สตช.สนองนโยบายนายกฯ ออกมาตรการเข้มก่อนปีใหม่ระดมกวาดล้างอาชญากรรมทั่วประเทศ

กรุงเทพฯ 20 ธ.ค.- สำนักงานตำรวจแห่งชาติสนองนโยบายนายกฯ ออกมาตรการเข้มสั่งระดมทั่วประเทศกวาดล้างคดีอาชญกรรมทุกรูปแบบและออกหาข่าวความเคลื่อนไหวต่างๆ ก่อนเทศกาลปีใหม่ เน้นย้ำให้เอาจริงกับผู้ฝ่าฝืนกฎหมายจราจรป้องกันอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้น 


พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. กล่าวว่า ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กำชับการรักษาความปลอดภัยช่วงเทศกาลวันคริสต์มาสไปจนถึงปีใหม่ โดนเน้นการอำนวยความสะดวกประชาชน ด้านการดูแลความปลอดภัยและการอำนวยความสะดวกด้านจราจร ประกอบกับการเฝ้าระวังสถานการณ์ต่างๆ ในช่วงปีใหม่อย่างใกล้ชิดนั้น พล.ต.อ.จักรทิพย์  ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับ สั่งการ เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกภาคส่วนให้ขับเคลื่อน ในการเพิ่มมาตรการดังกล่าว อย่างเป็นรูปธรรมเพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชนชน นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางในช่วงเทศกาลวันหยุดยาว ดังต่อไปนี้

 มาตรการด้านการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ได้สั่งการมีการระดมกวาดล้างอาชญากรรมทั่วประเทศ ระหว่าง 24 ธ.ค. 2561 – 2 ม.ค. 2562 โดยเน้นการป้องกันและปราบปรามคดีประทุษร้ายต่อทรัพย์ในสถานที่สำคัญ เช่น สถานีขนส่ง ที่พักผู้โดยสาร แหล่งท่องเที่ยว พร้อมตรวจสอบบุคคลตามหมายจับค้างเก่า บุคคลเฝ้าระวัง บุคคลพ้นโทษ , สืบสวนหาข่าวและข้อมูลเชิงลึกเพื่อปิดล้อมตรวจค้นสิ่งของอาวุธต่างๆ ที่จะใช้ในการก่อเหตุ เพิ่มความเข้มในการตั้งจุดตรวจจุดสกัด  ด่านตรวจบุคคลและยานพาหนะ เพื่อตรวจค้นอาวุธปืน อาวุธสงคราม ยาเสพติด และ สิ่งของผิดกฎหมาย , ขอความร่วมมือสถานบริการและสถานบันเทิงต่าง ๆ ให้ปฏิบัติตามคำสั่ง คสช. การเปิด – ปิดให้ตรงเวลา การขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การปล่อยปะละเลยให้เด็กต่ำกว่า 20 ปีเข้าใช้บริการ รวมไปถึงการลักลอบค้าบริการทางเพศและการลักลอบเล่นการพนัน พร้อมทั้งกวดขันจับกุมการเล่นดอกไม้เพลิง พลุประทัด และการปล่อยโคมลอย , จัดทำโครงการประชารัฐร่วมใจดูแลความปลอดภัยบ้านประชาชนช่วงเทศกาลสำคัญ ระหว่าง 24 ธ.ค. 2561 – 2 ม.ค. 2562 ระยะเวลา 10 วัน , ให้ บช.ปส.จัดกำลังสนับสนุนการปฏิบัติของตำรวจท้องที่ สุ่มตรวจมิให้มีการใช้ยาเสพติดชนิดต่างๆ ในสถานบันเทิง ,  สตม. ตรวจคัดกรองการเข้ามาในและออกไปนอกราชอาณาจักรโดยละเอียด โดยเฉพาะ กลุ่มบุคคลที่ต้องเฝ้าระวัง บุคคลต้องห้าม บุคคลที่มีหมายจับ และ การร่วมมือกับภาคประชาชนในการป้องกันเหตุโดยใช้หมายเลขโทรศัพท์ 191 เป็นช่องทางหลักในการรับแจ้งเหตุ รวมทั้งข้อมูลการจราจรการนำผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุหรือเหตุอื่นๆ เข้ารับการรักษาพยาบาล และ ใช้แอพพลิเคชั่น Police I Lert Uเป็นช่องทางสื่อสารสองทางกับประชาชนอีกทางหนึ่ง


