สศช.ยืนยันไทยไม่ใช่ประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำที่สุดในโลก

กรุงเทพฯ 7 ธ.ค. – สศช.ยืนยันไทยไม่ใช่ประเทศที่เหลื่อมล้ำที่สุดในโลก และมั่นใจว่าความเหลื่อมล้ำจะลดลงอีก  


จากกรณีที่ CS Global Wealth Report 2018 ระบุว่า ไทยเป็นประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำสูงที่สุดในโลก  นายดนุชา พิชยนันท์ รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สศช.ในฐานะโฆษกสศช. เปิดแถลงข่าวยืนยันว่า ไทยไม่ได้เป็นประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำมากที่สุด เพราะการจัดทำดัชนีชี้วัดของ CS Global Wealth Report ได้คำนวณจากการกระจายความมั่งคั่ง ที่วัดจากการถือครองความมั่งคั่งของประเทศที่พัฒนาแล้ว และนำข้อมูลของประเทศกำลังพัฒนามารวมไปด้วย จึงทำให้ไทยถูกจัดอันดับไปด้วย ซึ่งไม่ได้ถือเป็นมาตรฐานการจัดอันดับตามหลักสากล   จึงขอชี้แจงเพื่อให้ประชาชนและนักลงทุนเกิดความเข้าใจที่ตรงกัน

 อย่างไรก็ตามปัจจุบันไทยมีการจัดทำดัชนีค่าสัมประสิทธิ์ความไม่เสมอภาคของรายได้ หรือ GINI Coefficient Index ที่เป็นไปตามมาตรฐานของธนาคารโลก ( World Bank) อยู่แล้ว โดยรายงานของ World Bank ในปี 2558 ไทยมีอันดับความเลื่อมล้ำลดลง จากอันดับที่ 46 จากการสำรวจใน 73 ประเทศ มาอยู่อันดับที่ 40 จากการสำรวจใน 60 ประเทศ และในปี 2560 คนไทยมีความเหลื่อมล้ำด้านรายได้ลดลง อยู่ที่ร้อยละ 45.3 จากปี 2550 ที่อยู่ที่ร้อยละ 49.9 และมีรายจ่ายลดลงอยู่ที่ร้อยละ 36.4 จากปี 2550 ที่อยู่ที่ร้อยละ 39.8 ขณะเดียวกันไทยยังมีความแตกต่างของรายได้ระหว่างประชากรที่มีรายได้สูงที่สุดและน้อยที่สุด แคบลงอย่างต่อเนื่อง โดยลดลงจาก 25.10 เท่าในปี 2550 มาเป็น19.29 เท่าในปี 2560 ดังนั้นจึงเชื่อว่าจากข้อมูลสถิติดังกล่าว จะทำให้ในปี 2580 ความเหลื่อมล้ำด้านรายได้ลดลงเหลืออยู่ที่ร้อยละ3.6 และมีความแตกต่างของรายได้ระหว่างคนรวยและจนเหลือเพียง 15 เท่าได้ 


นอกจากนี้ เพื่อเป็นการดูแลความเหลื่อมล้ำในประเทศให้ดีขึ้น สศช.มีการจัดทำแผนการแก้ไขความยากจนแบบพุ่งเป้า ด้วยการทำฐานข้อมูลรายได้ของผู้มีรายได้น้อย เพื่อให้ทราบถึงพื้นที่อยู่อาศัย รายได้ และความต้องการหลักของคนกลุ่มนี้ เพื่อเสนอรัฐบาลในการจัดทำนโยบายแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำให้มีประสิทธิภาพต่อไป โดยขณะนี้มีการนำบางนโยบายไปใช้บ้างแล้ว – สำนักข่าวไทย 

 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง