fbpx

เกษตรเร่งแก้ปัญหาหนี้สมาชิกกองทุนฟื้นฟูฯ

กรุงเทพฯ 12 ธ.ค. – เกษตรฯ เดินหน้าแก้ปัญหาหนี้กองทุนฟื้นฟูฯ ร่วมกับเจ้าหนี้ 17 ธ.ค.นี้ ด้านแกนนำกลุ่มเกษตรกรไม่เข้าหลักเกณฑ์ขู่นำเกษตรกร  5,000 คน ชุมนุมหน้ากระทรวงเกษตรฯ  จนกว่าจะได้รับความช่วยเหลือ 


นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รักษาการประธานคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร (กฟก.) เฉพาะกิจ กล่าวว่า ได้สั่งการให้ กฟก.จัดประชุมติดตามความคืบหน้าแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรสมาชิก กฟก.ฟื้นฟูและพัฒนาอาชีพ หลังจาก ครม.เห็นชอบมาตรการปรับปรุงโครงสร้างหนี้สมาชิก กฟก. ซึ่งเป็นลูกหนี้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพื่อให้มีรายได้ดำรงชีพและมีเงินไปชำระหนี้

ทั้งนี้ นายกฤษฎา ได้มอบหมายให้นายณรงค์ อ่อนสอาด ที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรฯ ประธานคณะอนุกรรมการประสานเจรจาหนี้สินสถาบันการเงินเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้ของเกษตรกรสมาชิก กฟก.เชิญผู้แทนธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)  ธ.ก.ส. ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ธนาคารออมสิน และธนาคารพาณิชย์ต่าง ๆ ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ของสมาชิก กฟก.ที่อยู่นอกคุณสมบัติที่จะได้รับการจัดการหนี้จาก กฟก. คือ เป็นหนี้นอกภาคการเกษตร วงเงินกู้เกิน 2.5 ล้านบาท หรือเป็นหนี้ที่ใช้บุคคลค้ำประกันวันที่ 17 ธันวาคมนี้ เพื่อจะหาแนวทางว่าสามารถบรรเทาความเดือดร้อนให้เกษตรกรได้อย่างไรบ้าง


ด้านนายยศวัจน์ ชัยวัฒนศิริกุล ที่ปรึกษาสหพันธ์เกษตรกรแห่งประเทศไทย (สกท.) ได้ทำหนังสือเรียนรัฐมนตรีว่าการกระทวงเกษตรฯ ผ่านที่ปรึกษารัฐมนตรีให้เร่งจัดประชุม เพื่อพิจารณาประกาศคณะกรรมการ กฟก.เฉพาะกิจ โดยให้ทบทวนหลักเกณฑ์การจัดการหนี้และการจำแนกแยกประเภทหนี้ของเกษตรกร พ.ศ. 2561 เร่งดำเนินการตามระเบียบการฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรเพื่อให้เกษตรกร โดยเสนอให้ตั้งงบประมาณ 100,000 ล้านบาท ระยะเวลา 10 ปี แบ่งจ่ายปีละ 20,000 ล้านบาท เพื่อนำมาฟื้นฟูอาชีพให้เกษตรกรมีรายได้มากขึ้น เสนอให้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ กฟก.จังหวัดเพื่อให้สามารถดูแลสมาชิก กฟก.อย่างใกล้ชิด ที่สำคัญ คือ เร่งจัดการเลือกตั้งคณะกรรมการ กฟก.ชุดใหม่ เนื่องจากอายุการทำงานของรัฐมนตรีเกษตรฯ ในฐานะประธานคณะกรรมการ กฟก.เฉพาะกิจหมดลงแล้ว ขณะนี้ทำหน้าที่เพียงรักษาการ โดยมั่นใจว่าหากมีคณะกรรมการชุดใหม่จะสามารถกำหนดแนวทางแก้ปัญหาหนี้สินของสมาชิก กฟก.เต็มที่ 

นายยศวัจน์ กล่าวว่า แนวทางคณะกรรมการบริหาร กฟก.เฉพาะกิจที่มีนายกฤษฎา เป็นประธาน ซึ่งเสนอเป็นคนกลางให้เกษตรกรเข้าสู่กระบวนการเจรจาหนี้สินกับเจ้าหนี้ เพื่อขอปรับปรุงโครงสร้างหนี้นั้น กลุ่มเกษตรกรส่วนใหญ่ไม่ยอมรับ แม้นายกฤษฎา ชี้แจงแล้วว่าไม่สามารถแก้ไขปัญหา โดยการซื้อหนี้ได้เนื่องจากจะไม่เป็นไปตามระเบียบการบริหารการเงินการคลังที่ดูแลโดย ธปท. อีกทั้งสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้เข้ามาตรวจสอบการดำเนินงานของ กฟก.แล้วระบุว่า กฟก. ไม่สมควรจัดการหนี้นอกเหนือหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ว่าต้องเป็นหนี้ที่เกิดจากการทำการเกษตร มูลหนี้ไม่เกิน 2.5 ล้านบาท และเป็นหนี้ที่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ทั้งนี้ กลุ่มเครือข่ายหนี้สินเห็นว่าตามเจตนารมณ์ของกฎหมายการตั้ง กฟก.ขึ้นมา คือ การแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรทั้งหมด จึงเห็นว่า กฟก.สามารถใช้แนวทางการซื้อหนี้เกษตรกรจากสถาบันการเงินเข้ามาบริหารจัดการได้เอง ตามมติ ครม.ปี 2553 ซึ่งรัฐบาลขณะนั้นได้ให้ กฟก.ซื้อหนี้จากสถาบันการเงินเจ้าหนี้ร้อยละ 50 แล้วให้เกษตรกรผ่อนชำระกับ กฟก. ซึ่งมีระยะเวลาผ่อนชำระที่นานกว่าและดอกเบี้ยถูกกว่า ดังนั้น หากไม่เร่งจัดประชุมภายในวันที่ 20 ธันวาคมนี้จะนำเกษตรกรกลุ่ม สกท.กว่า 5,000 คนมาชุมนุมที่หน้ากระทรวงเกษตรฯ ในวันที่ 21 ธันวาคมอย่างแน่นอน

มีรายงานว่าผลจากการเจรจาธนาคารเจ้าหนี้ยินดีขายหนี้ให้ กฟก.ร้อยละ 50 ของเงินต้นรวม 2,400 ล้านบาท ในเงื่อนไขที่รัฐจัดสรรงบประมาณมาชดเชยให้ส่วนที่เหลืออีกร้อยละ  50 เป็นงบประมาณ 1,200 ล้านบาท ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความเห็นว่าจะเสียระเบียบวินัยการเงินการคลังของประเทศ ดังนั้นคณะกรรมการ กฟก.เฉพาะกิจจึงเห็นสมควรให้ลูกหนี้กลุ่มดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการเจรจาหนี้กับเจ้าหนี้เพื่อปรับปรุงโครงสร้างหนี้เป็นราย ๆ ไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

ชาวบ้านร้องโรงงานเก็บสารเคมีเร่งเยียวยาเหตุไฟไหม้

ชาวบ้านที่เดือดร้อนจากเหตุไฟไหม้โกดังเก็บสารเคมีอุตสาหกรรม จ.ระยอง เรียกร้องโรงงานช่วยเหลือ บอกน้ำสักขวดก็ไม่ได้

แบงก์ชาติ​ส่งหนังสือให้ทบทวนดิจิทัลวอลเล็ต​​ ไม่ทำสะดุด

ปลัดคลัง ระบุแบงก์ชาติ​ส่งหนังสือถึง ครม.ทบทวนดิจิทัลวอลเล็ต​​ ไม่ทำให้สะดุด ชี้เป็นข้อเสนอเก่า​​ เดินหน้าตามแผนเดิม​ 

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา เริ่มมีสัญญาณที่ดี-การสู้รบเงียบสงบ

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สอด จ.ตาก เริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น หลังการสู้รบเงียบสงบเกินกว่า 24 ชั่วโมง คาดมีการเจรจากันของกลุ่มต่อต้านและทางการเมียนมา หยุดยิงชั่วคราวเพื่อลดผลกระทบ

“บิ๊กโจ๊ก” ยื่น ป.ป.ช.อีกรอบ สอบตำรวจทำคดีเว็บพนันออนไลน์

“บิ๊กโจ๊ก” บุกสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) อีกครั้ง เพื่อยื่นหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษหัวหน้าและคณะพนักงานสอบสวนทั้งหมดในคดีเว็บพนันออนไลน์ที่มีการทำคดีโดยมิชอบ