ปปช.เปิดบัญชีทรัพย์สิน 3 อดีต สนช.

สำนักงาน ป.ป.ช. 27 พ.ย. – ป.ป.ช.เปิดบัญชีทรัพย์สิน 3 อดีตสนช. พ้นจากตำแหน่ง พบ “พล.อ.ยุวนัฏ” มีทรัพย์สินกว่า 310 ล้านบาท มีหนี้สิน 73 ล้านบาท ขณะที่ “พล.อ.เฉลิมชัย”  มีทรัพย์สิน 40 ล้าน  “อำพน กิตติอำพน” มีทรัพย์สิน 221 ล้านบาท


สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยบัญชีแสดงทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ของตำแหน่งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กรณีพ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2561 จำนวน 2 ราย ประกอบด้วย นายอำพน กิตติอำพน   พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท และ กรณีพ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2561 คือ พล.อ.ยุวนัฏ สุริยกุล ณ อยุธยา 

นายอำพน กิตติอำพน และ นางกษมน กิตติอำพน คู่สมรส มีทรัพย์สินรวมทั้งสิ้น 221,754,616.53 บาท ไม่มีหนี้สิน แยกทรัพย์สินของ นายอำพน เป็นเงินฝาก 27,257,648.35 บาท , เงินลงทุน 59,942,247.70 บาท ,ที่ดิน 7แปลงพร้อมบ้าน 1 หลัง รวม 38,437,740 บาท ,โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง เป็นคอนโด 2 หลัง 7,086,400 บาท ยานพาหนะ 6,275,000 บาท ซึ่งนายอำพน ไม่ได้แจ้งทรัพย์สินที่มีมูลค่ามากกว่าสองแสนบาทไว้  ส่วนนางกษมน คู่สมรส มีทรัพย์สิน 82,755,580.48 บาท  


ทั้งนี้เมื่อเปรียบกับกรณีเข้ารับตำแหน่งเมื่อ สิงหาคม 2557 แจ้งว่านายอำพนและคู่สมรสมีทรัพย์สินรวม 198,528,815 บาท มีหนี้สิน 2,100,100 บาท โดยมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สินจำนวน 196,428,815 บาท เท่ากับว่านายอำพนและคู่สมรสมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 25,325,801 บาท 

ขณะที่พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท และนางเบญจวรรณ สิทธิสาท คู่สมรส มีทรัพย์สินรวม 40,893,718.41 บาท ไม่มีหนี้สิน แยกทรัพย์สินของ พล.อ.เฉลิมชัย เป็นเงินฝาก 2,328,448.54 บาท เงินลงทุน 6,573,616.83 บาท สิทธิและสัมปทาน 700,000 บาท และทรัพย์สินอื่น ๆ ราคาตั้งแต่ 2 แสนบาทขึ้นไป เป็นปืนพก 4 กระบอก และนาฬิกาข้อมือ 5 เรือน รวมมูลค่า  945,000 บาท  

ส่วนนางเบญจวรรณ คู่สมรส มีทรัพย์สินรวม 30,346,653.04 บาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเงินลงทุน 9,053,841.97 บาท และทรัพย์สินอื่น ๆ ราคาตั้งแต่ 2 แสนบาทขึ้นไป ส่วนใหญ่เป็นทองคำ,เครื่องประดับ  สร้อยคอ  จี้เพชร รวมมูลค่า 4,758,500 บาท


เมื่อเปรียบกับกรณีเข้ารับตำแหน่งเมื่อ ตุลาคม 2557 แจ้งว่า พล.อ.เฉลิมชัยและคู่สมรส มีทรัพย์สินรวม 29,917,197 บาทไม่มีหนี้สิน เท่ากับว่า พล.อ.เฉลิมชัย และคู่สมรสมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 10,976,521 บาท ทั้งนี้นางเบญจวรรณยังได้ทำหมายเหตุไว้ในเอกสารประกอบด้วยว่าได้รับเงินกรณีลาออกจากธนาคารธนชาตเมื่อปี 2559 จำนวน 5,287,934 บาท

ส่วนพล.อ.ยุวนัฏ สุริยกุล ณ อยุธยา และนางนันทพร สุริยกุล ณ อยุธยา คู่สมรส มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 310,479,037.63 บาท เป็นทรัพย์สินรวม 345,876,743.37 บาท หนี้สิน 35,397,705 โดย พล.อ.ยุวนัฏ มีเงินสด 1,000,000 บาท เงินฝาก 659,372.72 บาท เงินลงทุน 8,470 บาท และมีทรัพย์สินอื่นราคาตั้งแต่สองแสนบาทขึ้นไป  53,470,000 บาท ซึ่งทรัพย์สินที่น่าสนใจส่วนใหญ่เป็นพระเครื่อง อาทิ พระพุทธรูปและพระเครื่องชื่อดัง รวม 179 รายการ เช่น สมเด็จวัดสระเกศ รุ่นแรก หลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม สมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่  หลวงปู่แหวนรุ่นเราสู้ พระจิตรลดา พระผงสุพรรณ สมเด็จบางขุนพรหมพิมพ์เส้นด้าย พระสมเด็จเกศไชโย หลวงปู่ทวดพิมพ์ (พ.ศ.2487) ตะกรุดหลวงปู่สุขวัดปากคลอง จ.ชัยนาท  ส่วนใหญ่แจ้งราคาไว้ที่หลักหมื่น นอกจากนั้นยังมีนาฬิกาหรู 6 เรือน

ขณะที่ นางนันทพร คู่สมรส มีทรัพย์สินจำนวน 290,738,900 บาท เป็นเงิน 2,000,000 บาท เงินฝาก 2,046,146.39 บาท เงินลงทุน 195,991,754.26 บาท ที่ดิน 34,500,000 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 800,000 บาท ทรัพย์สินตั้งแต่สองแสนบาทขึ้นไป 55,401,000 บาท ส่วนใหญ่เป็น เครื่องเพชร เครื่องทอง เครื่องประดับทั้งมรกต ทับทิม สร้อยเพชร กำไลทอง แหวน ต่างหูทับทิมประดับเพชร แหวนเพชร 3 กะรัต บุษราคัมรวม 94 กะรัต จำนวน 139 เม็ด มูลค่า 94,000 บาท บุษราคัมทรง 4 เหลี่ยม รวม 25.9 กะรัต จำนวน 55 เม็ด มูลค่า 25,000 บาท

ทั้งนี้เมื่อเมื่อเปรียบกับกรณีเข้ารับตำแหน่งเมื่อ สิงหาคม 2557 แจ้งว่า พล.อ.ยุวนัฏและคู่สมรสมีทรัพย์สินรวม 449,344,380 บาท หนี้สิน 108,865,119 บาท เท่ากับว่า พล.อ.ยุวนัฏและคู่สมรสมีทรัพย์สินลดลง 138,865,343 บาท หนี้สินลดลง 73,469,414 บาท.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี

ชลบุรี 26 มิ.ย. – คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท ห้างดังกลางเมืองชลบุรี ระหว่างหนีเจอตำรวจนอกเครื่องแบบ คนร้ายยิงปืนใส่ 1 นัด โดนหมวกกันน็อก ตำรวจหลบทันแย่งปืนได้ แต่คนร้ายวิ่งหลบหนี คนร้ายชายสวมเสื้อแขนยาวสีเทาดำสวมหมวกสีชมพูใส่แมสก์ปิดบังใบหน้ากางเกงขายาว ทำทีเข้ามาซื้อทองภายในร้านทอง ในห้างสรรสินค้าย่านบ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี ก่อนจะชักปืนออกมาจี้บังคับพนักงานให้หยิบ สร้อยคอทองคำรูปพรรณหนัก 10 บาท จำนวน 2 เส้น และหนัก 9 บาท จำนวน 2 เส้น ก่อนจะเอาทองใส่กระเป๋าแล้วรีบวิ่งหลบหนีออกจากห้าง ระหว่างหลบหนี มีตำรววิ่งไล่ติดตามคนร้าย และตำรวจนอกเครื่องแบบที่มาทำธุระเห็นเหตุการณ์ได้เข้าไปจับกุม แต่ถูกผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่สุดท้ายสามารถแย่งปืนจากคนร้ายเอาไว้ได้ พนักงานร้านทอง เล่าว่าตอนเกิดเหตุเป็นช่วงกำลังจัดร้านเพราะเพิ่งเปิดมีผู้ก่อเหตุสวมหมวกสีชมพู ใส่แมสก์ปิดบังใบหน้าเข้ามาขอดูทองหนัก 10 บาท จึงบอกให้ถอดหมวกและแมสก์ แต่พูดยังไม่ทันขาดคำผู้ก่อเหตุได้ชักปืนออกมาพร้อมกับจี้บังคับให้เอาทองหนัก 10 บาท มาให้สองเส้นและสร้อยคอหนัก 9 บาทอีกสองเส้น รวมเป็น 4 เส้น น้ำหนักรวม […]

ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone สอยร่วง 4 ลำโดรนไม่ทราบฝ่าย

กองทัพเรือ 26 มิ.ย.-ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone ตอบโต้โดรนไม่ทราบฝ่ายที่บินเหนือฐานชายแดนจันทบุรีช่วงต้นสัปดาห์ สอยร่วง 4 ลำ พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ รองโฆษกกองทัพเรือ ระบุถึงกรณี จนท.เฝ้าตรวจการณ์นาวิกโยธิน ใช้ Anti-Drone ตัดสัญญาณโดรน ไม่ทราบฝ่ายตก 4 ลำ ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังจันทบุรีตราด ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า โดรนไม่ทราบฝ่าย บินเหนือฐาน ชายแดนจันทบุรี ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ใช้ Anti-Drone ยิงตกไป 4 ลำ ทั้งนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นหลายวันแล้ว และเป็นไปตามที่ได้ชี้แจง ถึงแนวทางปฏิบัติของกองทัพเรือไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยกองทัพเรือมีมาตรการควบคุมการใช้โดรนบริเวณแนวชายแดน และแจ้งเตือนหากมีโดรนเข้ามาในเขตหวงห้ามก็จะใช้มาตรการต่อต้านโดรน.-313.-สำนักข่าวไทย

สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน

กรุงเทพฯ 25 มิ.ย. – เลขาธิการ กพฐ. สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ พร้อมตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงทันที เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏบนสื่อสังคมออนไลน์ กรณีโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ จัดอาหารมื้อเช้าให้นักเรียนเป็นข้าว พะโล้ไก่ กับไข่ต้ม 1 ใบนั้น สพฐ.ได้รับทราบเหตุและไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งการให้แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงตามขั้นตอนโดยทันที เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ครบถ้วนและเกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย พร้อมทั้งให้ผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าวไปปฏิบัติหน้าที่ยังสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ เป็นการชั่วคราวจนกว่ากระบวนการจะเสร็จสิ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาด้านการบริหารภายในสถานศึกษา โดย สพฐ. จะกำกับติดตามอย่างใกล้ชิด พร้อมกันนี้ได้กำชับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกแห่งให้กำกับติดตามสถานศึกษาในสังกัดให้ดำเนินการโครงการต่างๆ ตามระเบียบอย่างเคร่งครัด ด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อประโยชน์สูงสุดของนักเรียนและครูต่อไป.-417-สำนักข่าวไทย

เลื่อน! “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ลงทะเบียน 1 ก.ค.

25 มิ.ย. – เลื่อน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” 5 แสนสิทธิ์ ประชาชนเริ่มลงทะเบียน 1 ก.ค. เวลา 08.00 น. เดินทางได้ตั้งแต่ 4 ก.ค. – 31 ต.ค.68 เมื่อวานนี้ (24 มิ.ย.) นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่าครม. มีมติเห็นชอบโครงการและรายการกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวน 110,000 ล้านบาท จากกรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท หนึ่งในนั้นคือโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง วงเงิน 1,750 ล้านบาท โดยมีการแจ้งว่า จะเริ่มเปิดลงทะเบียนให้ประชาชนเข้าร่วมโครงการ 5 แสนสิทธิ์ เที่ยงคืนที่ผ่านมา และสามารถเที่ยวได้ 1 ก.ค.เป็นต้นไป แต่ปรากฏว่า มีการแจ้งเลื่อนเมื่อคืนนี้เช่นกัน โดย ผู้ว่าการ ททท. แจ้งว่าจะเปิดลงทะเบียนวันที่ 1 กรกฎาคม เวลา 08.00 น. […]

ข่าวแนะนำ

ฝนถล่มน้ำท่วมหลายพื้นที่ ส่งสัญญาณรับมือฤดูน้ำหลาก

เชียงราย 27 มิ.ย. – ชาวบ้านอย่างน้อย 4,000 ครอบครัวใน 5 อำเภอของเชียงราย เดือดร้อนหนักจากน้ำท่วม หลังฝนตกทั้งคืน โดยเฉพาะ อ.พญาเม็งราย วัดปริมาณฝนได้กว่า 300 มิลลิเมตร น้ำท่วมสูงเป็นวงกว้าง เจ้าหน้าที่ต้องเร่งอพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุออกจากบ้านเพื่อความปลอดภัย ล่าสุดแม้ระดับน้ำที่ท่วมหลายจุดเริ่มลดลงแล้ว แต่ยังต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง เพราะน้ำท่วมครั้งนี้เป็นเหมือนสัญญาณเตือนให้เตรียมรับมือฤดูน้ำหลากในปีนี้.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ คุยตรง “มาครง” หวังฝรั่งเศสประสานเอื้อเจรจาทวิภาคีไทย-กัมพูชา

กรุงเทพฯ 27 มิ.ย.- “นายกฯ แพทองธาร” หารือ “ปธน.มาครง” ทางโทรศัพท์ กระชับความสัมพันธ์ ยันให้ความสำคัญกับบทบาทศูนย์กลางของอาเซียนรับมืออาชญากรรมข้ามชาติ-ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ ย้ำ ไทยหนุนกลไกล JBC ทำงานเดินหน้าด้วยดี หวัง ฝรั่งเศส ประสานความร่วมมือ เอื้อเจรจาทวิภาคีไทย-กัมพูชา เมื่อเวลา 16.00 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้หารือทางโทรศัพท์กับนายเอมานูว์แอล มาครง (H.E. Mr. Emmanuel Macron) ประธานาธิบดีสาธารณรัฐฝรั่งเศส โดยนายกรัฐมนตรี และประธานาธิบดีมาครง แสดงความยินดีที่ได้พูดคุยอย่างเป็นทางการครั้งแรกนับตั้งแต่นายกรัฐมนตรีรับตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี ยืนยันความตั้งใจที่จะยกระดับความสัมพันธ์ไทย–ฝรั่งเศส สู่ความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์โดยเร็ว พร้อมแสดงความยินดีหากประธานาธิบดีมาครง จะเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ในห้วงที่เข้าร่วมการประชุมสุดยอดขององค์การระหว่างประเทศของกลุ่มประเทศที่ใช้ภาษาฝรั่งเศส (Organisation Internationale de la Francophonie : OIF) ที่กัมพูชาในปีหน้า ซึ่งประธานาธิบดีฝรั่งเศสได้เชิญนายกรัฐมนตรีเยือนฝรั่งเศสอย่างเป็นทางการ รวมถึงเชิญเข้าร่วมการประชุม Paris Peace Forum ที่ฝรั่งเศส เช่นกัน […]

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

“ภูมิธรรม” เผยวงถก สมช. ยังคุมเข้มมาตรการชายแดนกัมพูชา

ทำเนียบ 27 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” เผยที่ประชุม สมช. ยังคุมเข้มมาตรการชายแดนกับกัมพูชา แต่ไม่เพิ่มมาตรการ เชื่อสถานการณ์จะดีขึ้น ความรุนแรงเป็นสิ่งสุดท้ายในการแก้ปัญหา นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ว่าวันนี้มีการพิจารณาทบทวนมาตรการต่างๆ ในการดูแลพื้นที่ชายแดนมั้งหมด ยังยืนยันปัญหาชายแดนไทยกัมพูชา ยังใช้มาตรการเดิมเพราะเป็นมาตรการที่ยังใช้ได้ และยืนยันจะใช้สันติวิธีและพยายามหลีกเลี่ยงผลกระทบ ไม่ให้ประชาชนสองฝ่ายได้รับความเดือดร้อน นอกจากนี้ยังมีมาตรการสนับสนุนเจรจาของทั้งสองฝ่าย ส่วนการปิดด่านผ่านแดง ยังอยู่ใน ขั้นที่หนึ่งและสอง คือการจำกัดเวลาเข้าออก และการอนุญาตตัวบุคคล สิ่งที่กัมพูชาประกาศมาตรการใดๆ ออกมา โดยเฉพาะเรื่องการปิดด่านต่างๆ ถือเป็นเหตุและผลของกัมพูชา แต่ของไทยยังยืนยันในความจริงใจที่จะแก้ไขปัญหา ส่วนมากมาตรการ seal stop safe อยากให้กลับไปทบทวน ว่า สิ่งที่ดำเนินการไป 3-4 เดือน ให้เร่งดำเนินการประเมินผล ว่ายังต้องคงมาตรการตัดน้ำ ตัดไฟฟ้า อยู่หรือไม่เพราะขณะนี้ชายแดน ส่วนที่เป็นปัญหาอยู่เดิมเริ่มลดน้อยลง แต่ก็ยังมีบางส่วนที่เข้าไปลึกกว่านั้น ก็ต้องดูว่าจะจัดการอย่างไร โดยมอบหมายให้คณะเล็กไปพิจารณาดำเนินการ ส่วนที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เสนอให้ยกเลิกการจัดกิจกรรม ครบรอบจากสถาปนาความสัมพันธ์ไทยกัมพูชา นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่ได้เสนอเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุม […]