เปิดแฟ้มคดีผู้บริโภค ปี 61 ‘26 คดี-มูลค่ากว่า 111 ล้าน’

อนุสาวรีย์ชัยฯ 18 ธ.ค.-มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เผยตั้งแต่ปี 48 ถึงปัจจุบันทำคดีช่วยเหลือผู้บริโภค 577คดี  มากสุดคือคดีผู้ประสบอุบัติเหตุจากรถสาธารณะ ส่วนปี 61 มี 26 คดี คิดเป็นมูลค่ากว่า 111 ล้านบาท พร้อมเรียกร้องพรรคการเมืองออกกฎหมายสภาองค์กรผู้บริโภคแห่งชาติและปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมให้สามารถป้องกันปัญหาผู้บริโภคได้


ผู้บริโภคในคดีสำคัญหลายคดี ร่วมกับมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค แถลงผลการดำเนินการช่วยเหลือด้านคดีของศูนย์ทนายความเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคมูนิธิเพื่อผู้บริโภค  ตั้งแต่ปี 2548 จนถึงเดือนพฤศจิกายน 2561 ได้ให้ความช่วยเหลือดำเนินคดีจำนวน 577 คดี โดยเป็นคดีช่วยเหลือผู้ที่ประสบอุบัติเหตุจากการใช้บริการรถโดยสารสาธารณะมากที่สุดจำนวน 207 คดี คดีผู้บริโภคเกี่ยวกับนิติกรรมสัญญาต่างๆจำนวน 181 คดี  คดีผู้บริโภคเกี่ยวกับธุรกิจประกันจำนวน 61 คดี และคดีปกครอง คดีแบบกลุ่มคดีอาญา คดีละเมิดทั่วไปอีกรวม 128 คดี


โดยปี 2561ให้ความช่วยเหลือด้านคดี จำนวน 26 คดี ซึ่งมีคำพิพากษาศาลชั้นต้นแล้วจำนวน 17 คดี รวมเป็นมูลค่าความช่วยเหลือทั้งสิ้น 111,155,797 บาท แบ่งเป็นมูลค่าการเยียวยา จำนวน 23 ล้านบาท และกรณีผู้บริโภคถูกฟ้องคดีแล้วไม่ต้องจ่ายเงินจำนวน87ล้านบาท โดยมี1คดี ที่ศาลไม่อนุญาตให้ฎีกา  


นายเฉลิมพงษ์ กลับดี หัวหน้าศูนย์ทนายความเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า จากทั้งหมด 26 คดี  ส่วนใหญ่เป็นคดีได้รับความสนใจจากประชาชน โดยคดีผู้บริโภคฟ้องผู้ประกอบการ เช่น คดี แคลิฟอร์เนีย ว้าว ฟิตเนส ,คดีรถยนต์เซฟโรเลตชำรุดบกพร่อง ,คดีเรียกเงินคืนจากธนาคารไทยพาณิชย์, คดีรถตู้โดยสารจังหวัดจันทบุรี 

คดีผู้บริโภคถูกผู้ประกอบการฟ้องคดี เช่น คดีโรงพยาบาลวิภาวดีฟ้องเรียกเงินตามสัญญารับสภาพหนี้, คดีบริษัทเช่าซื้อรถยนต์ฟ้องเรียกเงินส่วนต่างจาการขายทอดตลาด ,คดีได้รับความเสียหายจากการบริการทางการ แพทย์, คดีบริษัทมาสด้าฟ้องเรียกค่าเสียหายเพื่อปิดปากผู้บริโภค

คดีสาธารณะ เช่น คดีซอยร่วมฤดี คดีประพฤติมิชอบในการแบ่งแยกทรัพย์ สินของ ปตท.ตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด , คดีกระทะโคเรียคิงส์ คดีเครื่องสำอางเพิร์ลลี่  คดีปัดเศษค่าโทรศัพท์วินาที (ทรู/ดีแทค/เอไอเอส) ,คดีอื่นๆ เช่น  คดีเสื้อยืดคายมาจิ คดีตุ๊กตุ๊ก  เป็นต้น 

โดยคดีที่ฟ้องแล้วผู้บริโภคชนะคดี เช่น กรณีอุบัติเหตุรถตู้โดยสาร จ.จันทบุรี เมื่อวันที่ 2ม.ค.2560 มีผู้เสียชีวิต 14ราย ซึ่งคดีนี้ผู้บริโภคได้รับการเยียวยาความเสียหายเชิงลงโทษและเยียวยาผู้เสียหายแล้วจากศาลจังหวัดจันทบุรี,คดีที่เกี่ยวข้องกับความรับผิดชอบต่อสินค้าไม่ปลอดภัย กรณีเครื่องดื่มระเบิดใส่ผู้บริโภค ซึ่งนอกจากผู้เสียหายได้รับค่าเสียหายเป็นจำนวนเงินแล้ว ยังมีการกำหนดสงวนสิทธิ์การรักษาพยาบาลในอนาคตถึง 5 ปี รวมถึงชนะคดีในกรณีผู้บริโภคถูกฟ้องเป็นจำเลยจากการใช้สิทธิ์ร้องเรียนของตนเอง เช่น คดีบริษัทมาสด้า เซลล์(ประเทศไทย)จำกัด ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากกลุ่มผู้ซื้อรถยนต์รุ่นมาสด้า2 จำนวน 29 คน เรียกค่าเสียหาย 84 ล้านบาท ซึ่งศาลมีคำพิพากษายกฟ้อง 

โดยเห็นว่าการออกมาเรียกร้องความรับผิดชอบกับทางบริษัทเป็นการปกป้องสิทธิตามสิทธิผู้บริโภคโดยสุจริตและให้ชดใช้ค่าทนายให้ผู้เสียหายเป็นเงิน 30,000บาท และคดีที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคถูกบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ฟ้องละเมิดลิขสิทธิ์ตัวการ์ตูนก็อตจิ ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยืนว่า เสื้อลายคายมาจิ เป็นลิขสิทธิ์ของมูลนิธิฯ และจัดทำขึ้นเพื่อรณรงค์เรื่องพลังงานในประเทศ ไม่ได้ทำเพื่อการค้า และคดีนี้ศาลฎีกาไม่อนุญาตให้ปตท.ฎีกา

นอกจากนี้ยังมีอีกหลายคดีที่ดำเนินการฟ้องร้องและคดีถึงทีสุดแล้ว  ยังไม่สามารถบังคับคดีได้ เช่น คดีฟ้อง กทม.ที่อนุญาต ให้มีการสร้างอาคารสูงผิดกฎหมายในซอยร่วมฤดี โดยมีคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดแล้ว แต่ยังไม่มีการดำเนินการรื้อถอนใดๆ , คดีที่มูลนิธิฯฟ้องหน่วยงานรัฐ บขส. และขสมก.ในคดีรถอุบัติเหตุจากโดยสารสาธารณะ มีผู้บาดเจ็บเสียชีวิตหลายกรณี เช่น กรณีรถตู้โดยสารไม่ประจำทางจากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดระยอง เกิดอุบัติเหตุชนรถพ่วง มีผู้เสียชีวิต ซึ่งแม้ว่ามีผลคำพิพากษาของศาลถึงที่สุดแแล้ว  ผู้บริโภคยังไม่ได้รับการชดเชยความเสียหาย จะต้องดำเนินการบังคับคดีไปยึดอายัดทรัพย์สินจึงจะได้รับเงินชดเชยความเสียหายตามคำพิพากษา ซึ่งเป็นภาระกับผู้บริโภคทั้งค่าใช้จ่ายและระยาเวลาที่จะต้องรอนานกว่าจะได้มาซึ่งความเป็นธรรม 

ด้าน น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า อยากเรียกร้องพรรคการเมืองทุกพรรคให้มีนโยบายสำคัญในการสนับสนุนองค์กรผู้บริโภคทั่วประเทศให้มีสภาผู้บริโภคแห่งชาติหรือสภาพลเมืองเพื่อให้ผู้บริโภคมีตัวแทนในการมีส่วนร่วมตัดสินใจรักษาผลประโยชน์ผู้บริโภคและมีคุณภาพชีวิตเพิ่มขึ้นในทุกระดับ 

นอกจากนี้ทุกพรรคการเมืองควรมีนโยบายที่เป็นรูปธรรมในการลดความเหลื่อมล้ำที่ชัดเจน เช่น เพิ่มงบบัตรทอง ปรับระบบบริการสุขภาพให้มีมาตรฐานเดียว สนับสนุนให้ประชาชนมีสวัสดิการขั้นพื้นฐานที่สำคัญ เช่น บำนาญผู้สูงอายุ บำนาญประชาชน เรียนฟรีทั้งในระบบและนอกระบบโดยผ่านการจัดลำดับการใช้งบประมาณแผ่นดินในปัจจุบัน .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