ผลวิจัย ทีวีดิจิทัล 4 ช่อง โฆษณาเกินเวลา กม.กำหนด

กทม. 15 ม.ค.-มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ชี้ผลวิจัยทีวีดิจิทัล 4 ช่อง โฆษณาเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด เข้าข่ายเอาเปรียบผู้บริโภค จี้ กสทช.ตรวจสอบเวลาการโฆษณาทุกช่อง และออกคำสั่งให้ผู้ประกอบการแก้ไข เพื่อคุ้มครองสิทธิผู้บริโภค พร้อมชวนผู้บริโภคให้เฝ้าระวังโฆษณาเกินเวลา

จากกรณีศาลปกครองสูงสุดพิพากษากลับเป็นยกฟ้องปมช่อง 3 ขอเพิกถอนคำสั่งสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ที่ให้ระงับการโฆษณาเอาเปรียบผู้บริโภคช่วงปี 57 เนื่องจากโฆษณาเกินเวลากว่าที่กฎหมายกำหนดให้การออกอากาศรายการมีเวลาโฆษณาไม่เกินชั่วโมงละ 12 นาทีครึ่ง การกระทำของสถานีโทรทัศน์จึงเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคโดยอาศัยการใช้เครือข่ายหรือการโฆษณาที่มีลักษณะเป็นการค้ากำไรเกินควรก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญ ตามมาตรา 31 พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ 2553 และข้อ 5 (8) ของประกาศ กสทช. เรื่องการกระทำที่เป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ 2555 นั้น ผู้บริโภคตั้งข้อสังเกตว่า สถานีโทรทัศน์อื่นก็น่าจะมีปัญหาเรื่องของการโฆษณาเกินเวลากว่าที่กฎหมายกำหนดเช่นกัน เพราะปัจจุบันพบรายการขายสินค้าผ่านทีวีดิจิทัลเป็นจำนวนมาก


มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคได้ทำการวิจัย เรื่อง “งานศึกษาโฆษณาแฝงและการโฆษณาเกินเวลาทางช่องรายการโทรทัศน์ระบบดิจิทัล” (2564) เผยแพร่ในนิตยสารฉลาดซื้อ (อ่านได้ที่ : https://www.chaladsue.com/article/3873) พบว่า มีโทรทัศน์ระบบดิจิทัล 4 ช่องที่โฆษณาเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด เมื่อทำการศึกษาโฆษณาที่ปรากฏทางช่องรายการโทรทัศน์ระบบดิจิทัลที่ออกอากาศตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม – 30 เมษายน 2564 คัดเลือกกลุ่มตัวอย่างจำนวน 34 กลุ่มตัวอย่าง โดยการนับเวลารายการ 1 ชั่วโมง หรือ 60 นาที จะเริ่มนับตั้งแต่ต้นชั่วโมง เช่น 00.01-01.00 น. ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวอาจมี 1 รายการหรือมากกว่า 1 รายการก็ได้ แต่จะนับเป็น 1 กลุ่มตัวอย่าง ผลการวิจัย พบว่า ค่าเฉลี่ยโดยรวมของเนื้อหารายการในกรณีหักลบโฆษณา คือ 52 นาที 36 วินาที ซึ่งไม่เกินเกณฑ์ที่ กสทช. กำหนด แต่เมื่อพิจารณารายกลุ่มตัวอย่างพบว่า กลุ่มตัวอย่างที่มีเนื้อหารายการน้อยกว่า 47 นาที 30 วินาที หรือมีโฆษณาต่อชั่วโมงมากกว่า 12 นาทีครึ่ง มีจำนวน 4 กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ กลุ่มตัวอย่างที่ 22 (วันทอง) 38 นาที 35 วินาที รองลงมาคือ กลุ่มตัวอย่างที่ 28 (ทุบโต๊ะข่าว + ซุปตาร์พาตะลุย) 44 นาที 14 วินาที, กลุ่มตัวอย่างที่ 31 (ฟ้าหินดินทราย + ข่าวภาคค่ำ) 46 นาที 45 วินาที และกลุ่มตัวอย่างที่ 15 (แฉ) 47 นาที ตามลำดับ

ขณะที่การสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคด้วยแบบสอบถามออนไลน์ จำนวน 350 ชุด เก็บข้อมูลตั้งแต่วันที่ 24 พฤษภาคม – 15 กรกฎาคม 2564 กับผู้ที่เปิดรับรายการโทรทัศน์ระบบดิจิทัล พบว่า ผู้บริโภคส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยต่อการมี “โฆษณาแฝง” และ “รายการแนะนำสินค้า” ในรายการโทรทัศน์ เนื่องจากเป็นการรบกวนการรับชมรายการโทรทัศน์ (3.13, 3.19 ตามลำดับ) มองว่ารายการที่นำเสนอข้อเท็จจริง เช่น รายการข่าว สาระความรู้ สารคดี ไม่ควรมีโฆษณาแฝงหรือรายการแนะนำสินค้า (3.25) และหากพบว่า “โฆษณา” และ “โฆษณาแฝง” ของสินค้าหรือบริการใดที่รบกวนการรับชม ผู้บริโภคจะไม่ซื้อหรือสนับสนุนสินค้าเหล่านั้นโดยเด็ดขาด (3.03, 3.07 ตามลำดับ)


ด้านนายเฉลิมพงษ์ กลับดี หัวหน้าศูนย์ทนายความเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า ปัจจุบันผู้บริโภคยังพบปัญหาเรื่องการโฆษณามากกว่าที่กฎหมายกำหนด กสทช.จึงต้องตรวจสอบและออกคำสั่งกับสถานีโทรทัศน์ทุกช่องให้เหมือนกันหมด ไม่เลือกปฏิบัติ หากพบว่ามีการโฆษณาเกินเวลาเช่นกัน เนื่องจากศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยเป็นแนวทางไว้แล้ว ออกคำสั่งชอบแล้วที่ให้โฆษณาไม่เกินเวลาที่กำหนดไว้ กสทช.ก็ควรจะปฏิบัติกับทุกช่องในประเทศไทยที่อยู่ภายใต้การกำกับของกสทช.ด้วย เป็นหน้าที่ในฐานะผู้ที่กำกับและดูแล

นางนฤมล เมฆบริสุทธิ์ รองผู้อำนวยการฝ่ายพิทักษ์สิทธิ์ผู้บริโภค มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า นอกจากสถานีโทรทัศน์ดังกล่าวแล้ว หากดูตามผลวิจัยของมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคแล้วยังมีช่องอื่นที่มีปัญหาการโฆษณาเกินเวลาที่กฎหมายกำหนดเช่นกัน โดยกฎหมายกำหนดให้การประกอบกิจการทางธุรกิจ ให้ดำเนินการหารายได้โดยการโฆษณา การบริการธุรกิจ การจัดเก็บค่าสมาชิก หรือวิธีอื่น ผู้ประกอบการต้องใช้เวลาในการโฆษณาตามที่กฎหมายกำหนดไว้ กรณีของช่อง 3 ที่มีผลการพิพากษาแล้วนั้น ถือว่าแนวการพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดเป็นที่สุดแล้ว จึงเป็นมาตรการที่ให้หน่วยงานที่กำกับและดูแลมีอำนาจหน้าที่ในการบังคับใช้กฎหมายอย่างชอบธรรม ที่สั่งให้ผู้ประกอบการแก้ไขปัญหาแล้วก็ปรับปรุงกิจการให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด และเป็นการเตือนผู้ประกอบการไม่ให้โฆษณาเกินเวลาหรือเอาเปรียบผู้บริโภคแบบนี้

มูลนิธิฯ ขอเสนอให้กสทช.ใช้มาตรการนี้ตรวจสอบผู้ประกอบธุรกิจโทรทัศน์ทุกช่อง รวมถึงทีวีดิจิทัลที่สมัครเป็นสมาชิก เช่น ทรูวิชั่น ให้มีมาตรการในการโฆษณาตามเวลาไม่เกินที่กฎหมายกำหนด ไม่เอาเปรียบผู้บริโภค ดังเช่นที่ออกคำสั่งกับช่อง 3 เพื่อให้ผู้ประกอบการแก้ไข และเป็นการคุ้มครองสิทธิผู้บริโภค ภาครัฐควรทำงานเชิงรุกในการเข้าไปจัดการปัญหาแทนผู้บริโภค โดยไม่ต้องมีการร้องเรียนจากผู้บริโภคก่อนและขอชวนผู้บริโภคให้เฝ้าระวังโฆษณาเกินเวลา หากเห็นว่าเกิดปัญหาจริงตามตัวอย่างคดี แจ้งเรื่องมาที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค โทรศัพท์ : 02-2483734-7 Line id : @ConsumerThai ช่องทาง inbox FB เพจ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค หรือร้องทุกข์ออนไลน์ที่ https://www.consumerthai.com/.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

จับหนุ่มอินเดียขนเงินกว่า 15 ล้านบาท เข้าไทย

หนุ่มอินเดียหอบเงินสด 15.7 ล้านบาท เดินเท้าจากปอยเปตเข้าไทย อ้างเล่นพนันได้ เจ้าหน้าที่เร่งขยายผล หวั่นพัวพันคอลเซ็นเตอร์

โฆษกรัฐบาล นำบุกร้านขายบุหรี่ไฟฟ้า แต่ไหวตัวทันไม่เจออะไร

โฆษกรัฐบาล นำ สคบ.-สธ. บุกร้านลอบขายบุหรี่ไฟฟ้าย่านสายไหม หลังได้รายงานลับ แต่ร้านไหวตัวทัน ปิดหนีหมดไม่เจออะไร เตรียมเสนอนายกฯ ตั้ง กก.ปราบจริงจัง เผยตัวเลขขายปีละ 5 พันล้าน อ้างเป็นสินค้าผ่านแดน แต่ปล่อยหลุดเข้าไทย

รวบหนุ่มจีนพร้อมสาวไทย เอี่ยวฟอกเงินหลอกลงทุนคริปโต

ตำรวจไซเบอร์รวบหนุ่มจีนพร้อมสาวไทย กินหรูอยู่สบาย เอี่ยวฟอกเงินขบวนการหลอกลงทุนคริปโต พบเกี่ยวพันอีก 28 คดี มูลค่าความเสียหายกว่า 30 ล้านบาท

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน