กสิกรไทยคาดจีดีพีปี 62 โตร้อยละ 4

กรุงเทพฯ 7 ธ.ค. – ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดเศรษฐกิจไทยปี  62 จีดีพีโตร้อยละ 4 ชี้สงครามการค้ากระทบไทย 3,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ


ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้จัดงานเสวนาเรื่อง “จับอุณหภูมิเศรษฐกิจปี 62…หมูจริงหรือไม่?” ซึ่งสะท้อนมุมมองต่อเศรษฐกิจไทยไตรมาส 4 ว่า คงขยายตัวดีขึ้นมาที่กว่าร้อยละ 4 จากร้อยละ 3.3 ในไตรมาส 3 หลังภาครัฐมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเดือนธันวาคม บวกกับการท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัวขึ้น การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนยังรักษาระดับการขยายตัวไว้ได้ ส่วนประมาณการจีดีพีปี 2561 นั้น มีการปรับลดลงจากประมาณการเดิมที่ร้อยละ 4.6 มาที่ร้อยละ 4.3 ซึ่งเป็นไปตามภาพการส่งออกและการท่องเที่ยวที่ผ่อนแรงส่งลง โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 3 ของปี

นายศิวัสน์ เหลืองสมบูรณ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า สำหรับปีหมู หรือปี 2562 นั้น ทีมศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่าคงไม่หมูเท่าใดนัก เพราะสงครามการค้าจะมีผลกระทบกับภาคส่งออกของไทยมากขึ้นกว่าที่เห็นในปีนี้ โดยการเจรจาระหว่างสหรัฐและจีนคงจะไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ในระยะเวลาที่กำหนด ทำให้ประเด็นนี้จะรบกวนบรรยากาศการค้าโลกตลอดทั้งปี และคาดว่าจะมีผลกระทบต่อมูลค่าการค้าของไทยประมาณ  3,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ  นอกจากนี้ ยังมีความไม่แน่นอนในประเด็น Brexit  สถานการณ์การคลังของอิตาลี และความผันผวนของค่าเงินในกลุ่มตลาดเกิด ใหม่ เช่น ตุรกี อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และอินเดีย ซึ่งล้วนแล้วแต่จะทำให้เกิดความผันผวนในตลาดการเงินโลกต่อเนื่องท่ามกลางภาวะที่หลายธนาคารกลางในกลุ่มประเทศดังกล่าว มีกระสุนจำกัดมากขึ้นหลังขึ้นดอกเบี้ยไปมากแล้ว


นางสาวณัฐพร ตรีรัตน์ศิริกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า  สงครามการค้าโลกดังกล่าวจะเป็นหนึ่งในตัวแปรสำคัญกระทบตัวเลขส่งออกไทยปีหน้า เมื่อผนวกกับผลของฐาน จะทำให้เห็นตัวเลขการส่งออกประมาณร้อยละ 4.5 เทียบกับร้อยละ 7.7 ในปี 2561 ขณะที่คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะมีอัตราการเติบโตประมาณร้อยละ 4.0 ซึ่งต้องอาศัยแรงขับเคลื่อนจากการลงทุนมาช่วยเสริม เพื่อให้สามารถชดเชยโมเมนตัมของภาคต่างประเทศที่ผ่อนแรงลงได้ ทั้งนี้ การเปลี่ยนผ่านรัฐบาลใหม่ หากเป็นไปอย่างราบรื่นจะช่วยเสริมสร้างบรรยากาศการใช้จ่ายและลงทุนของประเทศ รวมถึงความต่อเนื่องของการผลักดันงบประมาณปี 2563 ซึ่งจะช่วยให้การใช้จ่ายและลงทุนของภาครัฐยังเป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจสำคัญไปจนถึงครึ่งปีหลัง

นางสาวกาญจนา โชคไพศาลศิลป์ ผู้บริหารงานวิจัย บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด คาดว่า นอกจากความต่อเนื่องของการใช้จ่ายและลงทุนภาครัฐแล้ว ทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้นเป็นอีกหนึ่งปัจจัยติดตามที่สำคัญ โดยคาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีโอกาสมากที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 19 ธันวาคม 2561 ซึ่งเป็นรอบสุดท้ายของปีนี้ เช่นเดียวกับธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ประชุมวันเดียวกัน หลังมีการส่งสัญญาณจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อย่างต่อเนื่องก่อนหน้านี้ ขณะที่ปี 2562 กนง.ยังมีโอกาสปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้อีก แต่น่าจะเป็นในช่วงครึ่งปีหลังเมื่อผ่านพ้นช่วงการเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม การปรับดอกเบี้ยแบงก์ในช่วงครึ่งปีแรกคงเน้นไปที่อัตราเงินฝากประจำพิเศษ และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้บ้านและกู้รถที่มีระยะค่อนข้างยาว ไม่ใช่เป็นการปรับอัตราดอกเบี้ยเป็นการทั่วไป เพราะสภาพคล่องยังมีอยู่มาก ขณะที่แรงส่งสินเชื่อจะชัดเจนครึ่งปีหลังมากกว่า แต่เศรษฐกิจที่มีแรงส่งลดลงคงทำให้เห็นสินเชื่อปี 2562 ขยายตัวประมาณร้อยละ 5.0 ชะลอลงจากร้อยละ 6.0 ในปีนี้ ด้านเอ็นพีแอลของระบบธนาคารไทยและต่างชาติมีโอกาสแตะระดับสูงสุดครั้งใหม่ในช่วงระหว่างปี 2562 ก่อนที่จะมาแตะระดับประมาณร้อยละ 2.98 สิ้นปี 2562 จากร้อยละ 2.91 สิ้นปี 2561 เพราะเอ็นพีแอลมักปรับตัวตามเศรษฐกิจประมาณ 6 เดือน โดยสินเชื่อเอสเอ็มอีและบ้านยังเป็นกลุ่มที่ต้องจับตาเป็นพิเศษ

นางสาวเกวลิน หวังพิชญสุข ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า สำหรับแนวโน้มธุรกิจปีหน้า กลุ่มค้าปลีกออนไลน์  โรงพยาบาลเอกชน และก่อสร้างภาครัฐ เป็นกลุ่มธุรกิจที่ยังมีอัตราการขยายตัวในเกณฑ์ดี โดยแม้การเก็บภาษีอี-คอมเมิร์ซอาจมีผลต่อมาร์จิ้นฝั่งผู้ขายเมื่อมีความลงตัวของระบบที่เกี่ยวข้อง แต่โดยรวมธุรกรรมออนไลน์น่าจะยังเติบโตสูงตามเทรนด์การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค  ขณะที่ธุรกิจที่คงเห็นการชะลอตัวปีหน้า ได้แก่ เกษตร รถยนต์ และอสังหาริมทรัพย์ สำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ปี 2562 จะได้รับผลกระทบจากทั้งมาตรการคุมสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ของ ธปท.ที่เร่งกิจกรรมการโอนไตรมาสสุดท้ายของปี 2561 ถึงไตรมาสแรกของปี 2562 และการปรับขึ้นดอกเบี้ย ทำให้คาดว่ายอดโอนอสังหาริมทรัพย์ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลจะหดตัวร้อยละ 7.6 ถึงร้อยละ 3.6 จากที่มองว่าจะเติบโตร้อยละ 14.1 ในปี 2561 เพียงแต่ยอดค้างขายคงไม่เพิ่มขึ้นมาก เพราะผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์จะระมัดระวังการเปิดตัวโครงการใหม่มากขึ้น.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ฆ่าควักหัวใจ

รวบชายชาวจีนฆ่าโหดคู่ขา กรีดหน้าอก ควักหัวใจ-ปอด

ตำรวจรวบชายชาวจีน ก่อเหตุสะเทือนขวัญฆ่าขู่ขาหมกห้องน้ำอพาร์ตเมนต์ กลางเมืองพัทยา พบร่องรอยถูกกรีดหน้าอก ควักหัวใจ ปอดหายไปข้างหนึ่ง

อุทาหรณ์! จอดรถยนต์ติดเครื่องไว้ เจอขโมยขับหนีหาย

อากาศร้อนเป็นเหตุ หนุ่มสตาร์ทเครื่องเปิดแอร์รถยนต์จอดไว้ ก่อนลงไปซื้อของ เดินออกมาอีกที เจอคนขโมยรถ ขับหนีหายไปแล้ว

ดับแล้ว 8 ราย รถชนบนมอเตอร์เวย์ อัดก๊อปปี้พังยับ

เกิดอุบัติเหตุใหญ่ช่วงกลางดึก บนมอเตอร์เวย์ สาย 7 มุ่งหน้าชลบุรี รถเทรลเลอร์ 2 คัน กับเอสยูวีอีก 1 คัน คนในรถเอสยูวี เสียชีวิต 8 ราย

ข่าวแนะนำ

เตือนไทยตอนบน ระวังพายุฤดูร้อน

กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบน ระวังพายุฤดูร้อน ช่วง 27 เม.ย.-1 พ.ค.68 ฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก และฝนตกหนักบางแห่ง รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจเกิดขึ้นได้บางพื้นที่

พิธีปลงพระศพ

9 ทันโลก : พิธีปลงพระศพ “พระสันตะปาปาของประชาชน”

วันนี้เป็นวันที่จารึกในประวัติศาสตร์ ที่มีการประกอบพิธีปลงพระศพสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ติดตามในรายงาน 9 ทันโลก ของฝ่ายข่าวต่างประเทศ

ไข่ไก่ขึ้นราคา

ไข่ไก่ปรับขึ้นอีกฟองละ 20 สตางค์​ มีผลวันจันทร์นี้

ไข่ไก่ปรับขึ้นอีกฟองละ 20 สตางค์​ มีผล 28 เม.ย.นี้ เหตุอากาศร้อนจัด ไก่ออกไข่​น้อยลง​ ประกอบกับก่อนหน้านี้​ไข่ราคา​ตก​ เกษตรกร​ปลดแม่ไก่ยืนกรง​ อุปทานที่ลดลงทำให้​ราคา​มีแนวโน้ม​จะปรับ​ขึ้น​อีก​ตามกลไกตลาด