“ศรีวราห์”ยันอาวุธปืนยิงช้างตายใกล้น้ำตกแก่งอีเขียวไม่มีใช้ในราชการไทย

กรุงเทพฯ 16 พ.ย.- “ศรีวราห์” ยืนยัน อาวุธปืนที่ใช้ยิงช้างไม่มีใช้ในราชการไทย เร่งประสานประเทศเพื่อนบ้านร่วมตรวจสอบเนื่องจากเป็นพื้นที่ใกล้เขตโนแมนแลนด์ พรมแดนระหว่าง 2 ประเทศที่ยังไม่มีผู้ครอบครอง 

พลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีพบซากช้างป่าเพศผู้ บริเวณน้ำตกห้วยทรายใหญ่ หรือ น้ำตกแก่งอีเขียวเทือกเขาพนมดงรัก จังหวัดอุบลราชธานี ถูกยิงด้วยกระสุนปืนอาก้า (AK47)  และ ปรากฎภาพบุคคลแต่กายคล้ายทหารพกปืน ว่าจากการตรวจสอบทราบว่าช้างตายจากอาวุธปืนอาก้าพับฐานที่ไม่มีใช้ในราชการไทย ตนเองได้สั่งการให้ทางกองกำลังสุรนารีของกองทัพภาคที่ 2  ติดต่อประเทศเพื่อนบ้านในการตรวจสอบตัวบุคคลที่ปรากฎตามภาพ เนื่องจากบริเวณดังกล่าวอยู่ในเขตอุทยานของประเทศไทย ใกล้เขตโนแมนแลนด์ No man’s land หรือ พรมแดนระหว่าง 2 ประเทศที่ยังไม่มีผู้ครอบครอง 

ส่วนการตรวจสอบซากช้าง พบว่าเครื่องใน งาช้าง และ ส่วนอื่นๆของช้าง ยังอยู่ครบ จึงตั้งข้อสังเกตว่า อาจไม่ใช่ความตั้งใจที่จะเข้าไปล่าสัตว์ประกอบกับพื้นที่ดังกล่าวเคยมีเหตุปะทะและลักลอบตัดไม้ แต่จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่เบื้องต้นยังไม่พบการลักลอบตัดไม้แต่อย่างใด จึงต้องมีการตรวจสอบให้แน่ชัดอีกครั้งว่าเป็นเพราะสาเหตุใด โดยได้สั่งการให้ตำรวจตระเวนชายแดน ตำรวจในพื้นที่ และตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพย์กรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. ร่วมกับ เจ้าหน้าที่อุทยาน ในการตรวจสอบรวบรวมพยานหลักฐานให้รายงานผลกับตนเองโดยเร็วที่สุด 

ทั้งนี้ยืนยันว่าไม่ต้องกังวลเรื่องการทำสำนวนในเรื่องดังกล่าว เพราะถ้าหากตรวจสอบแล้วพบว่าคนทำผิดไม่ใช่คนไทย ก็จะเข้าข่ายความผิดลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และครอบครองอาวุธปืน .-สำนักข่าวไทย