มาตรการป้องกันเหตุการณ์การก่อความไม่สงบในพื้นที่ โดยเพิ่มความเข้มในการตรวจรักษาความปลอดภัยสถานที่ที่มีการจัดงานเคาท์ดาวน์ สถานที่ราชการ สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยม และสถานที่สำคัญต่างๆ จัดชุดปฏิบัติการทางยุทธวิธี โดยเฉพาะชุดเคลื่อนที่เร็ว ชุดปฏิบัติการพิเศษ ชุดเก็บกู้และตรวจสอบวัตถุระเบิด ชุดตรวจพิสูจน์ที่เกิดเหตุ ชุดตรวจบันทึกภาพ สนับสนุนการปฏิบัติได้โดยเร็วที่สุดเมื่อเกิดเหตุ , ให้ สันติบาล สนับสนุนด้านการข่าวด้านต่างๆ , สตม. กำชับเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองทุกแห่ง เพิ่มความเข้มในการตรวจสอบเอกสารการเดินทางด้วยความละเอียดรอบคอบ

มาตรการบังคับใช้กฎหมายและอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ในการบริหารจัดระเบียบการจราจร เส้นทางหลัก เส้นทางรอง จุดบริการประชาชน บริเวณที่จัดงานเคาท์ดาวน์ , เร่งการระบายรถ อำนวยความสะดวกด้านการจราจรการเดินทางของประชาชนในการกลับภูมิลำเนาและกลับ กทม. , เตรียมความพร้อมของรถยก รถกู้ภัย เพื่อช่วยเหลือกรณีเกิดเหตุและเปิดเส้นทางการจราจรโดยเร็ว , จัดให้มีการตรวจวัดแอลกอฮอล์กับผู้ขับขี่รถ กวดขันจับกุมตามมาตรการบังคับใช้กฎหมาย 10 ข้อหาหลัก ขับรถเร็ว , ฝ่าฝืนสัญญาณจราจร , ย้อนศร , ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ,ไม่มีใบขับขี่ , แซงในที่คับขัน , เมาแล้วขับ , ไม่สวมหมวกนิรภัย , มอเตอร์ไซค์ไม่ปลอดภัย , ใช้มือถือขณะขับขี่รถ และ การออกข้อบังคับเจ้าพนักงานจราจร ทั่วราชอาณาจักรว่าด้วยการกำหนดช่องแนวทางเดินรถขึ้นและล่องในถนนบางสายและห้ามรถบรรทุก 10 ล้อขึ้นไปเดินในถนนบางสาย , ตรวจสอบรถบัส รถตู้โดยสารสาธารณะ จะต้องได้รับอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบก มีป้าย มีการเสียภาษี มีเส้นทางการวิ่งที่ชัดเจน วิ่งในความเร็วที่กำหนด โดยพนักงานขับรถต้องได้รับอนุญาต มีการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ มีจำนวนพนักงานที่เพียงพอ พักผ่อนเพียงพอ ไม่ขับรถขณะเหนื่อยล้า

รอง โฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์  ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้มีความเป็นห่วงเป็นในพี่น้องประชาชนในช่วงเทศกาลวันหยุดยาว ปีใหม่ 2562 จึงได้กำชับให้กองบัญชาการทุกภาคส่วน เพิ่มความเข้มในการรักษาความปลอดภัยชีวิตและทรัพย์สิน รักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ และอำนวยความสะดวกการจราจรแก่พี่น้องประชาชนอย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้พักผ่อนในช่วงวันหยุดยาวได้อย่างมีความสุขและเดินทางด้วยความปลอดภัย  


 ทั้งนี้ จึงขอประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนและนักท่องเที่ยว ให้ร่วมมือในการป้องกันอาชญากรรม หรืออันตรายที่อาจเกิดขึ้นในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ 2562  โดยห้ามเล่นดอกไม้เพลิง พลุ ประทัด และโคมลอยในลักษณะที่จะสร้างความหวาดกลัวและก่อความเดือดร้อนรำคาญ หรือเป็นอันตรายแก่ผู้อื่น , การยิงปืนขึ้นฟ้าโดยไม่มีเหตุอันควร , การแต่งกายไม่ควรประดับของมีค่าหรือนำทรัพย์สินสินติดตัวไปจำนวนมากเพื่อป้องกันมิให้มิจฉาชีพที่ฉวยโอกาสก่อเหตุประทุษร้ายต่อทรัพย์ , ผู้ปกครองควรกำชับบุตรหลานให้ระมัดระวังเพื่อมิให้ถูกลอกหลวงไปในทางมิชอบ หรือประพฤติตนไม่สมควร  รวมถึงไม่ควรปล่อยให้เด็กไปเที่ยวงานโดยลำพัง รวมไปถึง ผู้ปกครองที่จะนำบุตรหลานออกมาเที่ยวในช่วงวันหยุดให้เขียนชื่อที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้ไว้ในกระเป๋า เพื่อสะดวกในการติดตามกรณีเกิดการพลัดหลง และ ขอความร่วมมือให้ปฏิบัติกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะ เมาไม่ขับ ไม่ใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับขี่รถ การสวมหมวกนิรภัย การคาดเข็มขัดนิรภัยและไม่ขับรถเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ ข่าว สส.ดังนครศรีฯ ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา

กทม. 30 พ.ค.-“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ-ไม่รู้ ข่าว สส.ดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมากลางงานบวช ยืนยันไม่เป็นความจริง นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าว สส.ชื่อดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา กลางงานบวชลูกชายของนายก อบต. ต่อหน้าชาวบ้านนับร้อยคน โดยนายชัยชนะ ได้ปฏิเสธข่าวบอก ไม่รู้ ไม่ทราบข่าว พร้อมบอกผู้สื่อข่าวว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อถามว่า เป็นคนรู้จัก หรือคนใกล้ชิดหรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนไม่ทราบเหมือนกัน เพราะตอนนี้ยังไม่ทราบข่าวเลย ก่อนย้ำอีกครั้งว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ตอบว่า “ครับผม” เมื่อถามว่า ไม่ได้เข้าไปในพื้นที่เลยใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนลงพื้นที่วันละหลายงาน และเมื่อถามทิ้งท้ายว่า ไม่มีเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ยืนยันว่า “ไม่มี“.-315.-สำนักข่าวไทย

รวบพระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกดับ

นครราชสีมา 30 พ.ค. – รวบแล้ว พระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกเสียชีวิต และล่วงละเมิดลูกเลี้ยงผู้หญิงคนเล็กอายุ 11 ขวบ เจ้าตัวยังปากแข็ง แต่จำนนด้วยหลักฐาน ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา บุกรวบตัว นายกิติทัช อายุ 48 ปี พระเอกลิเก “ลักยิ้มทับทิมสยาม” ได้คาบ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งแต่เมื่อคืนนี้ โดยขณะนี้คุมตัวอยู่ในห้องขัง สภ.เมืองนครราชสีมา ขณะจับกุมตัวผู้ต้องหากำลังเตรียมหลบหนีไปประเทศกัมพูชา เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา” และ “ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี” ขณะนี้กำลังเค้นสอบปากคำ เนื่องจากผู้ต้องหายังปากแข็ง แต่จำนวนด้วยหลักฐาน ก่อนเตรียมนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ คาดว่าเป็นช่วงบ่ายวันนี้ คดีนี้สืบเนื่องจาก น.ส.หมิว อายุ 46 ปี นางเอกลิเก พาลูกสาวอายุ 11 ปี เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี หลังลูกชายคนโต อายุ 18 ปี ซึ่งป่วยออทิสติก […]

“สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 หมอ คดีชั้น 14

สธ. 29 พ.ค. – “สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เผย “สมศักดิ์” สภานายกพิเศษ ส่งคำตอบให้มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 แพทย์ กรณีชั้น 14 รพ.ตำรวจเมื่อวานนี้ ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ให้ใช้คำว่าเห็นด้วย-ไม่เห็นด้วย นายกองตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการเสนอความเห็นสภานายกพิเศษเพื่อพิจารณาตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ได้ยื่นรายงานความเห็นจากคณะกรรมการฯ ต่อมติแพทยสภาให้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ แพทยสภา เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อวานนี้ (28 พ.ค.) สภานายกพิเศษฯ ได้ทำหนังสือตอบกลับไปยังแพทยสภาแล้ว เมื่อเวลา 16.00 น. โดยที่ตนเองก็ยังไม่ทราบว่า มีเนื้อหาบ้าง แต่ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ขอให้ใช้คำว่ามีส่วนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เบื้องต้นเป็นความส่งความเห็นกลับต่อมติของแพทยสภา ซึ่งมีการพิจารณาเรื่องร้องเรียนแพทย์จำนวน 4 […]

จับแล้ว! “สามีภรรยา” คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง

29 พ.ค.- จับแล้ว! สองสามีภรรยา คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง มือคุมบัญชีประมูลร้านค้างานประจำปี – ร้านค้าสวัสดิการ หลังศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับ วันนี้ ( 29 พ.ค.68) เวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปปป. สนธิกำลังร่วมเจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุม สองสามีภรรยา คนสนิทนายแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง หลังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับ ในความผิดฐาน ข้อหาฟอกเงิน และ เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่ซื้อหรือการรักษาทรัพย์ แต่กลับเบียดบังหรือทุจริตทรัพย์นั้นมาเป็นของตน, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบและเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” โดยสามารถจับกุมตัวทั้งสองได้ภายในค่ายลูกเสือพระพุทธศาสนา มูลนิธิหลวงพ่อวัดไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย มาสอบปากคำยัง กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ขณะเดียวมีรายงานว่า นอกเหนือจากผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้ พนักงานสอบสวนยังได้ขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับอดีตพระลูกวัดคนสนิท ทิดแย้ม ซึ่งถูกจับกุมก่อนหน้านี้ และถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดย พนักงานสอบสวน เตรียมประสานไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ […]

ข่าวแนะนำ

ภูมิต้านภัย : จับตาทุจริตงบซ่อม ฮ.ตำรวจ

กรุงเทพฯ 31 พ.ค. – คอลัมน์ “ภูมิต้านภัย” ตรวจสอบหาสาเหตุเฮลิคอปเตอร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตก 2 เหตุการณ์ในรอบ 1 เดือน หลังถูกตั้งข้อสังเกตถึงการนำ ฮ.ที่เสีย มาตั้งงบซ่อมแบบไม่ได้มาตรฐาน ทำให้นักบินต้องเสี่ยงชีวิตทุกครั้งที่ยก ฮ.ขึ้นน่านฟ้า. – สำนักข่าวไทย

นายกฯ บอกวันนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยน ลั่นปรับ ครม. อะไรก็เกิดขึ้นได้

รัฐสภา 31 พ.ค.-นายกฯ บอกวันนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยน ลั่นปรับ ครม. อะไรก็เกิดขึ้นได้ ส่วนโยกกระทรวงให้ถาม “ทักษิณ” คนพูด ปมดึง มท. มาดูเอง ย้ำครอบงำไม่ได้ แต่พ่อให้คำปรึกษา ลูกรับไว้พิจารณา เผยยกหูหากลางห้องประชุมแล้ว นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรีหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ว่า วันนี้ยังเหมือนเดิมไม่มีอะไร ถ้าจะมีการปรับเปลี่ยนอะไร หากเป็นรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยเดี๋ยวตนจะคุยเอง เห็นเป็นกระแสข่าวออกไปหลายอย่างมาก ทำให้รัฐมนตรีทุกคนรู้สึกหวั่นไหวและท้อใจ ซึ่งตนไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น ซึ่งตนพยายามสื่อสารในพรรคเพื่อไทยว่าอย่างไรเดี๋ยวจะคุยเอง ส่วนคำพูดของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำให้บั่นทอนจิตใจพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้น นายกฯ กล่าวว่า ไม่ เมื่อสักครู่ก็นั่งอยู่ข้างๆ กันไม่ได้มีอะไร ไม่มีใครถามถึงเรื่องนี้เลย เมื่อถามว่ากระทรวงมหาดไทยทำงานไม่ดีจริงหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นั่นเป็นความคิดเห็นของนายทักษิณ แต่ตนยังไม่ได้ประเมินอะไร เดี๋ยวก็รอดู ส่วนมีการพูดคุยกับนายทักษิณ หรือไม่ว่าเหตุใดจึงให้สัมภาษณ์ นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า คุยกันทุกวัน หากถ่ายรูปมา เมื่อสักครู่ได้ตนก็คุยโทรศัพท์กับคุณพ่อ ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่าตอนนี้ถูกมองว่าเป็นการครอบงำพรรคเพื่อไทย นายกรัฐมนตรี […]

สภาผ่านฉลุย รับหลักการงบฯ 69 นายกฯ เชื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทย

รัฐสภา 31 พ.ค.-สภาผ่านฉลุย รับหลักการงบฯ 69 วาระแรก เสียงท่วม 322 เสียง ตั้ง กมธ. 73 คน พบ “อนุดิษฐ์” โผล่เป็น กมธ.โควตารัฐบาล ด้านนายกฯ ขอบคุณสภาฯ ยันรัฐบาลจัดลำดับความสำคัญงบฯ ตามสถานการณ์ เชื่องบประมาณที่เสนอไปจะยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนคนไทยทุกคน ตั้งใจใช้เป็นเครื่องมือสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันสุดท้ายของการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 เป็นประธานการประชุม โดยหลังจากใช้เวลากว่า 3 วัน รวม 41 ชั่วโมง ที่ประชุมมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ด้วยคะแนน 322 ต่อ 158 เสียง ไม่ลงคะแนน 2 เสียง และตั้งคณะกรรมาธิการ จำนวน 73 คน ทั้งนี้ เป็นที่สังเกตว่า มีชื่อ […]

โฆษก ทบ. ยันสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ยังไม่ถึงขั้นต้องปิดด่าน

กองทัพบก 31 พ.ค.-โฆษก ทบ. ยืนยันสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังไม่ถึงขั้นต้องปิดด่าน แต่ยอมรับว่า แนวทางการปิดด่านเป็นแผนส่วนหนึ่งที่หน่วยงานระดับพื้นที่อาจพิจารณาใช้ เพื่อดูแลความมั่นคงและความปลอดภัยประชาชน พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ระบุถึงกรณีกระแสข่าวการพิจารณาปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชาบางจุดว่า ปกติจะเป็นส่วนหนึ่งของแผน สำหรับใช้ในการบริหารจัดการต่อสถานการณ์ ที่อาจส่งผลกระทบความมั่นคง และความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน ของหน่วยงานในระดับพื้นที่ปัจจุบัน ซึ่งในขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานแต่อย่างใด ที่ผ่านมา การปิดด่านจะดำเนินการต่อเมื่อมีความจำเป็นจริง โดยในอดีตจะดำเนินการเฉพาะต่อเมื่อสถานการณ์ในพื้นที่นั้นๆ มีปัญหาที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศในระดับที่น่ากังวลสูง โดยเฉพาะข่าวสารที่น่าเชื่อว่าจะมีการใช้อาวุธระยะไกล ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยต่อพี่น้องประชาชน สำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน หากพิจารณาในภาพรวม ส่วนใหญ่มีความเรียบร้อย มีเพียงบางจุดบางพื้นที่เท่านั้นที่อาจมีปัญหาอยู่บ้าง แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่ไม่ก่อให้เกิดความน่ากังวลมากนัก เนื่องจากทั้งสองฝ่ายได้อาศัยกลไกที่มีอยู่ในระดับพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกัน ภายใต้กรอบข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่ายได้ยึดถือกันอยู่อย่างเคร่งครัด.-313.-สำนักข่าวไทย