นายกฯ สั่งตั้งกก. 2 ชุด ตรวจสอบบ่อน-แรงงานต่างด้าว

กรุงเทพฯ 15 ม.ค.-นายกฯ สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ 2 ชุด เอาผิดขบวนการลอบเปิด “บ่อนพนัน” และการปล่อยให้มีการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย ต้นตอการระบาดโควิด มอบ “ชาญเชาน์ ไชยานุกิจ” อดีตรองปลัดกระทรวงยุติธรรม และ “ภักดี โพธิศิริ” อดีตกรรมการปปช.เป็นประธาน


เมื่อวานนี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลงนามในคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี 2 ฉบับ คือ ฉบับที่ 9/2564 ว่าด้วยการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำความผิดกรณีสถานที่เล่นการพนันเป็นเหตุให้เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มอบให้นายชาญเชาน์ ไชยานุกิจ อดีตรองปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานกรรมการ มีเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจรติในภาครัฐ ,รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ที่ได้รับมอบหมาย, จเรตำรวจที่ได้รับมอบหมาย, รองอธิบดีกรมการปกครอง, รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นกรรมการ

และฉบับที่ 8/2564 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำความผิดกรณีการเข้าเมืองผิดกฎหมาย เป็นเหตุให้เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยให้เหตุผลในการแต่งตั้งว่า การหลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมายและไม่ตรวจคัดกรอง บางครั้งมีเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือ ทำเป็นขบวนการระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐ นายจ้าง นายหน้าจัดหาแรงงาน ผู้ประกอบการขนส่งและบุคคลอื่น ซึ่งเป็นความผิดกฎหมายหลายฉบับ ทั้งนี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจำเป็นต้องตั้งกรรมการตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่ และติดตามการทำงานทั้งระบบ รวมถึงประสานงาน ให้คำแนะนำแก่เจ้าหน้าที่เพื่อป้องกัน ปราบปราม นำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ


สำหรับกรรมการที่แต่งตั้ง ให้นายภักดี โพธิศิริ อดีตกรรมการปปช. เป็นประธานกรรมการ และมีกรรมการ อาทิ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ย.ป., รองปลัดกระทรวงกลาโหม, รองปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ, รองเลขาธิการ ปปง., รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ, รองอธิบดีกรมการจัดหางาน, รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ

ทั้งนี้ในคำสั่งดังกล่าวกำหนดอำนาจให้ ด้วยว่า ตรวจสอบการกระทำผิดเกี่ยวกับการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย, การเคลื่อนย้ายเดินทางจนเป็นเหตุให้โควิด-19 ระบาด, ให้คำแนะนำกับเจ้าหน้าที่ต่อการนำผู้กระทำผิด ทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ แรงงานข้ามชาติ หรือแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย นายจ้าง นายหน้าจัดหางาน ผู้ประกอบการขนส่ง หรือบุคคลอื่นใดมาลงโทษ พร้อมกับเสนอมาตรการป้องกันหรือดำเนินการอื่นที่เหมาะสม.-สำนักข่าวไทย

\


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 20 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ฝุ่น กทม.

คนกรุงจมฝุ่นต่อเนื่อง เช้านี้อยู่ระดับสีแดง 21 พื้นที่

กทม. อ่วมหนัก ฝุ่น PM 2.5 พุ่งต่อเนื่อง อยู่ระดับสีแดง ผลกระทบต่อสุขภาพ 21 พื้นที่ ย้ำสวมหน้ากากอนามัยขณะอยู่นอกอาคาร และงดกิจกรรมกลางแจ้ง