โตเกียว 23 มี.ค. – นักเคลื่อนไหวชาวเมียนมาในญี่ปุ่นเรียกร้องให้รัฐบาลญี่ปุ่นและประชาคมระหว่างประเทศใช้มาตรการที่เข้มข้นยิ่งขึ้นเพื่อหยุดการสังหารผู้ประท้วงในเมียนมา รวมถึงการใช้คำสั่งห้ามค้าอาวุธเพื่อกดดันรัฐบาลทหารเมียนมา
แม้ว่าชาติตะวันตกหลายประเทศได้ประกาศใช้มาตรการลงโทษที่เพิ่มขึ้นกับกลุ่มคนหรือบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องในเหตุรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ แต่กลุ่มนักเคลื่อนไหวชาวเมียนมาในญี่ปุ่นระบุว่าจำเป็นต้องเพิ่มแรงกดดันรัฐบาลทหารเมียนมามากกว่านี้ โดยเฉพาะแรงกดดันจากญี่ปุ่น จอ จอ โซ หนึ่งในกรรมการสมาคมพลเมืองแห่งสหภาพเมียนมาในญี่ปุ่นกล่าวว่า รัฐบาลญี่ปุ่นควรใช้อำนาจที่มีอยู่ เช่น อำนาจทางการทูต การค้า หรือการเมือง เพื่อเจรจาโดยตรงกับเหล่านายพลเมียนมาที่อยู่เบื้องหลังการปราบปรามผู้ชุมนุมอย่างรุนแรงจนทำให้มีผู้ประท้วงเสียชีวิตอย่างน้อย 261 คน ส่วนประชาคมระหว่างประเทศต้องใช้มาตรการที่เข้มข้นยิ่งขึ้นเพื่อหยุดการสังหารชาวเมียนมา โดยไม่ทำเพียงแค่การประกาศแถลงการณ์หรือแสดงความคิดเห็น ขณะที่หัวหน้าสมาคมโรฮิงญาแห่งเมียนมาในญี่ปุ่นกล่าวว่า รัฐบาลทหารไม่ควรได้รับการยอมรับไม่ว่าในรูปแบบใดก็ตาม และมาตรการลงโทษผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุรัฐประหารนั้นมีความรุนแรงน้อยมาก ทั้งที่จริงแล้ว คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติควรใช้คำสั่งห้ามค้าอาวุธกับเมียนมา เนื่องจากรัฐบาลทหารเมียนมาก็คือคนกลุ่มเดียวกันที่ออกคำสั่งฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวโรฮิงญาในปี 2560
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เจ้าหน้าที่ของญี่ปุ่นเผยว่า ญี่ปุ่นกำลังเฝ้าระวังสถานการณ์ในเมียนมานับตั้งแต่เกิดเหตุรัฐประหาร และจะพิจารณาใช้มาตรการตอบโต้การกระทำดังกล่าว ทั้งนี้ ญี่ปุ่นถือเป็นผู้บริจาคเงินช่วยเหลือรายใหญ่ของเมียนมา และมีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและธุรกิจที่แน่นแฟ้นกับเมียนมามาเป็นเวลานาน.-สำนักข่าวไทย