กนง.เตรียมปรับจีดีพี-ส่งออก ลดลงเล็กน้อย

กรุงเทพฯ 19 พ.ย.  ผู้ว่าการ ธปท. เผย กนง.เตรียมทบทวนจีดีพี-ส่งออก ปี 2561 และ 2562 ใหม่ มีแนวโน้มขยายตัวลดลงเล็กน้อย ผลกระทบจากสงครามการค้า


นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 19 ธันวาคมนี้ กนง.เตรียมทบทวนอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยปี 2561 และ 2562 ใหม่ จากที่คาดการณ์ว่าปีนี้เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวร้อยละ 4.4 และปี 2562 ขยายตัวร้อยละ 4.2 เนื่องจากมีโอกาสที่เศรษฐกิจปีนี้จะขยายตัวลดลงเล็กน้อย แต่จะไม่แตกต่างจากที่ประมาณการไว้มาก โดย ธปท.ยังติดตามสถานการณ์ในช่วง 2 เดือนที่เหลือของปีนี้ โดยเฉพาะเศรษฐกิจโลกเติบโตไม่มากเท่ากับ 3-4 ปีที่ผ่านมา และยังมีปัจจัยเสี่ยงจากมาตรการกีดกันทางการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน ซึ่งเริ่มกระทบการส่งออกไทยเดือนกันยายนที่ติดลบร้อยละ 5.5 ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการส่งออกทองคำลดลง และผลกระทบจากประเทศคู่ค้า เช่น ญี่ปุ่น ไต้หวัน ที่มีภัยธรรมชาติ แต่เชื่อว่าการส่งออกเดือนตุลาคมจะดีขึ้น อย่างไรก็ตาม สงครามการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน ยังเป็นปัจจัยที่กดดันเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยต่อไป และยังวางใจไม่ได้ คาดว่าจะเห็นผลกระทบชัดเจนมากขึ้นในปีหน้า 

นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยเสี่ยงจากความผันผวนของตลาดเงินตลาดทุนโลก โดยเฉพาะประเทศเกิดใหม่ ซึ่งคาดว่าปีหน้าความผันผวนจะรุนแรงขึ้น เนื่องจากธนาคารกลางหลายประเทศปรับขึ้นดอกเบี้ยตามธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อลดการอ่อนค่าของอัตราแลกเปลี่ยน และจากการที่อัตราดอกเบี้ยต่ำเป็นเวลานาน ทำให้มีการก่อหนี้เพิ่มขึ้นทั้งโลก ทั้งหนี้ภาครัฐ ภาคเอกชน หนี้ครัวเรือน ซึ่งเมื่อต้นทุนและภาระหนี้เพิ่มขึ้น จะกระทบต่อฐานะของประเทศที่มีหนี้สูงให้อ่อนไหวได้ 


สำหรับประเทศไทย การที่เศรษฐกิจไทยเติบโตได้เกินร้อยละ 4 ติดต่อกันเป็นเวลา 2 ปี ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี สะท้อนภาพเศรษฐกิจที่แข็งแรง โดยเฉพาะเริ่มเห็นสัญญาณการลงทุนในประเทศและการบริโภคที่มีแนวโน้มดีขึ้น การจ้างงานภาคอุตสาหกรรมขยายตัวเพิ่มขึ้น ซึ่ง ธปท.คาดหวังว่าหลังการเลือกตั้งจะมีความต่อเนื่องในโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ หลังจากล่าช้าบางโครงการ เพราะหลายโครงการเริ่มเปิดประมูลแล้ว ซึ่งหากการลงทุนเดินหน้าได้ตามแผนที่วางไว้ ก็จะเกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ชัดเจนและส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจไทยระยะยาว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

ดีเอสไออนุมัติสืบสวนคดีแตงโม คาดตั้งชุดเริ่มสืบได้ 27 ม.ค.นี้

อธิบดีดีเอสไอ อนุมัติให้สืบสวนคดีแตงโม ว่ามีการบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมทางอาญาหรือไม่ และมีบุคคลหรือเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่ คาดเริ่มได้ 27 ม.ค.นี้

พ่อผู้ต้องหาชนไรเดอร์ กราบขอขมาครอบครัวผู้เสียชีวิต

พ่อผู้ต้องหาชนไรเดอร์ กราบขอขมาครอบครัวผู้เสียชีวิต เปิดใจกับสื่อ ลูกชายยังอยู่ในอาการช็อก เชื่อเสียใจและอยากมาขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต

นายกฯ สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ ร่วมประชุม WEF อวดผ้าไทยสู่สายตาโลก

นายกฯ สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ จากภาคใต้ ร่วมประชุม WEF อวดผ้าไทยสู่สายตาโลก หารือผู้นำและภาคเอกชนชั้นนำของโลก

กทม.จำกัดพื้นที่ชั้นใน ห้ามรถบรรทุกวิ่ง เริ่มคืนนี้!

ผู้ว่าฯ กทม. ติดตามสถานการณ์ฝุ่น กทม. คาดสุดสัปดาห์ระบายอากาศดีขึ้น พร้อมจำกัดพื้นที่ชั้นใน ห้ามวิ่งรถบรรทุก เริ่มคืนนี้! ย้ำประชาชนช่วยสอดส่องการลอบเผา ต้นเหตุฝุ่น PM 2.5