ขอนแก่น 16 ธ.ค.-ตำรวจขอนแก่นเรียกหญิงวัย 70 ปี สาดขยะและโคลนใส่รถที่จอดอยู่ริมถนนกว่า 20 คัน มาสอบปากคำ เจ้าตัวยอมรับเป็นคนทำจริง เหตุเพราะไม่พอใจที่มาจอดรถบังที่ดินของตัวเอง 
กรณีชาวเน็ตแชร์ภาพพร้อมคลิปหญิงคนหนึ่ง อายุประมาณ 70 ปี สาดขยะและโคลนใส่รถที่จอดอยู่ริมถนนกว่า 20 คัน ล่าสุดตำรวจเรียกหญิงคนดังกล่าวมาให้ปากคำแล้ว เจ้าตัวยอมรับว่าเป็นคนทำจริง เหตุเพราะไม่พอใจที่มาจอดบังที่ดินของตัวเอง 
นี่เป็นคลิปจากกลุ่มเฟซบุ๊ก KKU GROUP ที่มีการแชร์ภาพรถยนต์หลายคันถูกสาดด้วยโคลน ขณะจอดอยู่ริมถนนในซอยอดุลยาราม ฝั่งชุมชนกังสดาล ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น พร้อมข้อความเตือนคนที่จะผ่านแถวนี้ให้ระวังมือดีมาก่อเหตุ พร้อมเรียกร้องให้คนที่ถูกทำในลักษณะนี้เข้าแจ้งความตำรวจ และเล่าว่า โดยปกติแล้วละแวกนี้จะมีรถจอด “ริมถนน” ซึ่งตรงนั้นเป็น “ที่รกร้าง” จอดกันมาหลายปี ทั้งของคนที่อยู่หอ คนที่มากินหมูกระทะ มาฟิตเนส แต่วันหนึ่งป้าเจ้าของที่ก็เอาป้ายมาวางไว้ว่า มีรถเข้าออก จากนั้นก็เอาล้อรถมาวางใส่รถทุกคันที่จอดบริเวณนั้น ต่อมาก็นำทั้งดินสอพองเขียนรถ นำโคลนมาสาดรถ เอาล้อมาวาง เอาขยะมาเทใส่รถ ใครไปแถวนั้นก็ระวังไว้ด้วย
ด้านตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น ไม่ได้นิ่งนอนใจ สืบหาข้อมูล ลงพื้นที่เกิดเหตุ สอบถามพยานแวดล้อมใกล้กับจุดที่เกิดเหตุ รวมทั้งบันทึกภาพจุดที่เกิดเหตุ ทำให้ทราบว่าหญิงที่หลายคนกล่าวหา คือ หญิงวัย 70 ปี เจ้าของที่ดินในจุดเกิดเหตุ จึงได้เชิญตัวมาสอบถามข้อเท็จจริง โดยหญิงวัย 67 ปี ยืนยันในความบริสุทธิ์ ไม่ยอมรับว่าก่อเหตุดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงทำเพียงลงบันทึกประจำวันที่ สภ.เมืองขอนแก่น ท่ามกลางอารมณ์ที่ฉุนเฉียว ห้ามคนไม่เกี่ยวข้องบันทึกภาพ หรือสอบถามรายละเอียดที่เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไปสงบสติอารมณ์ในห้องพนักงานสอบสวน โดยให้เจ้าทุกข์ที่มาแจ้งความรอที่ห้องสืบสวน เพื่อกันไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกัน
จากนั้นหญิงวัย 70 ปี ยอมลงลายมือชื่อในบันทึกประจำวัน เพื่อยืนยันว่าตนเองเป็นบุคคลตามภาพที่ปรากฏ และยอมรับว่าทำไปเพราะโมโหที่มีคนนำรถมาจอดในพื้นที่ ทำให้พื้นที่เกิดความเสียหาย
ผู้กำกับการ สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน และชุดสายตรวจ ปฏิบัติงานตามขั้นตอนและตามหน้าที่ หลังได้รับแจ้งจากเจ้าทุกข์จึงลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยได้สอบปากคำพยานและเจ้าทุกข์ ยืนยันตัวบุคคลชัดเจน จึงเชิญตัวมาสอบสวน เนื่องจากเจ้าทุกข์แจ้งความในข้อหาทำให้เสียทรัพย์และประพฤติตนวุ่นวาย อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นพนักงานสอบสวนจะอนุญาตให้หญิงวัย 70 ปี กลับบ้านก่อน และนัดมาสอบปากคำ รับทราบข้อกล่าวหาอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย
