สนช.พิจารณาถอดถอน พล.อ.อ.สุกำพล


รัฐสภา 9 ก.ย.- สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ซักถามคู่กรณีในกระบวนการถอดถอน พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต ออกจากตำแหน่ง ขณะที่ กรรมการ ป.ป.ช. ยืนยัน พล.อ.อ.สุกำพล แทรกแซงการแต่งตั้งปลัดกระทรวงกลาโหมจริง และวิธีการเสนอชื่อไม่เป็นไปตามกฎหมาย ด้าน พล.อ.อ.สุกำพล ย้ำ มีอำนาจเสนอชื่อ และไม่ได้แทรกแซงการแต่งตั้ง

การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีนายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสนช.เป็นประธานการประชุม พิจารณาวาระเพื่อดำเนินกระบวนการถอดถอน พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ออกจากตำแหน่ง กรณีคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดเข้าไปก้าวก่ายแทรกแซงการแต่งตั้งปลัดกระทรวงกลาโหม ซึ่งเป็นการซักถามเพิ่มเติมคู่ความทั้ง 2 ฝ่าย


12359870

นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สมาชิก สนช.ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการซักถาม กล่าวว่า ได้พิจารณาประเด็นซักถามของสมาชิก 3 คน รวม 18 คำถาม ถามป.ป.ช. 11 คำถาม และซักถามพล.อ.อ.กำพล 8 คำถาม และได้สรุปรวมคำถามที่คล้ายคลึงกันและซักถามป.ป.ช.และพล.อ.อ.สุกำพล ฝ่ายละ 7 คำถาม

พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ สนช. ในฐานะกรรมาธิการซักถามป.ป.ช.ว่า พ.ร.บ.จัดระเบียบกระทรวงกลาโหม ในมาตรา 25 มีขั้นตอนการพิจารณาแต่งตั้งนายทหารชั้นนายพล เพื่อป้องกันการแทรกแซงจากฝ่ายการเมืองอย่างไรบ้าง และเหตุใดจึงมีมติว่าพล.อ.อ.สุกำพลแทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้าย


น.ส.สุภา ปิยะจิตติ กรรมการป.ป.ช. ชี้แจงว่า ขั้นตอนแต่งตั้งนายทหารชั้นนายพล แต่ละหน่วยจะต้องมีการคัดสรรคนของตัวเองในระดับกรมขึ้นมา และจะต้องลงนามรับรองบุคคลที่ผ่านการคัดสรรของส่วนราชการระดับกรม ได้แก่สำนักปลัดกระทรวง กองบัญชาการทหารบก กองบัญชาการทหารเรือ กองบัญชาการทหารอากาศ จากนั้นจะเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการกลาโหม โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นประธาน มีผู้แทนจากเหล่าทัพ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ปลัดกระทรวงกลาโหม ให้มีเจ้ากรมเสมียนตราเป็นผู้ช่วย

น.ส.สุภา กล่าวว่า ได้วางกลไกชัดเจนว่า ในการแต่งตั้งข้าราชการระดับกรม จะมีข้าราชการประจำเป็นผู้คัดเลือก แต่ปรากฎว่า ในการประชุมคณะกรรมการพิจารณาแต่งตั้งนายทหารชั้นนายพล เมื่อวันที่  17 สิงหาคม 2555 นั้น พล.อ.อ.สุกำพลได้เชิญผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการเหล่าทัพมาประชุม แต่แจ้งว่า เป็นการประชุมนอกรอบ โดยไม่อนุญาตให้เจ้ากรมเสมียนตราเข้าร่วมประชุม ทั้งที่ต้องเป็นผู้ช่วยเลขานุการโดยตำแหน่ง และในการประชุมวันนั้นได้มีการเสนอ พล.อ.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก เป็นปลัดกระทรวงกลาโหม ทำให้ พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม ในขณะนั้นคัดค้าน เพราะต้องการเสนอชื่อพล.อ.ชาตรี ทัตติ แม้เจ้ากรมเสมียนตรา จะไม่ได้มีสิทธิลงคะแนน แต่รัฐมนตรีไม่มีสิทธิห้ามบุคคลที่มีอำนาจตามกฎหมายเข้าร่วมประชุม

นายแพทย์เจตน์ ศิรธรานนท์ สมาชิกสนช. ในฐานะกรรมาธิการซักถาม ถามฝั่งผู้ถูกกล่าวหาว่า ได้พาพล.อ.ทนงศักดิ์ เข้าพบ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ซึ่งเป็นการกระทำโดยมิชอบหรือไม่ และเหตุใดจึงเสนอชื่อ พล.อ.ทนงศักดิ์ เป็นปลัดกระทรวงกลาโหมคนใหม่ และตามข้อบังคับของกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการแต่งตั้งนายทหารชั้นนายพล ในฐานะที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เข้าใจและยึดถือ การปฏิบัติหน้าที่ว่าต้องเป็นไปตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับหรือไม่

พล.อ.อ.สุกำพล ในฐานะผู้ถูกกล่าวหา ชี้แจงว่า เพราะนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น อยากรู้จัก พล.อ.ทนงศักดิ์ จึงได้พา พล.อ.ทนงศักดิ์ไปพบ และพูดคุยกันเพียง 2-3นาที  ซึ่งตนได้ให้การต่อ ป.ป.ช.แล้วว่า ไม่ได้พูดคุยเพื่อเป็นการสนับสนุนให้ พล.อ.ทนงศักดิ์ เป็นปลัดกระทรวงกลาโหม พร้อมกล่าวถึงการเสนอชื่อ พล.อ.ทนงศักดิ์ ว่า ตนสามารถเสนอได้ในฐานะกรรมการ เพราะกรรมการทุกคนสามารถเสนอชื่อได้

“ผมเข้าใจดีว่า การพิจารณารายชื่อทั้งหมด ต้องผ่านการเห็นชอบจากบอร์ดเล็กมาก่อน แต่การพิจารณาดังกล่าว จะนำข้อบังคับข้อเดียวมาใช้ไม่ได้ เพราะขณะนั้นมีสิ่งที่บีบคั้น คือต้องดำเนินการเรื่องนี้ให้เสร็จภายใน 15 วัน คือมีเวลาอย่างจำกัด ผมไม่ได้เสนอชื่อ พล.อ.ทนงศักดิ์ เพียงคนเดียว แต่เสนอชื่อสองคน คือชื่อของ พล.อ.ชาตรี ทัตติ นายทหารสังกัดกระทรวงกลาโหม และชื่อของ พล.อ.ทนงศักดิ์ แล้วให้ที่ประชุมเป็นผู้เลือก โดยไม่ได้สั่งการหรือแทรกแซงแต่อย่างใด” พล.อ.อ.สุกำพล กล่าว

จากนั้น นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สมาชิก สนช.ในฐานะกรรมาธิการซักถามฯ ได้ถามผู้ถูกกล่าวหาอีกว่า ข้อบังคับของกระทรวงกลาโหม ได้กำหนดให้คำนึงถึงความอาวุโส และผลงานการปฏิบัติงาน ซึ่งในการเสนอชื่อ พล.อ.ทนงศักดิ์ ที่พล.อ.อ.สุกำพลได้คำนึงถึงเรื่องนี้หรือไม่ และเหตุใด พล.อ.อ.สุกำพล จึงเห็นว่า การประชุมวันที่ 17 สิงหาคม ที่เสนอชื่อ พล.อ.ทนงศักดิ์นั้นไม่นำรายชื่อนายทหารชั้นนายพลคนอื่นมาพิจารณาด้วย ดังนั้น การประชุมในวันดังกล่าว ถือว่าเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างไร

พล.อ.อ.สุกำพล ชี้แจงว่า สาเหตุที่ตนเสนอชื่อ พล.อ.ทนงศักดิ์ เนื่องจากเป็นรุ่นน้องของตนเพียง 1 ปี แม้ว่า ความอาวุโสเรื่องทหารจะน้อยกว่า พล.อ.ชาตรี แต่ตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหม จะ ต้องเป็นมือขวาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ดังนั้น หากรุ่นพี่ประสานการทำงานกับรุ่นน้อง ก็จะทำงานได้ราบรื่นกว่า ตามกฎหมายไม่ได้ระบุว่า ในการประชุมวันที่ 17 สิงหาคม ต้องมีรายชื่อของนายทหารชั้นนายพลทุกคน แต่ในการประชุมวันที่ 5 กันยายนซึ่งเป็นการประชุมครั้งสุดท้าย ก็ดำเนินการตามกฎหมายครบทุกขั้นตอน

จากนั้น ที่ประชุมได้กำหนดแถลงวันปิดสำนวนคดีด้วยวาจาในวันที่ 15 กันยายน และนัดลงมติถอดถอนหรือไม่ถอดถอน พล.อ.อ.สุกำพล ในวันที่ 16 กันยายนต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เด็กชายวัย 13 ปี กลับกัมพูชาพร้อมแม่แล้ว

สุรินทร์ 28 ส.ค.-รองผู้ว่าฯ สุรินทร์ เผยเด็กชายวัย 13 ปี กลับกัมพูชาพร้อมแม่แล้ว หากพิสูจน์ไม่ได้ว่าน้องเป็นคนไทย น้องยังต้องได้รับสิทธิตามอนุสัญญาหลักสิทธิเด็ก เข้ารับการศึกษาต่อไป นายประภาส ศรีจันทร์เวียง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยกับสำนักข่าวไทยว่า ขณะนี้ พมจ.สุรินทร์ ตม.สุรินทร์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง กำลังดูแลน้องอายุ 13 ปี ที่มีแม่เป็นชาวกัมพูชาและทั้งคู่ถูกแจ้งจับเนื่องจากเป็นคนต่างด้าวอยู่ในประเทศไทยโดยผิดกฎหมายและไม่มีใบอนุญาต ได้รับรายงานว่า เด็กชาย อายุ 13 ปีรายนี้ เกิดที่ จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา ส่วนแม่ทำงานในบ่อนการพนันที่ช่องสะงำ จากนั้นก็ได้เดินทางกลับประเทศโดยถูกกฎหมาย และคลอดน้องที่ประเทศกัมพูชา ก่อนจะกลับมาประเทศไทยอีกครั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต และลอบอยู่ในประเทศไทย โดยน้องได้รับการศึกษาในประเทศไทยตั้งแต่ ป.1 จนกระทั่งปัจจุบันคือ ม.1 ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะดำเนินการพาน้องอายุ 13 ปี ตรวจดีเอ็นเอ เนื่องจาก พมจ.สุรินทร์ ได้รับข้อมูลจากฝ่ายแม่เด็กว่า พ่อที่แท้จริงของน้องคือ ชายไทยที่อยู่ด้วยกันในปัจจุบัน แต่ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถยืนยันความจริงได้ นอกจากการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น เพื่อดำเนินการทางกฎหมายในขั้นตอนต่อไป เช่น หากพิสูจน์ได้ว่า น้องมีบิดา […]

มติสภาประชุมลับญัตติด่วน MOU43-44 ฝ่ายค้านชี้ปิดหูปิดตา ปชช.

28 ส.ค. – สภาฯ ถกญัตติด่วน “MOU 43-44” เพื่อไทยขอประชุมลับ หวั่นอภิปรายเนื้อหาล้ำเส้น กังวลกัมพูชารู้ทาง ด้านฝ่ายค้านยันต้องเปิดเผย ไม่ใช่ปิดหูปิดตาประชาชน สุดท้ายเปิดเผยเฉพาะผู้เสนอญัตติ ส่วนผู้อภิปรายเป็นประชุมลับ การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาฯคนที่หนึ่งเป็นประธานการประชุม หลังพิจารรณากระทู้ถามทั่วไปแล้วได้มีการเสนอญัตติด่วนด้วยวาจา 5 ฉบับ ได้แก่ 1. น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี พรรคภูมิใทย เสนอญัตติด่วนด้วยวาจา เรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญบันทึกความเข้าใจ MOU43 และ44 ระหว่างไทยกัมพูชา 2.นายกรวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม เสนอให้สภาฯทำการศึกษาบันทึกความเข้าใจ MOU43 และ44 แก้ไขปัญหาข้อพิพาทชายแดนไทย กัมพูชา 3.นายสฤษพงศ์ ​เกี่ยวข้องสส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่าเนื่องจากตนได้เสนอญัตติดังกล่าวเป็นหนังสือไว้แล้ว ก็ขอให้นำมาอยู่ในวาระด่วนเช่นเดียวกัน เนื่องจากเป็นเรื่องทำนองเดียวกัน 4.นายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เสนอเรื่องขอให้สภาฯพิจารณาศึกษMOU 43 และ44 […]

เส้นทางหลวง 108 ขุนยวม-แม่ฮ่องสอน ถูกตัดขาด

แม่ฮ่องสอน 28 ส.ค. – เส้นทางหลวง 108 ขุนยวม-แม่ฮ่องสอน ถูกตัดขาด คอสะพานห้วยโป่งถูกน้ำป่าซัดเสียหายกว้างกว่า 80 เมตร คาด 1 ก.ย.นี้ สามารถเปิดเส้นทางสัญจรได้ สภาพความเสียหายของพื้นที่ริมทางหลวง 108 บริเวณห้วยบ้านตำข่อน บ้านแม่จ๋า บ้านผาบ่องเหนือ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน หลังระดับน้ำลดลงเป็นปกติ ยังคงมีท่อนไม้ ต้นไม้กองทับถมอยู่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดนำรถและเครื่องจักรใหญ่เข้าเคลียร์ท่อนไม้ เศษไม้ที่กีดขวาง สามารถเปิดให้รถสัญจรไปมาได้ แต่ต้องใช้ความระมัดระวัง ผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอน พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายจากน้ำป่าไหลหลาก เส้นทางหมายเลข 108 บริเวณสะพานห้วยโป่ง ต.ห้วยโป่ง ข้ามลำน้ำแม่จ๋า ซึ่งคอสะพานถูกน้ำป่าซัดได้รับความเสียหายเป็นแนวกว้าง ทำให้การสัญจรถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิง จึงประสานศูนย์สร้างและบูรณะสะพานจังหวัดพิจิตร เพื่อขอสนับสนุนสะพานแบริ่ง หรือสะพานเหล็กสำเร็จรูป สำหรับใช้งานชั่วคราว ขณะที่วิศวกรจากศูนย์ฯ จะเข้าตรวจสอบความเสียหายของสะพานห้วยโป่ง เพื่อดำเนินการติดตั้งสะพานแบริ่ง หากไม่มีอุปสรรคคาดว่าสะพานจะพร้อมใช้งานและเปิดให้สัญจรได้อีกครั้งในวันจันทร์ที่ 1 กันยายนนี้ น้ำที่ท่วม 13 หมู่บ้านรวมทั้งตัว อ.แม่แจ่ม เริ่มลดลงส่วนที่ จ.เชียงใหม่ […]

จนท.ตรึงกำลังเข้มบ้านหนองจาน หวั่นเผชิญหน้า

สระแก้ว 28 ส.ค. – คนไทยรวมพลบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว แสดงพลังปกป้องแผ่นดินไทย เจ้าหน้าที่ตรึงกำลังเข้ม หวั่นเหตุเผชิญหน้า หลังชาวกัมพูชาท้าทาย ขณะที่ “กัน จอมพลัง” ขนรถดูดส้วม 14 คัน เสิร์ฟเขมร.-สำนักข่าวไทย