ขอนแก่น 8 ธ.ค.-เหตุญาติคาใจปมบุรุษพยาบาลโรงพยาบาลดังเมืองขอนแก่นชกหน้าผู้ป่วย ล่าสุดคดีนี้จบด้วยดี หลังญาติได้ดูภาพวงจรปิด ขณะที่บุรุษพยาบาลดอดชี้แจงทำความเข้าใจญาติ เพื่อคลายความสงสัย
นี่เป็นภาพจากกล้องวงจรปิดที่โรงพยาบาล เปิดให้ครอบครัวนายพินันท์ ประเคนทอง ผู้ป่วยวัย 65 ปี ดูผ่านจอ LED ขนาดใหญ่ เพื่อคลี่ปมสงสัย บุรุษพยาบาลชกหน้าผู้ป่วยภายในห้องฉุกเฉินจริงหรือไม่ หลังเข้าร้องความเป็นธรรมว่า ผู้ป่วยซึ่งคือพ่อบุญธรรมเสียชีวิต และส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะโรงพยาบาลดูแลพ่อไม่ดี โดยภาพที่บันทึกไว้เกิดขึ้นวันที่ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งภาพแบ่งเป็น 2 ช่วงเวลา ช่วงแรกเป็นจังหวะที่นายพินันท์ พยายามลุกจากเตียงคนไข้ ก่อนพลัดตกลงมา มีแพทย์และเจ้าหน้าที่ในห้องฉุกเฉินประมาณ 10 คน กรูกันเข้ามาช่วยกันพยุงตัวขึ้น และพบผู้ป่วยมีแผลแตกที่คิ้วซ้าย จึงปฐมพยาบาลและเย็บแผลให้ เหตุการณ์ช่วงนี้ญาติติดใจ เจ้าหน้าที่ไม่ได้ยกที่กั้นเตียงขึ้น ทำให้ผู้ป่วยตกเตียง แต่โรงพยาบาลยืนยันว่า มีการยกที่กั้นเตียงขึ้นแล้ว แต่ด้วยมุมกล้องทำให้มองเห็นที่กั้นเตียงไม่ชัด เหตุการณ์นี้โรงพยาบาลยอมรับว่าเจ้าหน้าที่บกพร่องในการดูแลคนไข้ไม่ให้ลุกจากเตียง
ต่อมาเป็นช่วงเวลาไล่เลียงกัน ผู้ป่วยรายเดิมนั่งอยู่บนเตียง ทำทีเตรียมจะลุกลงจากเตียงอีกครั้ง ครั้งนี้บุรุษพยาบาลที่ญาติ เชื่อว่าเดินเข้ามาชกหน้าผู้ป่วย โดยยกมือขวาขึ้นไปใกล้หน้าผู้ป่วย ซึ่งโรงพยาบาลชี้แจงว่าไม่ใช่การชก แต่เป็นการใช้มือคว้ามือผู้ป่วยที่พยายามจะแกะผ้าพันศีรษะออก ก่อนบอกให้นอนลง และเตือนว่าอย่าลุกขึ้นอีก เพราะเพิ่งตกลงจากเตียงไป คลิปนี้ญาติเชื่อว่าไม่ใช่การชกหน้าจริง แต่บุรุษพยาบาลทำพฤติกรรมไม่เหมาะสม และยังคิดว่าน่าจะมีการทำร้ายร่างกายทำให้ผู้ป่วยหงายหลังล้มไปที่เตียง
หลังดูคลิป ญาติยืนยันยังติดใจ 2 ประเด็น คือ มาตรฐานในการควบคุมดูแลผู้ป่วย การใช้ความรุนแรงและพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของบุรุษพยาบาล และให้เป็นหน้าที่ของตำรวจในการดำเนินคดีตามกฎหมาย
ล่าสุด น.ส.ศรินทิพย์ อิ่มใจ ลูกสาวบุญธรรมของผู้เสียชีวิต ได้ให้ข้อมูลว่า บุรุษพยาบาลเดินทางมาขอพบเพื่อชี้แจง โดยมีพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ร่วมรับฟัง ซึ่งบุรุษพยาบาล ยืนยัน ไม่ได้ทำร้าย แต่เห็นผู้ป่วยใช้มือแกะเชือกที่ผูกกับเตียงออก และลุกขึ้นมานั่งเพื่อแกะผ้าพันแผลที่ศีรษะออก จึงเข้าไปคว้ามือห้ามไม่ให้แกะ แต่จังหวะที่กำลังคว้า ผู้ป่วยเอามือลงทำให้จับไม่โดน จากนั้นผู้ป่วยก็ล้มตัวลงนอนเอง ส่วนกิริยาที่เดินมาเหมือนไม่เหมาะสม ก็เสียใจที่ทำให้ญาติรู้สึกไม่ดี วันนี้จึงมาขอโทษ หลังพูดคุยญาติก็ไม่ติดใจสงสัย แต่ขอฝากเรื่องการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ โดยอยากให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์กับทุกฝ่าย เพื่อให้การดูแลผู้ป่วย เป็นไปอย่างเหมาะสม.-สำนักข่าวไทย