ธปท.จับตาเศรษฐกิจไทยปี 62 ผลกระทบสงครามการค้า-ดอกเบี้ยขึ้น

กรุงเทพ ฯ 22 พ.ย.  – ผู้ว่าการ ธปท.ชี้จับตาเศรษฐกิจไทยปี 62 ถูกกระทบจากสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ และแนวโน้มดอกเบี้ยโลกปรับขึ้น ด้านนักเศรษฐศาสตร์คาดเศรษฐกิจไทยปีนี้โตไม่ถึงร้อยละ 4.5 


ในงานสัมมนาประจำปีเป็นครั้งที่ 31 ของสมาคมเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งเป็นการรวบรวมนักวิชาการ นักเศรษฐศาสตร์ มาร่วมงานสัมมนาเป็นจำนวนมาก ในหัวข้อ “ยุคปฏิวัติข้อมูลและเทคโนโลยี กับก้าวต่อไปของประเทศไทย” นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)  กล่าวว่า แนวโน้มเศรษฐกิจไทยยังคงต้องเฝ้าระวังจากบรรยากาศเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว จากผลกระทบของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนที่มีทิศทางรุนแรงขึ้น แม้ว่าตัวเลขมูลค่าการส่งออกตลาดเอเชีย อาจจะไม่ได้ลดลงมาก เนื่องจากมีการสั่งซื้อสินค้ามาเเล้วล่วงหน้า แต่ผลกระทบจะเห็นอย่างชัดเจนต้นปี 2562 ซึ่งผลที่จะเกิดขึ้นกับประเทศไทยมีทั้งผลบวกและผลลบ เพราะเมื่อสหรัฐอเมริกาตั้งกำแพงภาษีสินค้าสูงขึ้น ผลลบจะเกิดขึ้นกับสินค้าจีน เช่น เหล็ก อลูมิเนียม จะส่งไปขายที่สหรัฐไม่ได้ จำเป็นต้องหาตลาดใหม่ด้วยการกระจายแหล่งผลิตไปประเทศอื่น ซึ่งอาจจะเป็นผลดีต่อไทย โดยเฉพาะเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกหรืออีอีซี ส่วนภาคตลาดเงินตลาดทุน ผู้ประกอบการจะต้องมีการบริหารสภาพคล่องและต้นทุนการทำธุรกิจให้ดี เพราะที่ผ่านมาเศรษฐกิจโลกที่เติบโตนั้นมาจากการก่อหนี้ที่สูง ทั้งภาครัฐและเอกชน และตอนนี้ธนาคารกลางประเทศหลัก เช่น ยุโรป ญี่ปุ่น ได้เริ่มส่งสัญญาณการดำเนินนโยบายทางการเงินแบบปกติแล้ว ส่งผลให้ดอกเบี้ยโลกเริ่มปรับตัวสูงขึ้น ดังนั้น จึงต้องมีความระมัดระวังเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจไทยยังคงเข้มแข็ง มีกันชนที่ดี ทุนสำรองระหว่างประเทศสูง การก่อหนี้ต่างประเทศต่ำ ส่งผลให้ไทยเป็นประเทศเดียวในภูมิภาคอาเซียนที่ยังไม่ปรับดอกเบี้ยนโยบาย 

นายพิพัฒน์ เหลืองนฤมิตรชัย ผู้ช่วยกรรมการการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ภัทร จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่าสหรัฐอเมริกาส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องขึ้นอย่างชัดเจนใกล้ร้อยละ 3 จากปัจจุบันร้อยละ 2.25 โดยคาดว่าจะปรับขึ้น 3 – 4 ครั้ง ภายใน 12 เดือน ซึ่งจะส่งผลต่อเศรษฐกิจประเทศเกิดใหม่ มีต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงที่ต้องจับตาใกล้ชิด คือ ข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน ว่าจะมีการเจรจาเพื่อหาข้อยุติหรือไม่ ซึ่งความไม่แน่นอนดังกล่าวได้ส่งผลกระทบบริษัทใหญ่ ๆ ที่กำลังจะตัดสินใจย้ายฐานการผลิตอย่างแน่นอน ส่วนเศรษฐกิจไทยที่เติบโตชะลอลงในไตรมาส 3 ที่ร้อยละ 3.3 เป็นผลมาจากภาคการส่งออกและการท่องเที่ยวที่เติบโตชะลอลง จึงมองว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้อาจจะเติบโตได้ที่ร้อยละ 4 เล็กน้อย สวนทางกับที่ธนาคารโลกประเมินไว้ว่าไทยจะโตได้ร้อยละ 4.5.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร