ทปอ. 16 พย.หมออุดม ย้ำมหาวิทยาลัยเห็นด้วยที่ผู้บริหารระดับสูงต้องยื่นทรัพย์สิน เเต่เเนะป.ป.ช.พิจารณาอำนาจหน้าที่ เพราะสภามหาวิทยาลัยไม่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดจ้าง ขณะที่ทปอ.ใหญ่เตรียมหารือกัน 19 พ.ย.นี้ เพื่อยื่นข้อเสนอต่อป.ป.ช
นพ.อุดม คชินทร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมติคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามแห่งชาติ ยืนยันให้ตำแหน่ง นายกสภามหาวิทยาลัยและกรรมการสภามหาวิทยาลัย ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สิน โดยขยายระยะเวลาการบังคับใช้อีก 60 วัน โดยจะเริ่มใช้วันที่ 31 ม.ค.62ว่า ยืนยันว่ามหาวิทยาลัยเห็นด้วยที่ผู้บริหารระดับสูงต้องยื่นบัญชีทรัพย์สิน แต่ อยากให้ ป.ป.ช. พิจารณาจากตำแหน่งหน้าที่ เพราะนายกสภาและกรรมการสภามหาวิทยาลัย ไม่เกี่ยวข้องกับการ อนุมัติเรื่องการเงินการจัดซื้อจัดจ้าง ขณะที่ตำแหน่งผู้อำนวยการกองคลังต้องดูแลรับผิดชอบ หรือมีเงินผ่านมือวันละเป็นหมื่นล้าน แต่กลับไม่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สิน อย่างไรก็ตามการขยายเวลาบังคับใช้ 60 วัน ก็ขอให้นายกสภาและกรรมการสภา อย่าเพิ่งลาออก ขอเวลาให้รัฐบาลกับ ป.ป.ช. หารือ ซึ่งตนเชื่อว่าเรื่องนี้จะมีทางออกแน่นอน แต่หากสุดท้ายแล้ว ป.ป.ช. ยังยืนยันให้นายกสภาและกรรมการสภามหาวิทยาลัยต้องอยู่ทรัพย์สิน และนายกสภาและกรรมการสภาคนใดรู้สึกไม่สบายใจก็คงต้องให้ลาออกไปเราคงไม่สามารถทัดทานได้
ด้านนายสุชัชชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ในฐานะประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) กล่าวว่า ทปอ.ยืนยันว่าเห็นด้วยกับยื่นบัญชีทรัพย์สินของผู้บริหารระดับสูงมหาวิทยาลัย คืออธิการบดีและรองอธิการบดี เรื่องที่ดีเป็นธรรมาภิบาลและความบริสุทธิ์ใจ แต่ประเด็นที่ ทปอ.วิงวอนป.ป.ช.และสังคมในส่วนนายกสภาฯและกรรมการสภาฯเพราะว่ามีอำนาจทางวิชาการ อนุมัติหลักสูตร ปริญญาเท่านั้น ส่วนกรอบงบประมาณการจัดซื้อจัดจ้างเป็นเรื่องของสำนักงบประมาณจริงๆ นายกสภาฯกรรมการสภาฯ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องจริง ซี่งถ้าหากมีการลาออกผลกระทบจะตกอยู่กับมหาวิทยาลัย ลูกหลานของเรา เพราะหลายคนเป็นนักธุรกิจต้องการมาช่วย แต่พอมาเจอการยื่นบัญชีอาจทำให้บุคคลเหล่านี้คิดหนักทำให้มหาวิทยาลัยเสียโอกาส แม้จะบอกว่ามีคนเก่งอีกมากมาย ตนยอมรับแต่คนที่เหมาะสมที่จะมาอยู่อยากจะเชิญมาก็เสียโอกาส
อย่างไรก็ตามในวันจันทร์หน้า(19 พ.ย.61) ทปอ.จะหารือร่วมกับกลุ่มที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ ทั้งมหาวิทยาลัยราชภัฏ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ เพื่อหารือถึงแนวทางว่าจะทำอะไรได้บ้างเกี่ยวกับมติที่เกิดขึ้นและนำข้อเสนอไปหารือร่วมกับ ป.ป.ช.ต่อไป.-สำนักข่าวไทย