สำนักข่าวไทย 30 พย..-กรมอนามัย ตั้งเป้าปี’ 63 ยุติการติดเชื้อเอชไอวีในทารกแรกเกิดต่ำกว่าร้อยละ 1พร้อมเน้นการเข้ารับการบริการปรึกษาแบบคู่เพื่อตรวจหาการติดเชื้อเอชไอวีสำหรับ หญิงตั้งครรภ์และสามี (Couple counseling)
แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า กรมอนามัยได้วางแผนการดำเนินงาน การยุติการถ่ายทอดเชื้อเอชไอวีและซิฟิลิสจากแม่สู่ลูก โดยตั้งเป้าให้ลดลงต่ำกว่าร้อยละ 1 ในปี 2563 ภายใต้การสนับสนุนให้สถานบริการสาธารณสุขทุกเครือข่ายทั่วประเทศ จัดบริการ ปรึกษาแบบคู่ (Couple counseling) เพื่อตรวจหาการติดเชื้อเอชไอวีสำหรับหญิงตั้งครรภ์และสามี // การตรวจหาเชื้อเอชไอวีแก่หญิงตั้งครรภ์ และสามีอย่างมีคุณภาพมากกว่าร้อยละ 60 และเก็บผลการตรวจเป็นความลับอย่างเคร่งครัด โดยแจ้งให้ทราบเฉพาะบุคคลและผู้ที่ได้รับการตรวจหาเชื้อเอชไอวีอนุญาตเท่านั้น
สำหรับหญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อเอชไอวีจะได้รับการรักษา ด้วยยาต้านไวรัสที่มีฤทธิ์สูง (Highly Active Antiretroviral Therapy: HAART) เพื่อป้องกันการถ่ายทอดเชื้อเอชไอวีจากแม่สู่ลูก เด็กที่เกิดจากแม่ที่ติดเชื้อเอชไอวีจะได้รับยาต้านไวรัสเมื่อแรกเกิด อีกทั้งได้รับนมผสมสำหรับเลี้ยงทารก และได้รับการตรวจวินิจฉัยหา การติดเชื้อเอชไอวีตามมาตรฐานการดูแลรักษาของกระทรวง การส่งเสริมสุขภาพและการติดตามการดูแลรักษาอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ผลสำเร็จของการดำเนินงานที่ผ่านมา ประเทศไทยได้รับรางวัลจากองค์การอนามัยโลก ในปี 2559 ที่สามารถลดการถ่ายทอดเชื้อเอชไอวีจากแม่สู่ลูกต่ำกว่าร้อยละ 2 และสามารถที่รักษาคุณภาพการดำเนินงาน โดยได้รับการประกาศรับรองคุณภาพต่อเนื่องในเวทีการประชุม Global validation Advisory committee ที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ใ ซึ่งเป็นเครื่องหมายว่าประเทศไทยจะสามารถยุติเอดส์ จากแม่สู่ลูกได้ภายในปี 2573 ตามแผนยุทธศาสตร์แห่งชาติในการป้องกันและแก้ปัญหาเอดส์ นอกจากนี้ กรมอนามัยได้ดำเนินร่วมกับภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐ ภาคประชาสังคม รวมถึงหน่วยงานสนับสนุนทางด้านวิชาการระดับสากล เน้นการป้องกันการติดเชื้อในหญิงวัยเจริญพันธุ์ การดูแลรักษาที่เป็นมิตร การใช้ข้อมูลและความรู้ในการพัฒนางาน ส่งผลให้ปี 2561 กลุ่มเป้าหมายได้สิทธิในการดูแลด้านการตรวจวินิจฉัยการติดเชื้อทารกแบบรวดเร็ว (Early Infant Diagnosis ) เมื่อแรกเกิด 1-2 เดือน และการได้รับยาต้านไวรัสเพิ่มเติมในหญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อเอชไอวีที่มาฝากครรภ์ช้า ทำให้อัตราการถ่ายทอดเชื้อเอชไอวีจากแม่สู่ลูกลดลงในปี 2560 ร้อยละ 1.79 และในปี 2561 มีร้อยละ 1.68” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว.- สำนักข่าวไทย