนแม่ทัพภาคที่ 2 มารับดอกไม้และถ่ายภาพร่วมกัน ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงการพูดคุยกับแม่ทัพภาคที่ 2 ได้เคลียร์ใจแล้วหรือไม่ […]

พรรคเสนอชื่อนายกฯ ได้ ต้องมี สส. 25 คน

รัฐสภา 20 มิ.ย.-เลขาธิการสภาฯ แจงพรรคเสนอชื่อนายกฯ ได้ ต้องมี สส. 25 คน แม้จะมีชื่อในบัญชี ก็ไม่เป็นผล ว่าที่ร้องตรีอาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หากต้องมีการเลือกนายกฯ ใหม่ ว่า บุคคลที่สามารถได้รับการเสนอชื่อจะต้องเป็นบุคคลที่มีรายชื่อในบัญชีที่เสนอต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง โดยพรรคที่สามารถเสนอชื่อบุคคลเป็นนายกฯได้ จะต้องมี สส.จำนวน 5% ของสส. 500 คน คือมี สส. 25 คน ตามมาตรา 159 วรรค 1 ซึ่งในขณะนี้มี สส.ในสภาฯ จำนวน 495 คน 5% คือ 24.75 ซึ่งพรรคพลังประชารัฐขณะนี้มี สส.เหลือไม่ถึง 20 คน จึงไม่สามารถเสนอบุคคลในบัญชีรายชื่อคือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นนายกฯ ได้ ตามมาตรา 159 […]

ทหารเรือเกษียณเลือดร้อน ยิงข้างห้องดับ 1 เจ็บ 1

ชุมพร 20 มิ.ย. – ทหารเรือเกษียณเลือดร้อน ฉุนข้างห้องติดเครื่องรถกระบะจอดแช่นาน เกิดมีปากเสียง คว้าปืนยิงสามีเข้าที่คอบาดเจ็บ ส่วนภรรยาโดนยิงเข้าเบ้าตาเสียชีวิต ตำรวจ สภ.เมืองชุมพร เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุยิงกัน บริเวณห้องเช่า ริมถนนซอยสุขาภิบาล 17 – วัดเขาปุก ต.วังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร ที่เกิดเหตุเป็นห้องแถวเช่าติดกัน 4 ห้อง บริเวณหน้าห้องซ้ายสุด มีรถกระบะสีดำจอดอยู่ พร้อมกองเลือด ส่วนผู้บาดเจ็บ ทราบชื่อ น.ส.จิราวรรณ อายุ 54 ปี ถูกยิงเข้าที่ตาข้างขวา อาการสาหัส หน่วยกู้ชีพนำส่งโรงพยาบาล ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา นอกจากนั้นยังมีผู้บาดเจ็บอีก 1 คน คือ นายสุรพจน์ อายุ 53 ปี ถูกยิงเข้าที่ไหปลาร้า ใกล้ลำคอด้านขวา แต่กระสุนถากไป ได้รับบาดเจ็บไม่มาก นายสุรพจน์ ให้ข้อมูลว่า คนก่อเหตุยิงเป็นเพื่อนบ้านห้องเช่าใกล้กัน ชอบตะโกนต่อว่าตนว่าติดเครื่องยนต์จอดแช่ไว้นาน ทำให้รำคาญ ซึ่งตนก็บอกไปว่า รถยนต์ตนต้องติดเครื่องวอร์มแช่ไว้ก่อนทุกครั้ง […]

นายกฯ รับคลิปเสียงจริง ซัด “ฮุนเซน” ปล่อยหวังรัฐบาล-กองทัพแตกแยก

ทำเนียบ 18 มิ.ย.- นายกฯ รับคลิปเสียงคุย “ฮุนเซน” เป็นของจริง แจงปมบอกแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม เป็นเทคนิคการเจรจาต่อรองสร้างสันติภาพ หลัง “ฮุนเซน” โกรธ ชี้จุดประสงค์หวังสร้างคะแนนนิยมรัฐบาลกัมพูชาที่ไม่สนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รับไม่ไว้ใจ จากนี้ไม่ขอคุยส่วนตัว ปัดตอบสัมพันธ์ 2 ตระกูล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงด่วนกรณีมีคลิปเสียงสนทนาระหว่างที่พูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่ออกมาผ่านโซเชียลมีเดีย โดยยอมรับว่าเป็นคลิปจริง เป็นการคุยกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ทราบข้อมูลจากล่ามที่แปลว่า ทางสมเด็จฮุน เซน โกรธแม่ทัพภาคที่ 2 ที่มีการพูดกันก่อนหน้านั้น เมื่อได้คุยกัน ตนจึงบอกว่า แม่ทัพภาคที่ 2 พูดกันแบบนี้ ในเมื่อเราทั้งไทยและกัมพูชาเป็นฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว ในตอนนั้นก็ต้องพูดแบบนี้ อย่าไปคิดเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่พยายามจะทำความเข้าใจ เพราะทางฝั่งสมเด็จฮุน เซน โกรธเรื่องนี้ และเป็นเทคนิคในการพูดหลังไมค์หลังบ้านแบบส่วนตัว ซึ่งการคุยโทรศัพท์ก็ไม่ควรเอามาเปิดเผย เพราะเป็นเทคนิคในการเจรจาพูดคุยต่อรอง ส่วนตัวคิดว่า ตนทำเพราะมีจุดมุ่งหมายและมีประเด็นที่จะรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของบ้านเมืองและรักษาอธิปไตยของไทยไว้ ให้ผลประโยชน์อยู่กับประเทศชาติและประชาชน ตนก็คุยด้วยความซอฟต์และความนุ่มนวล เพราะบางทีเวลาคุยกันส่วนตัวก็เรียกกันลุงหลาน […]

ข่าวแนะนำ

“ฮุนเซน” เย้ยหากไทยหยุดขายน้ำมันให้ กระทบตัวเอง

กัมพูชา 21 มิ.ย.-“ฮุนเซน” โพสต์เฟซบุ๊กล่าสุด เย้ยหากไทยหยุดขายน้ำมันให้กัมพูชา จะกระทบบริษัทของไทยเอง ความเคลื่อนไหวล่าสุดจาก เฟซบุ๊ก “ฮุนเซน” เวลาประมาณ 22.30 น. ที่ผ่านมา โพสต์ข้อความที่แปลเป็นภาษาไทยว่า เกมแห่งการคุกคามที่อาจนำไปสู่การทำลายตัวเอง วันนี้ พรรคฝ่ายค้านของไทยได้เสนอให้รัฐบาลไทยหยุดขายน้ำมันให้กับกัมพูชา เพื่อกดดันให้กัมพูชายอมจำนน ในการนี้ เราขอยืนยันอย่างชัดเจนว่า กัมพูชาจะไม่ล้มเหลวเพียงเพราะไม่ได้ซื้อน้ำมันจากประเทศไทย ในทางกลับกัน อาจเป็นบริษัท PTT ของไทยเองที่ต้องเผชิญกับผลกระทบ คุณต้องการให้บริษัท PTT ของไทยล่มสลายใช่หรือไม่? ถ้าคุณต้องการเช่นนั้น ก็จงเดินหน้าต่อไปตามแผนของคุณ กัมพูชาพร้อมแล้วที่จะรับมือกับสถานการณ์ที่คุณใช้คุกคามเรา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอินเทอร์เน็ต ไฟฟ้า แรงงาน และตอนนี้น้ำมันก็ถูกใช้เป็นอาวุธอีกหนึ่งอย่างในเกมนี้ ในอดีตคุณเคยดูถูกและเลือกปฏิบัติต่อแรงงานกัมพูชา ใช้พวกเขาเป็นเครื่องมือต่อรอง แต่เมื่อเราประกาศว่าจะรับแรงงานกลับประเทศ คุณก็เปลี่ยนท่าทีทันที กลับมาปลอบโยนและดูแลแรงงานเหล่านั้น ทำไม? เพราะถ้าแรงงานกัมพูชาถอนตัวจากโรงงาน ฟาร์ม บริษัท และไซต์ก่อสร้าง ธุรกิจจำนวนมากในไทยอาจต้องปิดตัวลงเพราะขาดแรงงาน หากคุณกล้าจริง ก็ลองไล่แรงงานกัมพูชาออกให้หมด แล้วมาดูกันว่าจะกระทบเศรษฐกิจไทยแค่ไหน น้ำมันก็เช่นเดียวกัน ลองดูได้เลย แต่อย่าลืมปรึกษาบริษัท PTT ของไทยก่อน เพราะนั่นอาจหมายถึงการทำลายธุรกิจของพวกเขา […]

แม่ทัพภาคที่ 2 ยันการเมืองไม่กระทบการทหาร

นครพนม 21 มิ.ย.-พล.ท.บุญสิน แม่ทัพภาคที่ 2 เผยสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังคงสงบ ความตึงเครียดส่วนใหญ่เป็นการเมืองภายใน ระบุไม่กระทบการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพ ภายหลังเป็นประธานในพิธีถวายพระพุทธรูป และประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดสว่างสุวรรณาราม จ.นครพนม พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดน ว่า ยังคงสงบ ไม่มีเหตุรุนแรงหรือการขยับกำลังทหารที่น่าเป็นห่วง ฝ่ายกัมพูชายังอยู่ในเขตแดนของตนไม่มีการรุกล้ำเข้ามาในเขตประเทศไทย ความตึงเครียดส่วนใหญ่เกิดจากสถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศไทยมากกว่า ซึ่งทางกองทัพจะยังคงมุ่งเน้นการรักษาอธิปไตยและความมั่นคงของประเทศ การเคลื่อนไหวทางการเมืองภายในประเทศ ไม่ส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพในการดูแลรักษาชายแดน ส่วนที่มีกลุ่มชาวกัมพูชาร้องเพลงที่ปราสาทตาควายนั้น กองทัพไทยได้ประสานกับทางการกัมพูชาเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก เหตุการณ์ดังกล่าวคาดว่าเป็นเรื่องการเมืองมากกว่า ไม่เกี่ยวกับความขัดแย้งทางทหารโดยตรง ส่วนข่าวความขัดแย้งระหว่างนายกรัฐมนตรีกับแม่ทัพนั้น เป็นเพียงความเข้าใจผิดและได้มีการชี้แจงและขอโทษกันแล้ว ไม่มีผลกระทบต่อการทำงานของกองทัพแต่อย่างใด.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลสั่งไปรษณีย์ไทย ช่วยชาวสวนกระจายผลไม้กว่า 3 พันตัน

ทำเนียบ 21 มิ.ย.-รัฐบาลสั่งไปรษณีย์ไทย ช่วยชาวสวนกระจายผลไม้กว่า 3 พันตัน ส่งฟรีทั่วประเทศ ลดต้นทุน แก้ปัญหาผลไม้ตกค้างจากสถานการณ์ชายแดน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายใน ดำเนินมาตรการเชิงรุกเพื่อบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดน โดยเฉพาะกรณีประเทศกัมพูชาชะลอการนำเข้าผลไม้จากไทย ซึ่งอาจส่งผลต่อราคาตกต่ำและผลผลิตตกค้าง รัฐบาลได้ร่วมมือกับบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด นำระบบขนส่งที่มีประสิทธิภาพและครอบคลุมทั่วประเทศ เข้ามาช่วยเหลือเกษตรกรในการขนส่งผลไม้ โดยไม่คิดค่าจัดส่งทั่วประเทศ นายอนุกูล กล่าวต่อว่า มาตรการดังกล่าวมีเป้าหมายหลักเพื่อช่วยกระจายผลผลิตผลไม้สำคัญของไทย เช่น ทุเรียน มังคุด ลำไย ลองกอง เงาะ และมะม่วง ให้ได้ไม่น้อยกว่า 3,000 ตัน ผ่านช่องทางจำหน่ายออนไลน์ ซึ่งได้รับความนิยมมากขึ้นในยุคดิจิทัล โดยเกษตรกรสามารถจำหน่ายผลไม้ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และเข้าถึงผู้บริโภคโดยตรง ทั้งนี้ กรมการค้าภายในยังได้จัดเตรียมบรรจุภัณฑ์เพื่อสนับสนุนการจัดส่ง โดยจัดทำกล่อง DIT ขนาด 10 กิโลกรัม จำนวน 188,000 กล่อง และตะกร้าขนาด 5 กิโลกรัม […]

ไทยฝนเพิ่มขึ้น ตกหนักมากภาคอีสาน

กทม. 21 มิ.ย.-กรมอุตุฯ รายงานไทยฝนเพิ่มขึ้น ฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ตะวันออก และใต้ โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคอีสาน ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 60% ของพื้นที่ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ทั้งนี้เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06.00 น. วันนี้ ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้ ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา […]