นายกฯ รับมอบแถลงการณ์ตัวแทนเยาวชนเอเปค

ทำเนียบ 14 พ.ย. – นายกฯ รับมอบแถลงการณ์จากตัวแทนเยาวชน APEC ย้ำการมีส่วนร่วมของเยาวชน เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาในภูมิภาคเอเชีย – แปซิฟิก ให้เติบโตอย่างสมดุลและยั่งยืนสู่คนรุ่นต่อไป


ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบ ว่า คณะผู้แทนเยาวชนจากเขตเศรษฐกิจเอเปค ในโครงการ APEC Voices of the Future เข้าเยี่ยมคารวะ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อมอบแถลงการณ์เยาวชน (Youth Declaration)

โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวต้อนรับคณะผู้แทนเยาวชนจากเขตเศรษฐกิจเอเปคในโครงการ APEC Voices of the Future ว่ารัฐบาลตระหนักถึงบทบาทสำคัญของเยาวชน ในฐานะผู้ที่ขับเคลื่อนการพัฒนาและความเจริญเติบโตให้แก่ภูมิภาคในอนาคต รวมทั้งไทยพร้อมส่งเสริมมุมมองและการมีส่วนร่วมของเยาวชน ซึ่งจะมีส่วนช่วยสนับสนุนการพัฒนาทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย – แปซิฟิก ให้เติบโตอย่างสมดุลและคำนึงถึงอนาคตของคนรุ่นต่อไป


ผู้แทนเยาวชนไทย กล่าวในนามคณะผู้แทนเยาวชนจากเขตเศรษฐกิจเอเปคฯ รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เข้าพบนายกรัฐมนตรีในวันนี้ เพื่อมอบแถลงการณ์เยาวชน พร้อมทั้งขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้ความสำคัญและสนับสนุนการมีส่วนร่วมของเยาวชน รวมถึงภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการจัดกิจกรรม APEC Voices of the Future 2022 ซึ่งเป็นโอกาสอันดีในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และมิตรภาพอันล้ำค่าร่วมกัน และเป็นที่ทราบดีว่า ทุกภาคส่วนต่างมีจุดมุ่งหมายร่วมกัน ในการขับเคลื่อนการเจริญเติบโตของภูมิภาค ด้วยเหตุนี้ คณะผู้แทนเยาวชนฯ จึงได้ร่างแถลงการณ์เยาวชน เพื่อสานต่อประเด็นหลักที่ไทยผลักดัน ภายใต้หัวข้อ “เปิดกว้างสร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกัน สู่สมดุล” (Open. Connect. Balance.) โดยในประเด็น Open ให้ความสำคัญด้านการเข้าถึงการศึกษา และการเตรียมความพร้อมทักษะสำหรับอนาคต ประเด็น Connect ให้ความสำคัญเรื่องห่วงโซ่อุปทาน และประเด็น Balance สนับสนุนแนวคิด BCG ทั้งนี้ คณะผู้แทนเยาวชนฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า แถลงารณ์นี้จะสร้างความเปลี่ยนแปลง และนำความเจริญงอกงามมาสู่ภูมิภาค

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีรับมอบแถลงการณ์เยาวชน พร้อมทั้งยินดีต่อการมีส่วนร่วมของเยาวชนซึ่งเป็นภาคส่วนสำคัญ ในการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจในภูมิภาค ให้ก้าวหน้าไปได้อย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน อีกทั้งยังเป็นภาคส่วนที่จะต้องสานต่อการดำเนินการต่าง ๆ ในอนาคต นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า รัฐบาลไทยพร้อมรับฟังเสียงของเยาวชน ในฐานะ “เสียงของอนาคต เสียงของคนรุ่นใหม่” เพื่อนำไปเป็นส่วนหนึ่งในการปรับเปลี่ยนนโยบายให้สอดคล้อง และคำนึงถึงคนรุ่นต่อไป อันจะทำให้ภูมิภาคเดินหน้าต่อไปได้อย่างเข้มแข็ง

ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ นายกรัฐมนตรีพาคณะผู้แทนเยาวชนจากเขตเศรษฐกิจเอเปคฯ เยี่ยมชมตึกและห้องสำคัญสำหรับการพบหารือผู้นำต่างประเทศ ทั้งห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ตึกภักดีบดินทร์ จากนั้นได้ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกบริเวณสนามหญ้า หน้าตึกไทยคู่ฟ้า พร้อมระบุว่า เยาวชนมาจากหลายประเทศ ทุกคนชื่นชอบประเทศไทย เพราะมีความสวยงามและมีความสุขที่ได้เดินทางมา และนี่คือเสียงของอนาคตเป็นคนรุ่นใหม่ ดังนั้นคนรุ่นเก่าก็ต้องทำให้คนรุ่นใหม่ ไว้ หากทำวันนี้ไม่ได้อะไรเลยก็ยากที่จะมาร่วมมือกัน จึงจะต้องมาร่วมมือกันตั้งแต่วันนี้ โครงการนี้มีมาหลายปีแล้ว ซึ่งทุกรัฐบาลทุกนายกรัฐมนตรี ก็จะรับฟังเสียงเยาวชนไปประกอบนโยบายด้วย และตรงความต้องการของเยาวชนหรือไม่ เนื่องจากในวันข้างหน้าเยาวชนจะต้องสานต่อจากรุ่นสู่รุ่น


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รู้สึกว่ามีความสุขและขอให้เยาวชนมีความสุขในช่วงการประชุมเอเปค ก่อนส่งสัญลักษณ์ยกมือไอเลิฟยูให้กับเยาวชน พร้อมกล่าวว่า รักกันไว้เถิด และ very happy และบอกกับสื่อมวลชน ว่าจะไม่ให้สัมภาษณ์เรื่องอื่นๆ จะพูดเรื่องเอเปค อย่างเดียว ส่วนการเตรียมความพร้อมการประชุมไปถึงร้อยละ 90 แล้ว เหลือแต่วันจริง โดยได้เตรียมการมานานนับเดือน และจะทำให้ดีที่สุด และประเด็นสำคัญสำคัญได้พูดคุยในการประชุมอาเซียนที่กัมพูชา เป็นเจ้าภาพมาแล้ว ว่าเวทีนี้ เป็นเวทีแห่งเศรษฐกิจ พร้อมย้ำว่าขอให้ประชาชนเป็นเจ้าภาพที่ดี ช่วยกันดูแลความปลอดภัย

สำหรับโครงการ APEC Voices of the Future มีการจัดกิจกรรมคู่ขนานกับช่วงสัปดาห์การประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ระหว่างวันที่ 13 – 19 พฤศจิกายน 2565 เพื่อเป็นโอกาสและพื้นที่สำหรับผู้นำรุ่นใหม่ และผู้ให้ความรู้แก่เยาวชนจากเขตเศรษฐกิจเอเปคได้เสนอแนะเชิงนโยบายและแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์ รวมถึงประเด็นห่วงกังวล ร่วมกับผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค รัฐมนตรีเอเปค เจ้าหน้าที่อาวุโสเอเปค สมาชิกสภาที่ปรึกษาธุรกิจเอเปค (ABAC) และผู้บริหารระดับสูงจากบริษัทเอกชนต่าง ๆ .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทบ.​ เชิญ​ผู้ช่วยทูตทหาร รับฟังข้อเท็จจริง​ปมทุ่นระเบิดช่องบก

กองทัพบก 22 ก.ค.- ทบ.​ เชิญ​ผู้ช่วยทูตทหาร​ 47 ประเทศ​ รับฟังคำชี้แจง​สถานการณ์​ชายแดน​ไทย​-กัมพูชา​ หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ​ 3 นาย​ พบ เป็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​วางใหม่​ โดยมีหลายชาติ สนใจรับฟังขณะ​ พลจัตวา​ ฮอม​ คิม ผู้ช่วยทูตทหารดัมพูชา ร่วมด้วย กองบัญชาการ​กองทัพ​บก​ เชิญผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศประจำประเทศไทย​ รับฟังการชี้แจงสถานการณ์​ชายแดนไทย​-กัมพูชา​ ถึงข้อเท็จจริงกรณีไทยโดนรุกล้ำอธิปไตย​ และมีการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​ ทำให้ทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย​ และมีการตรวจสอบว่าเป็นการวางทุ่นระเบิดใหม่​ ที่วางในเขตไทย​ ซึ่งขัดต่ออนุสัญญา​ออตตาวา​ ที่ทั้งไทยและกัมพูชาเป็นประเทศภาคี​ที่ให้สัตยาบัน​​ บรรดาทูต​ทหาร​ ทยอยเดินทางมายังห้อง ศรีสิทธิสงคราม​ ภายในกองทัพบก ตั้งแต่เวลา​ 13.20 น.​ อาทิทูตทหารจากเวียดนาม เมียนมา อินเดีย ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ อังกฤษ บูรไน ออสเตเรีย สหรัฐอเมริกา อินโดนิเซีย จีน กัมพูชา เยอรมันนี แคนนาดา […]

พายุวิภากระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านอาหารถล่ม

จันทบุรี 22 ก.ค. – พายุกระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านข้าวมันไก่ถล่ม กระแทกหลังแม่เจ้าของร้านได้รับบาดเจ็บ ส่วนที่ภูเก็ตพายุถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต หลังคาร้านข้าวมันไก่ บริเวณตลาดศิริการ อ.เมือง จ.จันทบุรี ถูกพายุพัดร่วงลงมาทั้งแผง ท่ามกลางความตื่นตระหนกของลูกค้าและพนักงานในร้าน เหตุดังกล่าวเกิดช่วงเที่ยงพอดี จึงมีลูกค้ามานั่งกินข้าวเต็มร้าน กระทั่งมีฝนเทลงมา ทางร้านและลูกค้าจึงช่วยกันขนย้ายโต๊ะเก้าอี้เข้าข้างในเพื่อหลบฝน ก่อนพายุจะซัดเข้ามาอย่างรุนแรง จนหลังคาถล่ม เบื้องต้นไม่มีลูกค้าได้รับบาดเจ็บ มีเพียงแม่เจ้าของร้านข้าวมันไก่อีกร้าน ที่อยู่ติดกัน ถูกหลังคากระแทกหลังได้รับบาดเจ็บ นำส่งโรงพยาบาลแล้ว พนักงานร้านข้าวมันไก่ บอกว่า ปกติบริเวณนี้มีฝนตกบ่อย หลังคาแข็งแรงดี ไม่ได้ชำรุดอะไร แต่วันนี้ ลมแรงมาก มาแบบวูบเดียว พัดหลังคาลอยขึ้นก่อนพังลงมา ทั้งนี้ลมพายุได้พัดหลังคาของตึกที่อยู่ในละแวกร้านข้าวมันไก่พังเสียหายจำนวน 15 คูหา เบื้องต้นกำลังทหารและตำรวจ ได้เข้าตรวจสอบ พร้อมให้การช่วยเหลือ ขนย้ายเศษซากหลังคาเคลียร์พื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว พายุโซนร้อนวิภาถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต ที่หน้าหาดเกาะเฮ จังหวัดภูเก็ต นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ หอบข้าวของวิ่งหนีลมพายุ จังหวะนั้นต้นไม้ขนาดใหญ่ถูกลมพัดโค่นลงมา ในคลิปจะได้ยินเสียงคนพูดว่า “เห็นไหม คน ๆ อยู่ใต้นั้น” หลังเหตุการณ์สงบ […]

รถบรรทุกพุ่งชน จยย.พ่วงข้างรับส่ง นร. ตาย 3 เจ็บ 6

พระนครศรีอยุธยา 22 ก.ค. – สลด รถบรรทุก 6 ล้อ พุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับส่งนักเรียน มีผู้เสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บ 6 คน เกิดอุบัติเหตุรถบรรทุก 6 ล้อ ทะเบียนพระนครศรีอยุธยา พุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับส่งนักเรียน โรงเรียนวัดมณฑลประสิทธิ์ ก่อนตกลงไปในร่องน้ำ บนถนนชนบทเลียบคลองระพีพัฒน์ หมู่ 5 ตำบลวังน้อย อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และอัดกับรั้วบ้านจนรถพังยับ มีผู้ติดอยู่ในรถ 2 คน เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้อุปกรณ์ตัดช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทั้ง 2 คนออกมา แต่ผู้โดยสารเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนคนขับบาดเจ็บสาหัส ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง สภาพรถเสียหายยับเยิน คนบนรถ 7 คน เป็นนักเรียนโรงเรียนวัดมณฑลประสิทธิ์ 6 คน ผู้ปกครอง 1 คน บาดเจ็บทั้งหมด เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลวังน้อย และมีนักเรียน 2 คนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธสวรรย์ จุดกิตติวังน้อย […]

โฆษก ทบ. เผยนานาชาติเข้าใจไทยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด

กองทัพบก 22 ก.ค.- โฆษก ทบ. เผยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด นานาชาติเข้าใจไทย ขณะผู้ช่วยทูตทหารกัมพูชานั่งนิ่งไม่โต้แย้ง – ให้กองทัพภาคที่ 2 ประเมินสถานการณ์หลังคนไทยนัดรวมตัวปราสาทตาเมือนธม ปลายเดือนนี้ พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวภายหลังการเชิญผู้ช่วยทูตทหาร รับฟังคำชี้แจง​สถานการณ์​ชายแดน​ไทย​- กัมพูชา​ หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ​ 3 นาย​ ว่า บรรยากาศเป็นไปด้วยดี ส่วนใหญ่เป็นการรับฟังและมีคำถามบ้าง ถือว่าน้อย เนื่องจากทุกท่านอาจจะได้รับข่าวสารจากช่องทางอื่นมาบ้างแล้ว ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก ที่พยายามบอกกล่าวและชี้แจงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ในเรื่องข้อเท็จจริง พลตรีวินธัย เปิดเผยว่า ทูตทหารของกัมพูชา ไม่ได้ชี้แจงหรือมีคำถามอะไร คำถามส่วนใหญ่มาจากท่านอื่นมากกว่า ที่ถามเรื่องของความมั่นใจและยืนยันใช่หรือไม่ ซึ่งทางเรา ก็ให้เหตุผลไป และจะให้เอกสารชี้แจง ส่วนท่าทีของประเทศมหาอำนาจ ก็ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ ซึ่งการเชิญมาในวันนี้เราก็ทำตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก คือทำให้เป็นทางการ ส่วนการหารือได้ชี้แจงเรื่องของการละเมิด บูรณภาพดินแดน และเอ็มโอยู 2543 และอนุสัญญาออตตาวา ด้วยหรือไม่ พลตรีวินธัย ระบุว่า มีการพูดถึงประเด็นดังกล่าว และได้อธิบายตามหลักอนุสัญญา ที่ทั้งสองประเทศเป็นสมาชิก และเล่าถึงกลไกการแก้ไขปัญหา […]

ข่าวแนะนำ

น้ำท่วมตัวเมืองน่าน-เขตเศรษฐกิจขยายวงกว้าง

น่าน 23 ก.ค. – ตอนนี้น้ำท่วมตัวเมืองน่าน รวมทั้งเขตเศรษฐกิจ ยังเพิ่มสูงขึ้นและแผ่ขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ หลังระดับน้ำท่วมสูงเกิน 9 เมตร และทะลักเข้าท่วม .-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

ตอบโต้เขมร! ปิด 4 ด่าน หลังทหารเหยียบกับระเบิดขาขาดอีก 1 ราย

23 ก.ค.- ศบ.ทก. เห็นชอบให้ทัพภาค 2 ปิดด่านชายแดน-สถานที่ท่องเที่ยว 4 จังหวัดอีสานใต้ ตั้งแต่พรุ่งนี้ (24 ก.ค.) หลังล่าสุดทหารไทยเหยียบกับระเบิดขาขาดอีกราย จากกระแสข่าวมีทหารไทยเหยียบกับระเบิดขาขาดบริเวณแนวชายแดนไทยกัมพูชาเมื่อเวลา 16.55 น. นั้น ล่าสุด แหล่งข่าวจากศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ยอมรับว่าเป็นเรื่องจริงโดยกองทัพภาคที่ 2 ได้ปรึกษามาที่ ศบ.ทก. เพื่อขออนุญาตปิดด่านในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 2 ได้แก่ อุบลราชธานี ศรีษะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์ รวมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวตามแนวชายแดน เพื่อเป็นการประท้วงกัมพูชา จากการลักลอบวางทุ่นระเบิดที่เกิดขึ้น ซึ่ง ศบ.ทก. เห็นชอบ ขณะเดียวกันจะส่งหนังสือประท้วงโดยใช้กลไก RBC และรายงานกระทรวงต่างประเทศ เพื่อประท้วงต่อไป ดังนั้นตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) จะปิดด่านชายแดนทั้งหมดในพื้นที่ 4 จังหวัดอีสานใต้ของไทย หลังจากที่ฝั่งไทยมีการกำหนดเวลาเปิด-ปิด และในส่วนสถานที่ท่องเที่ยวอย่าง 3 ปราสาท คือ ตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด และตาควาย […]

พายุวิภาทำเชียงรายอ่วม-รพ.เทิง งดรับผู้ป่วยชั่วคราว

เชียงราย 23 ก.ค. – พายุวิภาทำ อ.เทิง จ.เชียงราย อ่วม น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือน พื้นที่การเกษตร โรงพยาบาลเทิง ประกาศงดให้บริการผู้ป่วยทั่วไปชั่วคราว รับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น ด้านนายอำเภอสั่งการเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง อพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุไปยังที่ปลอดภัย ฝนตกหนักจากอิทธิพลพายุวิภา ทำให้น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรหลายอำเภอใน จ.เชียงราย โดยเฉพาะ อ.เทิง สถานที่ราชการ ได้แก่ สภ.เทิง ศาลจังหวัด และโรงพยาบาลเทิง เกิดน้ำท่วมขัง โรงพยาบาลต้องงดให้บริการผู้ป่วยทั่วไป รับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น ขณะที่สถานการณ์โดยทั่วไปยังมีฝนตกหนัก นายอำเภอเทิงลงพื้นที่ สั่งเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายของขึ้นที่สูง อพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุไปยังที่ปลอดภัย ส่วนถนนพหลโยธิน ต.นางแล อ.เมืองเชียงราย น้ำป่าจากดอยโป่งพระบาทไหล่เอ่อท่วมถนนด้านขาขึ้น การสัญจรเป็นไปอย่างยากลำบาก ภาพรวมสถานการณ์ จ.เชียงราย เบื้องต้นมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 5 อำเภอ ประชาชนเดือดร้อนประมาณ 100 ครัวเรือน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย