มูลนิธิเพื่อผู้บริโภควิตกเยาวชนจำนวนมากถูกหลอกลวงทำธุรกรรมการเงิน

21 ก.ค. – มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค แฉเหตุน่าวิตกเยาวชนอายุไม่เกิน 20 ปี จำนวนมากถูกหลอกลวงทำธุรกรรมการเงิน ส่วนด้านอสังหาริมทรัพย์ คดี ออล อินสไปร์ สร้างความเสียหายอย่างมหาศาล


มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เผยรวมเรื่องร้องเรียนช่วง 6 เดือนแรกของปี ภัยการเงินทางออนไลน์วิกฤตสุดเพราะเป็นเยาวชนอายุน้อยลงเรื่อย ๆ กว่าจะรู้ตัว ทำพ่อแม่เสี่ยงติดคุก วอนครอบครัวอย่าปล่อยเยาวชนทำธุรกรรมเพียงลำพัง นอกจากนี้ปัญหาคอนโดสร้างไม่เสร็จยังสุดช้ำ บริษัทเดิมโกงแล้วโกงอีก ด้วยนอมินีไม่ซ้ำหน้า วอนคนไทย ตัดสินใจซื้อเมื่อโครงการเสร็จ เพราะหากถูกโกงแล้ว ยากจะได้คืน

มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ในฐานะองค์กรสาธารณประโยชน์ ที่ทำงานคุ้มครองผู้บริโภคมานานกว่า 30 ปี พบว่าปัญหาที่เคยเกิดขึ้นยังคงเป็นเรื่องเดิมถึงแม้ได้รับการแก้ไขแต่ก็มีเหตุวนกลับมาอย่างไม่มีวันจบสิ้น โดยเฉพาะการถูกกลุ่มมิจฉาชีพหลอกลวงในหลากหลายรูปแบบ บางคนสูญเงินถึงขั้นหมดตัว หรือแม้แต่ปัญหาด้านสินค้าและบริการก็เช่นกัน ผู้บริโภคถูกเอารัดเอาเปรียบจากผู้ประกอบธุรกิจ ได้รับสินค้าชำรุดบกพร่อง-ไม่ตรงปก รวมถึงปัญหาด้านอสังหาริมทรัพย์ ที่ผู้ขายทิ้งงาน หรือเข้าข่ายมีเจตนาโกง


นางนฤมล เมฆบริสุทธิ์ รองผู้อำนวยการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ฝ่ายพิทักษ์สิทธิผู้บริโภค กล่าวว่า ภาพรวมการทำงานรับเรื่องร้องเรียนของมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคช่วง 6 เดือนแรกของปี 2566 มีประเด็นที่น่าวิตกอย่างมาก นั่นคือ เยาวชนอายุไม่เกิน 20 ปี จำนวนมากถูกหลอกลวงทำธุรกรรมด้านการเงิน ยกตัวอย่างจากที่ฝ่ายพิทักษ์สิทธิฯ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ได้รับเรื่องร้องเรียน เช่น นักศึกษาหญิงวัย 19 ปี ตกเป็นเหยื่อแก๊งมิจฉาชีพ หลอกลวงไปเปิดซิมโทรศัพท์มือถือถึง 3 ค่าย ด้วยความที่อยากทำงานหารายได้พิเศษ จึงเปิดเฟซบุ๊ก จนไปเจอ ข้อความ “เงินเดือนหลักหมื่น! เป็นลูกจ้างบูธขายมือถือในห้างฯ รับทั้งแบบประจำและฟรีแลนซ์ ต้องการจำนวนมาก อายุ 18 ปีขึ้นไป สนใจติดต่อทางข้อความ Messenger” เป็นเพจเฟซบุ๊กหางานที่ไม่บอกตัวตนคนโพสต์ แต่ผู้เสียหายไม่ทันฉุกคิด จึงทักไปถาม ขั้นตอนการสมัคร ทางแก๊งมิจฉาชีพจึงหลอกเหยื่อว่า จะพาไปลงทะเบียนซิมกับค่ายมือถือเพื่อยืนยันตัวตน ถึงจะพิจารณารับเป็นพนักงาน เมื่อไปถึงศูนย์บริการมือถือ เจ้าหน้าที่ขอแค่บัตรประชาชนเด็กนำไปเปิดซิมจนเสร็จสิ้นทั้ง 3 ค่าย ส่วนซิมกลายเป็นว่ามิจฉาชีพที่มาด้วยเก็บไว้เอง จากนั้นต่างคนต่างแยกย้าย โดยที่เด็กไม่รู้ตัวตนมิจฉาชีพรายนี้แม้แต่นิดเดียว มารู้ตัวว่าโดนหลอกเมื่อใบแจ้งหนี้ 3 ค่ายมือถือ รวมกว่า 20,000 บาทส่งถึงบ้าน เป็นยอดบิลที่เริ่มทำสัญญาเดือนเมษายน จนถึงเดือนมิถุนายน 2566 จากเหตุนี้ มีข้อสังเกตคือ มิจฉาชีพใช้วิธีวนหลอกเหยื่อให้เปิดซิมเพื่อเอามาใช้ฟรี พอครบ 3 เดือน ที่ไม่ได้จ่ายค่าบริการผู้ที่มีชื่อเปิดซิมจะถูกตัดสัญญาณอัตโนมัติ ส่วนยอดค่าใช้จ่ายจะตกเป็นของเด็กที่ตกเป็นเหยื่อ

อีกเหตุการณ์ที่เกิดกับนักศึกษาหญิงวัย 17 ปี รายหนึ่ง ได้รับการชักชวน จาก UP LINE ของบริษัทขายตรงมีการชี้ชวนขายฝัน จะได้เม็ดเงินมหาศาลจากงานนี้ ด้วยความที่อยากหารายได้จึงสมัครสมาชิก แต่สินค้าที่ถูกชักนำให้ขายมีราคาหลักหมื่น จึงไปกู้เงินจำนวน 15,000 บาท จากเพื่อนๆ ถึง 40 คน ที่ร่วมกันลงขันซึ่งคิดดอกเบี้ยถึงร้อยละ 10 แต่สุดท้ายขายสินค้าไม่ได้ ทำให้ติดหนี้เพื่อน จนคุณพ่อมารู้ภายหลังเพราะได้รับโทรศัพท์จากเจ้าหนี้ จึงต้องเร่งไปปิดหนี้พบว่ายอดรวมเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นเงินกว่า 40,000 บาท แต่ที่ตกใจยิ่งกว่า เมื่อลูกสาวยอมรับว่า ถูกเพื่อนชวนให้เล่นพนันออนไลน์ให้เอาเงินมาจ่ายหนี้ เจอเว็บพนันกินเงินอีก 10,000 บาท สรุปงานนี้ลูกสาวเจอค่าวิชาชีวิตจากธุรกิจขายตรง รวมเบ็ดเสร็จ 50,000 บาท ยังดีที่พ่อตัดวงจรความเสียหายได้ทัน พร้อมเรียกร้องให้บริษัทขายตรงรายนั้นอย่าเอาเด็กเป็นเครื่องมือทำธุรกิจ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นถือเป็นกระทำการเกินกฎหมายกำหนด ที่ห้ามเยาวชนอายุไม่เกิน 20 ปี ซื้อสินค้าราคาแพงด้วยเงินผ่อนโดยที่พ่อ-แม่-ผู้ปกครองไม่อนุญาต แต่อีกฝ่ายกลับตอบมาว่าไม่ใช่หน้าที่ต้องมาดูแล มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ได้รับการร้องเรียนเรื่องนี้จากคุณพ่อของผู้เสียหายที่เป็นทนายความ เพื่อให้ช่วยเป็นกระบอกเสียงเตือนภัย เพราะการไปยื่นฟ้องกับบริษัทขายตรงจะจบความเสียหายที่แค่ 1 คน แต่เพราะเหตุการณ์แบบนี้ได้รับรู้ข้อมูลมาว่า มีเยาวชนติดกับดักธุรกิจขายตรงที่หลอกขายฝัน จนบางคนต้องไปกู้หนี้ยืมสิน เล่นการพนัน ที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้นคือบางคนถึงขั้นยอมขายตัว

จากปัญหาภัยการเงินที่เกิดกับเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค จึงมีข้อเสนอให้ กสทช. ต้องกำกับดูแลให้โอเปอเรเตอร์ต้องควบคุมการซื้อซิมและโทรศัพท์ของเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ส่วน สคบ.ควรมีมาตรการตรวจสอบ และให้ผู้ประกอบธุรกิจขายตรงมีจรรยาบรรณในการทำธุรกิจ โดยไม่ทำธุรกิจกับเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี


นายธนัช ธรรมิสกุล หัวหน้าฝ่ายพิทักษ์สิทธิผู้บริโภค มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า ส่วนข้อร้องเรียนด้านอสังหาริมทรัพย์คดีออล อินสไปร์ ถือว่าสร้างผลกระทบต่อผู้บริโภคเพราะสร้างความเสียหายอย่างมหาศาล เหตุการณ์นี้มีผู้เสียหายหลายร้อยคน ที่ซื้อคอนโดมิเนียมจาก 5 โครงการทั่วกรุงเทพฯ ที่ก่อสร้างโดย บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นข่าวเกรียวกราวเมื่อกลางปี 2565 ที่ผู้บริโภคพากันโพสต์แฉ “คอนโดฯ 4 ปี มีแต่โครง จ่ายเงินไปแล้วแต่สร้างไม่เสร็จ” มีผู้เสียหายมาร้องเรียนกับมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ถึงแม้ทำหนังสือแจ้งอีกฝ่ายมาเจรจากลับได้แต่ความเพิกเฉย และแม้ว่ามีมาตรการกดดันบุกไปถึงบริษัท ก็ได้แค่รับปากยอมทำสัญญาจ่ายหนี้เป็นรายเดือน ตั้งแต่ 1-12 เดือน สูงสุด 12 เดือน ตามเงื่อนไขของแต่คน แต่สุดท้ายจ่ายแค่งวดเดียว จากนั้นย้ายสำนักงานใหญ่หนี โดยไม่ยอมแจ้งให้เจ้าหนี้รับรู้ ที่สำคัญยังขายโครงการที่ลาซาลได้เงินไปเกือบ 500 ล้านบาท แต่กลับไม่ยอมชำระหนี้ จนสุดท้ายผู้เสียหาย จำนวน 32 ราย มูลค่าเสียหายรวมกว่า 11 ล้านบาท จึงพากันยื่นฟ้องต่อศาลเมื่อวันที่ 20 ก.ค.66 ที่ผ่านมา เพื่อเรียกเงินคืนทั้งหมด พร้อมดอกเบี้ยและเชิงลงโทษ ทั้งนี้ จากประมาณการความเสียหายในภาพรวมของ 5 โครงการคอนโดมิเนียม ออล อินสไปร์ เกือบพันล้านบาท เพราะมีผู้เสียหายมาร้องเรียนที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กว่า 100 คน นอกจากผู้เสียหาย 32 ราย ที่ฟ้องศาลลอตแรกยังมีผู้เสียหายลอต 2 ที่เตรียมยื่นฟ้องศาล ซึ่งมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคอยู่ระหว่างดำเนินการ ล่าสุดยังได้รับการประสานจากชาวจีนที่เป็นผู้เสียหายจากคอนโดฯ ออล อินสไปร์ มาร้องขอความช่วยเหลือ สำหรับผู้เสียหายจากโครงการ ออล อินสไปร์ สามารถเข้ามาร้องเรียนเพิ่มเติมได้

จากเหตุนี้มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค จึงขอเรียกร้องไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบ ต้องบังคับให้บริษัทธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มีระบบการทำสัญญาคุ้มครองผู้บริโภคตาม พ.ร.บ.การดูแลผลประโยชน์ของคู่สัญญา พ.ศ.2551 (Escrow Law) รวมถึงขอให้หน่วยงานที่รับผิดชอบ หรือหน่วยงาน, สมาคมฯ เป็นตัวแทนควบคุมดูแลธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค

ทั้งนี้ ตั้งแต่เดือนมกราคม ถึง มิถุนายน 2566 ฝ่ายพิทักษ์สิทธิฯ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ได้รับเรื่องร้องเรียน พบผู้บริโภคถูกเอาเปรียบ ไม่ได้รับความเป็นธรรม เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินต่อเนื่องรวม 894 เรื่อง เรื่องร้องเรียนสูงสุด 3 ลำดับแรกคือ 1.สินค้าและบริการทั่วไป 319 เรื่อง 2.การเงินการธนาคาร/ประกัน 135 เรื่อง 3.บริการขนส่งและยานพาหนะ 83 เรื่อง มูลนิธิฯ ได้ดำเนินการแล้วเสร็จ 744 เรื่อง และกำลังดำเนินการ 150 เรื่อง การเข้าช่วยเหลือมูลนิธิฯ ดำเนินการหลายรูปแบบ ทั้งประสานผู้จัดคอนเสิร์ต Mark Tuan เปิดระบบคืนเงินให้กลุ่มผู้ร้องเรียน เป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยให้บริษัทประกันชดเชยเงินเพิ่มให้ผู้เสียหายจาก 50,000 บาท เป็น 130,000 บาท เป็นอุบัติเหตุรถ และไกล่เกลี่ยให้ “บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)” ชดเชยค่าน้ำประปาให้ลูกบ้านจำนวน 13,000 บาท จากเหตุท่อประปาแตกเพราะปัญหาโครงสร้างบ้าน และไกล่เกลี่ยให้บริษัทเนอร์สเซอรี่ อิชิ นิ ซัน จำกัด คืนเงินให้ผู้รับการบริการ 89,000 บาท จากการจัดส่งพี่เลี้ยงที่ไม่ได้คุณภาพตามสัญญา รวมถึงการการฟ้องคดีให้ผู้เสียหายรวม 32 คน จากกรณีสร้างคอนโดไม่แล้วเสร็จในวันที่ 20 ก.ค. ที่ผ่านมา

ส่วนปัญหาอสังหาริมทรัพย์ มีสภาพไม่แตกต่างกัน ได้รับการร้องเรียน ทั้งปัญหาอาคารชุดที่ชำรุดบกพร่อง การสร้างก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่ผิดกฎหมาย ผู้รับเหมาก่อสร้างทิ้งงาน สร้างไม่เสร็จตามสัญญา นอกจากนี้ยังมีปัญหาด้านบริการสาธารณะและยานพาหนะ เช่น ผู้บริโภครถโดยสารสาธารณะประสบอุบัติเหตุไม่ได้รับการชดเชยเยียวยา

อย่างไรก็ตาม จากปัญหาผู้บริโภคหลากหลายด้าน ฝ่ายพิทักษ์สิทธิผู้บริโภค ซึ่งเป็นหน่วยงานภายในมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ได้ดำเนินการรับเรื่องร้องเรียนและการแก้ไขปัญหาของผู้บริโภคให้ได้รับการคุ้มครองสิทธิอันพึงมีพึงได้ของตนเอง ทำหน้าที่ให้ข้อมูล คำแนะนำ วิธีการ แนวทางในการแก้ไขปัญหา การให้ความช่วยเหลือสนับสนุนให้ผู้บริโภคที่มีปัญหาลักษณะเดียวกันรวมกลุ่มกันเพื่อเรียกร้องสิทธิ การเจรจาไกล่เกลี่ยกับผู้ประกอบการ และการสนับสนุนการฟ้องคดีของผู้บริโภค ตลอดจนการฟ้องคดีสาธารณะเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค ซึ่งผลการดำเนินงานใน 6 เดือนแรกของปี ได้รับเรื่องร้องเรียน 894 เรื่อง มูลนิธิฯ ได้ดำเนินการแล้วเสร็จ 744 เรื่อง ดำเนินการสำเร็จมากกว่าร้อยละ 83 นอกจากนี้ นางสาวณัฐวดี เต็งพานิชกุล นักกฎหมาย มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค รายงานต่อว่า นอกจากการทำงานดังกล่าว ในปี 2566 นี้ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคได้เริ่มทำงานในฐานะศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน ของกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม โดยได้ดำเนินการเจรจาไกล่เกลี่ยเรียกร้องค่าเสียหายให้กับผู้บริโภคที่จ่ายเงินค่าสมัครวิ่ง กรณีวิ่งเทรลเกาะช้าง โดยผู้บริโภคและผู้จัดงานวิ่งสามารถมีข้อตกลงร่วมกันได้

สำหรับผู้บริโภคที่ถูกละเมิดสิทธิ สามารถปรึกษาและร้องเรียนได้ที่ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค 4/2 ซอยวัฒนโยธิน แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร ติดต่อร้องทุกข์(ศูนย์พิทักษ์สิทธิ) โทร 02-248-3737, 089-788-9152 หรือ complaint@consumerthai.org

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

“เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง เชื่อ 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต หลังจากนี้จะใช้ชีวิตของตัวเองอุทิศให้ประชาชนและประเทศชาติ ชี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองว่าจะออกมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก สื่อมวลชนอาวุโส กล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และศาลด้วยที่ความเมตตากับตนเอง ที่ผ่านมาเราต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม สำหรับการตัดสินในวันนี้ทำให้รู้สึกโล่งใจ ดีใจทำให้เรารู้ว่าหลังจากนี้เราจะใช้ชีวิตของเราอย่างไรต่อ เพราะถือว่าเป็นคดีสุดท้าย 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต ต่อจากนี้เป็นต้นไปขอทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดชีวิตนี้จะอุทิศให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ พร้อมบอกว่าเป็นคดีสุดท้ายใน 20 ปี ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราใช้วิชาชีพของตัวเองใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองรับใช้พี่น้องประชาชน ถือว่าเป็น 20 ปี ที่คุ้มมาก พี่น้องประชาชนให้กำลังใจเราเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่ร่วมมือกับเราในการแสวงหาข้อมูล เรารู้สึกว่ามีคนรักเรามาก และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เรานำเสนอความจริง เมื่อถามว่าที่ผ่านรู้สึกอย่างไรได้มีเตรียมใจไว้หรือไม่ น.ส.อัญชะลี ระบุว่า ทุกอย่างเตรียมความพร้อม ทุกอย่างไม่ต้องแอบทำใจ หากเราสู้จนถึงที่สุดแล้วอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิด ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เคยช่วยเหลือทั้งในเรื่องเอกสาร หรืออื่นๆ ส่วนเหตุผลที่ศาลพิจารณายกฟ้องในคดีนี้ คือ ศาลเห็นว่าพยานให้การไม่ตรงกันในหลายประเด็นทั้งพยานวัตถุ […]

ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาคดีม็อบพันธมิตรบุกยึด NBT ปี51

ศาลอาญา 19 ก.ย. – วันนี้ที่ศาลอาญา รัชดา ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หรือคดีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ พธม. นำผู้ชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ในช่วงระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในเวลา 10:00 น. โดยคดีดังกล่าวมีจำเลย 4 คน ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นน้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ทั้งหมดถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ซ่องโจร บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากปรากฏหลักฐานว่า จำเลยทั้งห้าเป็นระดับหัวหน้าและผู้สั่งการให้กระทำความผิด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีจำเลยอีก 1 คน คือ นายสมเกียรติ […]

‘มาครง’ เตรียมเสนอหลักฐานยืนยัน ‘บริฌิตต์’ เป็นหญิงไม่ใช่ชาย

ปารีส 19 ก.ย. – ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และบริฌิตต์ ภริยา เตรียมเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อศาลสหรัฐเพื่อพิสูจน์ว่าบริฌิตต์เป็นผู้หญิงจริงๆ ไม่ใช่ผู้ชาย ทนายความของประธานาธิบดีมาครงและบริฌิตต์ บอกว่า ทั้งคู่จะยื่นเอกสารเหล่านี้ในคดีหมิ่นประมาทที่ทั้งสองได้ยื่นฟ้อง แคนแดซ โอเวนส์ อินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาชาวอเมริกัน ที่เผยแพร่ความเชื่อของตนผ่านทางสื่อและรายการพ็อคแคสต์ของตนเองว่าบริฌิตต์ เกิดมาเป็นผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอเสียใจและไม่สบายใจอย่างมากกับข้อกล่าวหาดังกล่าว และเรื่องนี้รบกวนจิตใจของประธานาธิบดีฝรั่งเศส แม้จะไม่ได้ทำให้มาครงสมาธิหลุดจากภารกิจหน้าที่ของเขาในฐานะผู้นำประเทศ แต่มันก็เป็นเรื่องรบกวนจิตใจของคนที่ต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องงาน ซึ่งตัวประธานาธิบดีก็ไม่มีข้อยกเว้น ในส่วนของการยื่นหลักฐานต่อศาลนั้น ทนายความของมาครงและภริยาบอกว่า ทั้งคู่พร้อมที่จะแสดงหลักฐานอย่างชัดเจนทั้งในภาพรวมและในรายละเอียด รวมถึงคำให้การจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นลักษณะทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นเท็จ แม้จะเป็นกระบวนการที่บริฌิตต์จะต้องเผชิญต่อหน้าสาธารณชนอย่างเปิดเผย แต่เธอก็ยินดีที่จะทำ เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้เรื่องนี้กระจ่าง สำหรับประเด็นเรื่องบริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ถูกเผยแพร่ครั้งแรกตามสื่อออนไลน์ของฝ่ายขวาและกลุ่มต่อต้านวัคซีนในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2021 ต่อมา แคนแดซ โอเวนส์ อดีตนักวิจารณ์ของเดลี่ไวร์ (Daily Wire) สำนักข่าวสายอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหลายล้านคน ได้เผยแพร่มุมมองของตนเองหลายครั้งว่า บริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ที่มีชื่อว่า ฌอง-มิเชล ทรอกโนซ์ (Jean-Michel Trogneux) ก่อนที่จะแปลงเพศในเวลาต่อมา ถึงขั้นอ้างว่าเธอพร้อมเดิมพันชื่อเสียงในอาชีพทั้งหมดของเธอกับข้อกล่าวหานี้ ส่งผลให้มาครงและภริยายื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ […]

ข่าวแนะนำ

“20 ชม.” แพทย์ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ ผ่าตัดต่อมือเด็กสำเร็จ

เชียงใหม่ 20 ก.ย.- ทีมแพทย์ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ ผ่าตัด 20 ชั่วโมง ต่อมือเด็กหญิงวัย 14 ปี ประสบความสำเร็จ หลังถูกฟันขาด เบื้องต้นยังต้องเฝ้าระวังใกล้ชิด เหตุการณ์ ขณะนายจายอ้ายหม่อง หรือ นายหม่อง อันธพาลเมียนมาและพวก ถือมีดสปาต้า วิ่งเข้าไล่ฟันกลุ่มผู้เสียหาย จนได้รับบาดเจ็บ 3 คน หนึ่งในนั้น คือ ด.ญ.อายุ 14 ปี ซึ่งยกแขนขึ้นบัง ทำให้ถูกนายหม่องฟันจนข้อมือขาด เหตุเกิดเมื่อกลางดึกของวันที่ 17 กันยายนที่ผ่านมา บริเวณร้านซักรีดแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.หนองป่าครั่ง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ต่อมาตำรวจตามจับคนก่อเหตุได้ทั้งหมด 15 ราย ล่าสุด รศ.นพ.นเรนทร์ โชติรสนิรมิต คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ออกแถลงการณ์ ระบุได้รับผู้ป่วยเด็กหญิงอายุ 14 ปี ซึ่งถูกทำร้ายด้วยอาวุธมีดจนมือขวาขาดระดับข้อมือ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 […]

“นายกฯ อนุทิน” ลงพื้นที่อ่างทอง ประกาศไม่ต้องลุ้น 4 เดือนยุบสภาแน่

อ่างทอง 20 ก.ย. – “นายกฯ อนุทิน” ลงพื้นที่อ่างทอง จังหวัดแรก ประกาศไม่ต้องลุ้น 4 เดือนยุบสภาแน่ ทำงานเต็มที่ หวังประชาชนเลือกกลับเข้ามาอีก พร้อมอวยพรวันเกิด “ภราดร” ครบ 46 ปี เจ้าตัวถึงกับคุกเข่ามอบมาลัยขอบคุณ “อนุทิน“ อ้อนชาวอ่างทอง อสม.แฟนเก่า ขอยืมตัว “ลูกแบด” ไปเป็น รมต. คุมสำนักงบฯ ตามติดตัว 24 ชั่วโมง บอกเก่งทุกเรื่อง ยกเว้นหาเมีย ขณะครอบครัว “ปริศนานันทกุล” ปลื้ม คนดังการเมืองตบเท้าแน่น “อนุทิน” ประกาศเชียร์คืนความเป็นธรรม อดีตผู้ว่าฯ อ่างทอง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ใช้โอกาสก่อนลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วม เดินทางมาที่ อบจ.อ่างทอง เพื่อพบปะกับประชาชน และร่วมอวยพรวันเกิดให้กับนายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อายุครบ 46 ปี ซึ่งมีครอบครัว ทั้งนายสมศักดิ์ […]

พิธีบวงสรวงอัญเชิญพระบรมราชานุสาวรีย์ ร.7 ประดิษฐานหน้าอาคารรัฐสภา

รัฐสภา 20 ก.ย.- รัฐสภา จัดพิธีบวงสรวงอัญเชิญพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (องค์ใหม่) ประดิษฐานหน้าอาคาร ขนาดใหญ่กว่าพระองค์จริง 4 เท่า เมื่อเวลา 08.00 น. รัฐสภา จัดพิธีบวงสรวงอัญเชิญพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (องค์ใหม่) เพื่อประดิษฐานบนแท่นฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ ณ บริเวณด้านหน้าอาคารรัฐสภา (ถนนสามเสน) โดยมีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่1 เป็นประธานในพิธี นอกจากนี้ยังมี พล.อ.สวัสดิ์ ทัศนา สว. นายชวนหลีก หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปปัตย์ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่านพรรคเพื่อไทย น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ สส.บัญชีรายชื่อพรรครวมไทยสร้างชาติ นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า และประธานกรรมการ บมจ.อสมท รวมถึงข้าราชการรัฐสภา ร่วมพิธีด้วย โดยนายไชยาและพล.อ.สวัสดิ์ ถวายพวงมาลัยและโปรยดอกไม้ที่พระบาทของพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ จากนั้นปักธูปที่เครื่องบวงสรางพร้อมโปรยดอกไม้ จากนั้นนายฉัตรชัย ปิ่นเงิน หัวหน้าโหรพราหมณ์ สำนักพระราชวัง อ่านโองการจากนั้นเชิญประธานในพิธีโปรยดอกไม้ที่โต๊ะเครื่องบวงสรวง วางพานประดับพุ่มดอกไม้ และจุด ธูป เทียน […]

อุตุฯ เตือน 9 จังหวัดรับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 20 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือน 9 จังหวัดรับมือฝนตกหนัก เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่งโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก พิษณุโลก เพชรบูรณ์ เลย ชัยภูมิ นครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันประเทศไทยและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุโซนร้อน “มิแทก” บริเวณทะเลมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันแล้ว คาดว่าจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำและสลายตัวอย่างรวดเร็ว ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางไว้ด้วย -สำนักข่าวไทย