“อุตตม” ระบุต่างชาติมองไทยเอื้อต่อการลงทุนระยะยาว

กรุงเทพฯ 30 พ.ย.- “อุตตม” ระบุหลังเปลี่ยนแปลงการเมือง 3 ปี ต่างชาติมองไทยเอื้อต่อการลงทุนระยะยาวและต้องการเข้ามาร่วม  ท่ามกลางสงครามการค้าที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ส่วนของขวัญปีใหม่ที่จะมอบให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีกระทรวงอุตสาหกรรมยังอยู่ระหว่างเตรียมการ


นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวปาฐกถาพิเศษ “ก้าวข้ามอุปสรรคด้านการเงินสำหรับ SMEs ยุค 4.0”  โดยระบุว่าหลังการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งใหญ่ 2 ปีที่ผ่านมาความชัดเจนด้านต่าง ๆ ของประเทศไทยในสายตาทั่วโลกยังไม่ชัดเจน แต่ขณะนี้ 3 ปี หลังประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งใหญ่  ประเทศไทยมีความชัดเจนด้านต่าง ๆ  และมีเป้าหมายชัดเจนว่าจะเป็นประเทศที่มีความสงบและทำการค้าได้สมัยใหม่และสามารถเติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งท่ามกลางสงครามการค้าที่เกิดขึ้น นักลงทุนทั่วโลกเห็นว่าประเทศไทยเป็นประเทศอันดับต้น ๆ ในเอเซียที่เอื้อต่อการลงทุนระยะยาวได้และต้องการเข้ามาร่วมกับไทย แต่ช่วงระยะเวลานี้จำกัด ดังนั้น กระทรวงอุตสาหกรรมและหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนจะต้องช่วยกันบูรณาการความช่วยระดับเทคโนโลยีให้กับเอสเอ็มอีอย่างเหมาะสม จนสามารถเพิ่มศักยภาพช่วยลดต้นทุนการผลิตได้จริง ไม่ใช่นำเทคโนโลยีเข้ามาใช้แล้วกลายเป็นการเพิ่มต้นทุน ทั้งนี้ ขอให้เอสเอ็มอีไทยอย่าตกขบวน

นายอุตตม กล่าวว่า ด้านการสนับสนุนเอสเอ็มอี กระทรวงอุตสาหกรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและภาคเอกชนจะร่วมกันบูรณาสนับสนุนอย่างครบวงจร โดยจะช่วยเหลือตั้งแต่คนตัวเล็ก  ไมโครเอสเอ็มอีขึ้นมา ซึ่งกลุ่มนี้มีจำนวนมากจะต้องได้รับความช่วยเหลือเสริมความแกร่งของธุรกิจ เสริมความรู้ด้านต่าง ๆ เช่น การเงิน บัญชี และอื่น ๆ เพื่อให้สามารถเติบโตได้อย่างทั่วถึงจนกิจการเติบโตจนสามารถนำเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้ต่อไป


ด้านกระทรวงอุตสาหกรรมมีศูนย์ปฎิรูปอุตสาหกรรมหรือศูนย์ ITC 13 ศูนย์หลักทั่วประเทศที่ได้รับความช่วยเหลือเครื่องมือต่าง ๆ จากภาคเอกชน เช่น เครื่องพิมพ์ 3 มิติ และยังมีระบบการผลิตที่ออกแบบมาสำหรับเอสเอ็มอีโดยเฉพาะ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีสามารถเข้าไปทดลองใช้ได้บริการได้ กรุงเทพฯ อยู่ที่กล้วยน้ำไท โดยเข้ามาทดลอง เช่น ผลิตสินค้าต้นแบบเพียงไม่กี่ชิ้นแล้วนำไปทดลองตลาดก่อนโดยไม่ต้องจ้างคนอื่นผลิต และเมื่อแน่ใจว่า สินค้าได้รับการตอบรับจากตลาดจึงเริ่มต้นอย่างจริงจังต่อไป

นายอุตตม แนะนำให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย ซึ่งมีมากถึงประมาณ  5.5 ล้านราย ตั้งแต่กลุ่มไมโครเอสเอ็มอี ว่า  แหล่งเงินทุนเอสเอ็มอีเข้าถึงได้แน่ แต่จะต้องมีเป้าหมาย มีแผนนำเงินไปพัฒนากิจการยกระดับขีดความสามารถในการทำธุรกิจและยกระดับการเข้าถึงเทคโนโลยี การพัฒนาคน เมื่อมีความชัดเจนในแผนและเดินหน้าตามแผนก็จะเติบโตจนถึงขั้นที่จะนำกิจการเข้าระดมทุนด้วยการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้ต่อไป

นายอุตตม กล่าวด้วยว่า ขณะนี้กระทรวงอุตสาหกรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างเตรียมการของขวัญปีใหม่สำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ส่วนจะทันนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในการประชุม ครม.สัญจรที่จังหวัดหนองคายในช่วงเดือนธันวาคมนี้หรือไม่นั้น ขอให้รอติดตามต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มพาลูก-เมียกลับจากฉลองวันเกิด รถยางระเบิดเสียหลักชนเสาไฟ ดับ 3 สาหัส 2

พ่อแม่ลูก 5 คน กลับจากฉลองวันเกิด รถกระบะยางระเบิดเสียหลักหมุนชนอัดเสาไฟฟ้า พ่อและแม่พร้อมลูกคนโตเสียชีวิตคาที่ ส่วนลูกคนกลางและคนเล็กอาการสาหัส

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

ข่าวแนะนำ

ผู้เสียหาย 70 ราย ร้องสภาทนายฯ ถูกหอพักโหดเอาเปรียบ

ผู้เสียหาย 70 คน เข้าร้องสภาทนายความช่วยเหลือ หลังถูกเจ้าของหอพัก ย่านรังสิต เอาเปรียบ ข่มขู่กักขัง-ยึดทรัพย์ ด้านนายกสภาทนายความ ตั้งคณะทำงานช่วยเหลือทางคดี ทั้งแพ่ง-อาญา เชื่อมีผู้เสียหายเพิ่มอีก

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษ 3 แพทย์ เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษแพทย์ 3 ท่าน เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ โดยว่ากล่าวตักเตือน 1 ท่าน พักใช้ใบประกอบวิชาชีพ 2 ท่าน เผยมติที่ประชุมมีความเห็น “เป็นเสียงส่วนใหญ่มาก มาก มาก”

นายกฯ มาเลเซีย ต่อสายคุย “แพทองธาร” ติดตามสถานการณ์ใต้

นายกฯ มาเลเซีย ต่อสายคุย “แพทองธาร” ติดตามสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนใต้ แสดงความพร้อมร่วมมือกับไทยเพื่อยุติความรุนแรง พร้อมใช้เวทีอาเซียนสนับสนุนความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างสมาชิกมากขึ้น