อภิสิทธิ์ระบุพล.อ.ประยุทธ์ท่าทีต้องชัดเจน

พรรคประชาธิปัตย์ 4 ธ.ค.-อภิสิทธิ์ระบุข่าวใช้ตำแหน่งรมต.ต่อรองเฉลิมชัยให้ปชป.ร่วมรัฐบาลคสช.หลังเลือกตั้งไม่จริง จี้พล.อ.ประยุทธ์แสดงท่าทีให้ชัดเจนถ้ายึดหลักธรรมาภิบาล 


นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงข่าวที่ระบุว่านายเฉลิมชัย ศรีอ่อน อดีตเลขาธิการพรรคได้รับการเชื้อเชิญให้ร่วมรัฐบาลกับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)  โดยนำตำแหน่งรัฐมนตรีเกรดเอมาต่อรองว่า  ไม่เป็นความจริง พร้อมกับย้อนถามว่าพรรคพลังประชารัฐระบุว่าจะได้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) จำนวน 350 คน และทำทุกอย่างได้ก็ไม่จำเป็นต้องคุยกัน

“ในส่วนของพรรคยืนยันมาตลอดว่าผมเป็นหัวหน้าพรรคต้องพบกับสมาชิกในช่วงหยั่งเสียงก็พูดชัดเจนว่าอย่ามาพูดเรื่องตำแหน่ง เพราะจุดประสงค์ของพรรคคือการนำพาประเทศชาติไปในทิศทางที่ถูกต้อง ดังนั้น ข่าวเรื่องการเสนอตำแหน่งมาต่อรองจึงไม่ใช่ประเด็นและไม่ใช่เวลาด้วย เพราะตามขั้นตอนต้องผ่านกระบวนการเลือกตั้งให้ประชาชนให้คำตอบก่อนว่าสนับสนุนแนวทางของพรรคไหน เท่าไหร่ จากนั้นต้องดูว่าตอนหาเสียงแนวทางของพลังประชารัฐยังยืนยันแนวทางการทำงานในปัจจุบันหรือไม่ เพราะถ้าบริหารเศรษฐกิจแบบนี้ก็ยากที่จะทำงานด้วยกันได้ เนื่องจากประชาชนเดือดร้อนมาก ขณะนี้การเมืองมีสามขั้วคือ พลังประชารัฐ เพื่อไทย และประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นสามแนวทางที่แตกต่างกันชัดเจน ต้องให้ประชาชนเป็นผู้พิจารณา” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว


นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เชื่อว่าทุกพรรคจะปรับแนวทางการหาเสียงใหม่ โดยปัจจัยที่สำคัญคือระเบียบของกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ที่จะออกมา เพราะยังไม่ได้ข้อยุติหลายเรื่อง ทั้งเรื่องค่าใช้จ่าย ป้าย การใช้สื่อออนไลน์ อีกทั้งเดิมเป็นบัตรสองใบ แต่ครั้งนี้เป็นบัตรใบเดียวเลือกทุกอย่าง ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้สิทธิต้องชั่งใจว่าเรื่องทิศทางประเทศ นโยบายพรรคกับความชอบพอบุคคล ในที่สุดแล้วมองว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ประชาชนจะได้ประโยชน์จากวิธีการคิดในการเลือกแบบใดมากกว่ากัน แต่สิ่งที่พรรคจะทำคือพยายามสรรหาบุคคลที่มีคุณภาพที่ประชาชนพึ่งพาได้ในฐานะส.ส. และต้องชัดเจนเรื่องทิศทางนโยบาย โดยพยายามที่จะสรรหาผู้สมัครให้เสร็จกลางเดือนธันวาคมนี้ รวมถึงการเลือกตัวแทนประจำจังหวัดที่จะทำหน้าที่รับฟังความเห็นในการสรรหาผู้สมัคร ซึ่งน่าจะเรียบร้อยภายใน 3-4 วันนี้ ดังนั้น กลางเดือน-ปลายเดือนนี้น่าจะได้ผู้สมัครครบถ้วน

ส่วนกรณีที่พรรคพลังประชารัฐจะเสนอชื่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช.เป็นหนึ่งในบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรีของพรรค หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ต้องถามพล.อ.ประยุทธ์ว่ายินยอมแล้วหรือไม่ ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์คงต้องคิดว่าถ้าจะตอบรับก็แปลว่ามีส่วนได้เสียกับการเลือกตั้งครั้งนี้ ต้องพิจารณาว่าหลักธรรมาภิบาลควรปฏิบัติอย่างไร เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่า การเลือกตั้งจะสุจริต เที่ยงธรรม 

“ถ้าคิดแต่เรื่องกฏหมายก็อ้างได้ว่ามีเวลาตัดสินใจไปจนถึงวันสุดท้ายของการรับสมัคร และถ้าคิดถึงการใช้อำนาจเพื่อความได้เปรียบ เสียเปรียบ ระยะเวลาที่เหลือก็คงทำอะไรได้หลายอย่าง แต่ประชาชนจับตาตลอดว่าหากต้องการธรรมาภิบาล ใครที่หาเสียงว่าจะบริหารบ้านเมืองด้วยธรรมาภิบาล ก็ต้องมีมาตรฐาน ทำตัวให้เป็นแบบอย่างที่ดี และผมเชื่อว่าคนไทยไม่ชอบคนเอารัดเอาเปรียบคนอื่น ซึ่งจะเป็นปัจจัยในการตัดสินใจของประชาชนต่อไปด้วย” นายอภิสิทธิ์ กล่าว


นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าในอดีตพรรคการเมืองที่ตั้งขึ้นมาเพื่อสืบทอดอำนาจมักมีจุดจบไม่ดี หากทำอะไรแบบเดิม ๆ คงยากที่จะคาดหวังให้ผลเปลี่ยนแปลง  พร้อมฝากไปถึงพล.อ.ประยุทธ์ว่าควรเป็นแบบอย่างที่ดีในการสร้างบรรทัดฐานทางการเมือง เรื่องธรรมาภิบาลจะหยุดแค่เรื่องกฎหมายไม่ได้ 

“สมัยผมเป็นนายกรัฐมนตรี มีรัฐมนตรีหลายคนมีปัญหาเรื่องคุณสมบัติส.ส.จนต้องเลือกตั้งซ่อมส.ส. จึงให้ทุกคนออกจากตำแหน่ง เพราะไม่ต้องการให้ใช้ตำแหน่งเอาเปรียบคู่แข่งหาเสียงทั้งที่กฎหมายไม่บังคับ แต่ผมขอทั้งคนในพรรคผมและพรรคร่วม ซึ่งได้รับความร่วมมืออย่างดี บรรทัดฐานอย่างนี้ต้องสร้างขึ้น หากอยากมีธรรมาภิบาล แต่ถ้าท่องแค่ว่าไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย การเมืองไทยคงวนเวียนอยู่แบบเดิม” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก้าวแรกทางการเมืองของพล.อ.ประยุทธ์จะทำอย่างไรให้สง่างาม ตนคงบอกไม่ได้ อยากให้พล.อ.ประยุทธ์พิจารณาเอง และทุกคนต้องจับตาว่าเวลาที่พูดเรื่องธรรมาภิบาลตลอดเกือบ 5 ปี จะปฏิบัติหรือไม่ ทั้งหมดเป็นดุลพินิจขอพล.อ.ประยุทธ์จะพิจารณา เพราะถ้าให้ความสำคัญกับการปฏิรูปการเมือง เรื่องการใข้อำนาจรัฐเป็นเรื่องสำคัญ เนื่องจากเป็นจุดที่ทำให้ขัดแย้งจนเกิดวิกฤต หากอยากให้หลุดพ้นวิกฤตอย่าทำอะไรที่ซ้ำรอยกับวิกฤตในอดีตที่ผ่านมา ขณะนี้ยังเห็นความพยายามที่จะใช่อำนาจรัฐเข้ามาแทรกแซงกกต. โดยการออกคำสั่งหัวหน้าคสช.อย่างน้อย 2 ครั้งคือการปลดกกต.ออกจากตำแหน่งและคำสั่งล่าสุดที่ให้คสช.และรัฐบาลเข้าไปเกี่ยวข้องกับกระบวนการแบ่งเขตการเลือกตั้งโดยใช้อำนาจตามมาตรา 44 รับรอง ไม่คำนึงถึงหลักเกณฑ์และกฎหมาย จนความเป็นอิสระของกกต.ถูกตั้งคำถาม.-สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! โจรบุกเดี่ยวชิงทอง 163 บาท กลางห้างย่านบางบ่อ

สมุทรปราการ 20 ส.ค. – หนีไม่รอด รวบโจรสวมชุดไรเดอร์ บุกเดี่ยวชิงทองกลางห้างดัง จ.สมุทรปราการ กวาดทอง 163 บาท พบของกลางบางส่วนซุกตู้ลำโพงในบ้าน จากกรณีคนร้ายแต่งตัวคล้ายไรเดอร์ สวมหมวกกันน็อกเต็มใบ สะพายกระเป๋าข้าง บุกเข้าไปในร้านทอง พร้อมใช้อาวุธปืนข่มขู่พนักงาน ก่อนกระโดดข้ามตู้หน้าร้าน กวาดสร้อยคอและสร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนักรวม 163 บาท เป็นทองคำรูปพรรณประเภทสร้อยข้อมือ หนัก 5 บาท ประมาณ 5 เส้น น้ำหนัก 25 บาท, น้ำหนัก 3 บาท ประมาณ 30 เส้น น้ำหนักรวม 90 บาท, หนัก 2 บาท ประมาณ 24 เส้น น้ำหนักรวม 48 บาท (รวมสร้อยข้อมือ 79 เส้น) ก่อนวิ่งขึ้นรถ จยย.ที่จอดอยู่ด้านหน้า […]

หลักฐานชัด! ทหารกัมพูชาลอบวางทุ่น PMN-2 ภูมะเขือ

19 ส.ค.- กองทัพเรือพบหลักฐานสำคัญ ยืนยันทหารกัมพูชาลักลอบใช้ทุ่นระเบิด PMN-2 บริเวณภูมะเขือ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ชุดเก็บกู้กวาดล้างที่ 1 หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมกองทัพเรือ (นปท.ทร.) ซึ่งสนับสนุนการปฏิบัติงานเก็บกู้และกวาดล้างทุ่นระเบิดในพื้นที่ภูมะเขือ จังหวัดศรีสะเกษ ร้อย ร.132 พัน.13 (ฐานเหนือเมฆ) ตรวจพบโทรศัพท์มือถือของทหารกัมพูชาที่ทิ้งไว้ในพื้นที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบภายในเครื่อง พบคลิปวิดีโอและภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ทหารกัมพูชากำลังถือทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 พร้อมทั้งมีการบันทึกเสียงเป็นภาษาเขมร คาดว่าเป็นการสาธิตวิธีการใช้งาน ก่อนนำไปลักลอบฝังในพื้นที่ชายแดนไทย หลักฐานจากโทรศัพท์ยังระบุวันเวลาที่ถ่ายภาพและวิดีโอไว้อย่างชัดเจน จึงนับเป็นพยานหลักฐานสำคัญที่ยืนยันพฤติกรรมการละเมิดข้อตกลง และการใช้ทุ่นระเบิด ซึ่งขัดต่ออนุสัญญาระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ นปท.ทร. ได้แสดงถึงความรอบคอบและไหวพริบในการตรวจสอบหลักฐานทันที ก่อนส่งมอบให้หน่วยกองทัพบกในพื้นที่ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป. – สำนักข่าวไทย

“ทศพล” รุดมอบมาลัย “ภูมิธรรม” หลัง ครม.ชงนั่งผู้ว่าฯ เชียงใหม่

กองบินตำรวจ 20 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เตรียมแถลงจับยาเสพติดลอตใหญ่ “ทศพล” รุดมอบมาลัย หลัง ครม.ชงนั่งผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลา 8.00 น. ที่กองบินตำรวจ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เดินทางมาขึ้นเครื่อง เพื่อไปแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดล็อตใหญ่ ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พลตํารวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร อธิบดีกรมการปกครอง นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ เลขานุการ รมว.มหาดไทย ร่วมเดินทางด้วย ทั้งนี้เมื่อนายภูมิธรรมเดินทางมาถึง นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการ กระทรวงมหาดไทย ที่ ครม. มีมติเมื่อ 19 ส.ค. แต่งตั้งให้ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้นำพวงมาลัยมามอบให้นายภูมิธรรมและปลัดกระทรวงมหาดไทย และร่วมเดินทางกับคณะด้วย โดยมีสีหน้ายิ้มแย้ม อย่างไรก็ตามก่อนเดินทางเลขาธิการ ป.ป.ส. ได้รายงานสถานการณ์ยาเสพติดให้นายภูมิธรรมรับทราบ.-319.-สำนักข่าวไทย

มท.ชง ครม.แต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กลอต 25 ตำแหน่ง

กทม.19ส.ค.-มท.ชง ครม.แต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กลอต 25 ตำแหน่ง ผู้ว่าฯ หนองบัวลำพู ผงาดขึ้นอธิบดี พช. โยก “สยาม” นั่งพ่อเมืองปากน้ำ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำแหน่งบริหารระดับสูงให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 25 ตำแหน่ง อาทิ นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เป็นผู้ว่าฯ สมุทรปราการ นายจุมพฎ วรรณฉัตรสิริ ผู้ว่าฯ บึงกาฬ เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ว่าฯ ตาก เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายสุรศักดิ์ อักษรกุล ผู้ว่าฯ หนองบัวลำภู เป็นอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร เป็นผู้ว่าฯ ชลบุรี นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

แผ่นดินไหวนอกชายฝั่งเมียนมา เกิดจากรอยเลื่อนสะกาย ย้ำ กทม.ไม่กระทบโครงสร้าง

กรุงเทพฯ 21 ส.ค. – กรมทรัพยากรธรณี เผยเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 5.4 ความลึก 10 กม. เกิดจากการเคลื่อนตัวแนวระนาบของรอยเลื่อนสะกาย บริเวณนอกชายฝั่งตอนใต้ของเมียนมา ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 500 กม. ด้านสมาคมวิศวกรโครงสร้างฯ เตือนอย่าตื่นตระหนก คนกรุงบนตึกสูงรู้สึกสั่น แต่ไม่กระทบโครงสร้าง กรมทรัพยากรธรณีชี้แจงกรณีแผ่นดินไหวขนาด 5.4 ความลึก 10 กิโลเมตร เมื่อเวลา 09.58 น. ตามเวลาประเทศไทย บริเวณนอกชายฝั่งตอนใต้ของสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ซึ่งห่างจากกรุงเทพมหานครประมาณ 500 กิโลเมตร การตรวจสอบพบว่าแผ่นดินไหวครั้งนี้ เกิดจากการเคลื่อนตัวของ “รอยเลื่อนสะกาย” แนวระนาบเหลื่อมขวา (right-lateral strike-slip fault) ซึ่งมีอัตราการเคลื่อนที่เฉลี่ยปีละ 2 เซนติเมตร รอยเลื่อนนี้เคยสร้างแผ่นดินไหวใหญ่หลายครั้ง อาทิ ปี 2473 ขนาด 7.3 มีผู้เสียชีวิตกว่า 500 คน และเมื่อ 28 […]

นายกฯ พยักหน้ารับกำลังใจดี ศาล รธน.นัดชี้ชะตา 29 ส.ค.

ศาลรัฐธรรมนูญ 21 ส.ค.- นายกฯ พยักหน้ารับกำลังใจดี หลังไต่สวนคดีคลิปเสียงเสร็จ ประชาชนตะโกน “นายกฯ สู้ๆ” ด้านศาล รธน. นัดอ่านคำวินิจฉัยคดี 29 ส.ค. ย้ำ ห้ามเผยแพร่ข้อมูลและห้ามบิดเบือน ภายหลังการไต่สวนนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที คดีคลิปเสียงสนทนาระหว่างนางสาวแพทองธาร และสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ศาลรัฐธรรมนูญได้กลับมาเผยแพร่โทรทัศน์วงจรปิดอีกครั้ง โดยนายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ระบุว่า ศาลได้บันทึกเสียงและภาพการไต่สวนแล้ว และย้ำอีกครั้งว่า ห้ามผู้เข้าฟังการไต่สวน นำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามมิให้บิดเบือนข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน ศาลได้สั่งให้คู่กรณียื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันจันทร์ที่ 25 ส.ค. จากเดิมให้ยื่น 27 ส.ค. ซึ่งหากไม่ยื่นจะถือว่าไม่ติดใจ และนัดแถลงด้วยวาจาปรึกษาหารือและลงมติ วันที่ 29 ส.ค. เวลา 09.30 น. นัดอ่านคำวินิจฉัยในวันเดียวกัน เวลา 15.00 […]

แม่ทัพภาคที่ 4 สั่งคุมเข้ม หลังเหตุคาร์บอมบ์ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส

นราธิวาส 21 ส.ค. – ความคืบหน้าเหตุคาร์บอมบ์ ในพื้นที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เมื่อคืนที่ผ่านมา อส.บาดเจ็บ 6 นาย แม่ทัพภาคที่ 4 รุดตรวจที่เกิดเหตุ สั่งปิดช่องทางหลบหนี คุมเข้มแนวชายแดน ภาพจากกล้องวงจรปิด เหตุคาร์บอมบ์เมื่อคืนนี้ ช่วงเวลา 20.20 น. บริเวณหน้า จุดตรวจ/จุดสกัด ฐาน ชคต.ศาลาใหม่ ม.1 บ้านโคกมะเฟือง อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ก่อนคนร้ายอาศัยความมืดหลบหนีไปทางซอยศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงทะเล จังหวัดนราธิวาส โดยคนร้ายไม่ทราบจำนวนก่อเหตุใช้รถยนต์ Toyota Yaris สีดำ บรรทุกวัตถุระเบิด ขับเข้าพุ่งชนแนวกระสอบทรายบริเวณดังกล่าว ก่อนคนร้ายอาศัยความมืดหลบหนีไปทางซอยศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงทะเล จังหวัดนราธิวาส แรงระเบิดส่งผลให้เจ้าหน้าที่อาสาสมัคร (อส.) ที่ปฏิบัติหน้าที่ประจำจุดได้รับบาดเจ็บ 6 นาย ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ในฐานได้ยิงตอบโต้เพื่อสกัดกั้นเส้นทางของคนร้าย หลังเกิดเหตุ พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 ผอ.รมน.ภาค 4 สั่งการเร่งด่วนให้หน่วยกำลังในพื้นที่ปฏิบัติตามแผนสกัดกั้น ประสานทุกภาคส่วนร่วมปิดล้อมตรวจสอบเส้นทาง […]

รองแม่ทัพภาค 2 โพสต์เล่าที่มาปัญหา “ช่องอานม้า”

21 ส.ค. – รองแม่ทัพภาค 2 โพสต์เล่าที่มาปัญหา ‘ช่องอานม้า’ เป็นบทเรียนของไทย ชี้ความเพิกเฉยต่อประเด็นความมั่นคง ส่งผลให้เกิดปัญหาใหญ่ระยะยาว พลตรีณัฏฐ์ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 โพสต์เล่าเกี่ยวกับพื้นที่ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน ว่าความจริงมีหนึ่งเดียว โดยช่องอานม้าเป็นช่องเขาลักษณะคล้ายอานม้า เป็นช่องทางธรรมชาติใช้ชักลากไม้นำเข้าจากกัมพูชา ห้วงสงครามกลางเมืองชาวกัมพูชาได้หนีภัยสู้รบเข้ามา ไทยได้เอื้อเฟื้อ ตั้งศูนย์อพยพตามหลักมนุษยธรรม โดยมีหน่วยงานสหประชาชาติอำนวยการ หลังการสู้รบ ได้ส่งคืนผู้อพยพกลับประเทศ แต่มีส่วนหนึ่งยังคงปักหลักตั้งถิ่นฐานไม่ยอมกลับ ด้วยหลักมนุษยธรรมที่สากลนำมากล่าวอ้างและความไม่เด็ดขาดของเรา ทำให้ไม่สามารถผลักดันกลุ่มคนเหล่านี้ออกจากพื้นที่ได้หมดและยืดเยื้อจนเป็นปัญหาถึงปัจจุบัน ปี 2542 ไทยและกัมพูชา เห็นชอบเปิดช่องอานม้าเป็นจุดผ่อนปรนเพื่อการค้า กำหนดให้ตลาดฝั่งกัมพูชาอยู่ชุมชนเดิม แต่กัมพูชาจับจองพื้นที่ขยายชุมชนจาก 30 หลังเป็นกว่า 100 หลัง ขณะที่ตลาดฝั่งไทยกลับลึกเข้ามาจากแนวเขตแดน 300 เมตร ปี 2554 ในขณะมีข้อขัดแย้งพื้นที่เขาพระวิหาร กัมพูชาใช้ห้วงเวลาที่เราตรึงการรบแอบสร้างอนุสาวรีย์ตาอม และปรับปรุงมาเรื่อยๆ จากแบบชั่วคราว จนเป็นแบบถาวรและขยายบ้านเรือน ฝ่ายทหารได้พยายามแก้ไขด้วยการเจรจาและประท้วง ผ่านกลไกทางทหารและกระทรวงการต่างประเทศ รวม 65 ครั้ง แต่ฝ่ายกัมพูชาเพิกเฉย ซึ่งสร้างความอึดอัดแก่ทหารในพื้นที่เป็นอย่างมาก […]