แพทย์แนะยึดหลัก 5 ทำ 5 ไม่ ห่างไกลมะเร็ง

สธ.7ธ.ค.-10 ธันวาคม วันต่อต้านโรคมะเร็งแห่งชาติ  กรมการแพทย์เผยโรคมะเร็งเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญของประเทศและเป็นสาเหตุการตายอันดับ 1 ของคนไทยมาตั้งแต่ปี 2542 


นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า วันที่ 10 ธันวาคม ของทุกปีเป็น “วันต่อต้านโรคมะเร็งแห่งชาติ” นับตั้งแต่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามมินทราธิราช บรมนาถบพิตร ได้เสด็จมาเปิดสถาบันมะเร็งแห่งชาติ หน่วยงานของรัฐบาลในสังกัดกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข จึงได้ถือเอาวันนี้เป็นวันต่อต้านโรคมะเร็งแห่งชาติมาโดยตลอด นอกเหนือจากที่คนไทยทั้งชาติรู้ว่าวันที่ 10 ธันวาคมของทุกปีคือวันรัฐธรรมนูญ


โดยมีสถาบันมะเร็งแห่งชาติและโรงพยาบาลมะเร็งภูมิภาค 7 แห่งทั่วประเทศของกรมการแพทย์ เป็นหน่วยงานที่ให้บริการดูแลรักษาด้านโรคมะเร็ง สถานการณ์โรคมะเร็งในประเทศไทยจากสถิติพบว่าโรคมะเร็งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 และข้อมูลล่าสุดจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ปัจจุบันพบว่า คนไทยมีผู้ป่วยรายใหม่วันละ 336 คน หรือ122, 757 คนต่อปี และพบว่ามีผู้เสียชีวิตจากโรคมะเร็งวันละ 215 คน หรือ 78,540 คนต่อปี โดยข้อมูลจากองค์กรระหว่างประเทศเพื่อการวิจัยโรคมะเร็งรายงานว่า อุบัติการณ์โรคมะเร็งในประเทศไทย ในเพศหญิงพบว่าเป็นมะเร็ง 151 คนต่อประชากรหนึ่งแสนคน และพบในเพศชาย 169.3คนต่อประชากรหนึ่งแสนคน


นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ  ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ  กล่าวเพิ่มเติมว่า  โรคมะเร็งที่พบมากในเพศชายไทยคือ มะเร็งตับและท่อน้ำดี ส่วนในเพศหญิงไทยโรคมะเร็งที่พบมากที่สุด คือ โรคมะเร็งเต้านม แต่ถึงโรคมะเร็งจะเป็นโรคร้าย แต่เราสามารถปฏิบัติตนเพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งได้ด้วยการลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง  แนะนำให้ประชาชนใช้หลักการ 5 ทำ 5 ไม่ ห่างไกลมะเร็ง 

โดย 5 ทำ ประกอบด้วย 1.ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ 2.ทำจิตใจให้แจ่มใส ไม่เครียด 3.กินผักผลไม้ 4.กินอาหารหลากหลาย 5.ตรวจร่างกายเป็นประจำ ส่วน 5 ไม่ ประกอบด้วย 1. ไม่สูบบุหรี่หรือสูดดมควันบุหรี่ 2. ไม่มั่วเซ็กซ์ 3.ไม่ดื่มสุรา 4.ไม่ตากแดดจ้า 5. ไม่กินปลาน้ำจืดดิบ หากปฏิบัติตามหลักการนี้ สามารถป้องกันโรคมะเร็งได้ร้อยละ 40  

และ 7 สัญญาณอันตรายโรคมะเร็ง 1.ระบบขับถ่าย ที่เปลี่ยนแปร 2. แผล ที่ไม่รู้จักหาย 3.ร่างกาย มีก้อนตุ่ม 4.กลุ้มใจเรื่องการ กินกลืนอาหาร 5. ทวารทั้งหลาย มีเลือดไหล 6.ไฝ หูด ที่เปลี่ยนไป 7. ไอและเสียงแหบ จนเรื้อรัง ที่สำคัญคือ ควรรีบไปพบแพทย์ หากมีอาการเกิน 3 สัปดาห์ และควรมาตรวจสุขภาพเพื่อค้นหามะเร็งระยะเริ่มแรกเป็นประจำอย่างน้อยปีละครั้ง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ตรวจความพร้อมหมอชิต 2 ให้บริการ ปชช.เดินทางช่วงปีใหม่

นายกฯ ตรวจความพร้อมหมอชิต 2 ให้บริการประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยไม่แจ้งล่วงหน้า กำชับ บขส. อำนวยความสะดวกเตรียมพร้อมรถ สั่งเข้มตรวจแอลกอฮอล์-ยาเสพติดพนักงานขับรถ ป้องกันอุบัติเหตุ

เดินทางปีใหม่สายเอเชีย

ถนนสายเอเชียมุ่งสู่ภาคเหนือรถเริ่มมาก

ประชาชน เริ่มทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา และไปท่องเที่ยวช่วงส่งท้ายปี 2567 รับปีใหม่ 2568 การจราจรถนนสายเอเชีย ฝั่งขาขึ้นภาคเหนือ ช่วงชัยนาท รถเริ่มมาก

ฉายาตำรวจปี67

เปิด 10 ฉายาตำรวจ ปี 67

สมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมฯ เปิด 10 ฉายา ตำรวจ “บิ๊กต่าย” ฉายา “กัปตันเรือกู้” จากภารกิจร้อนในการกอบกู้วิกฤติศรัทธา-ภาพลักษณ์องศ์กร “สารวัตรแจ๊ะ” ได้ฉายา “อย่าเล่นกับระบบ แจ๊ะ”