กทม. 15 พ.ย. – อสมท รายงานงบการเงินไตรมาส 3 ปี 2561 การดำเนินธุรกิจในภาพรวมแนวโน้มดีขึ้น ส่งผลให้ขาดทุนลดลง ร้อยละ 20 เดือน ต.ค.ที่ผ่านมา เทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อน ผลการดำเนินงานเริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น
นายเขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า อสมท รายงานงบการเงิน ไตรมาส 3 ปี 2561 (กรกฎาคม – 30 กันยายน 2561) ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยมีรายได้รวมทั้งสิ้นจำนวน 638 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 17 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ จำนวน 63 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2560 พบว่าการดำเนินงานมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น โดยขาดทุนลดลง ร้อยละ 20
สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 3 ปี 2561 มีดังนี้ ธุรกิจโทรทัศน์ เป็นรายได้จำนวน 199 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 12 จากไตรมาสก่อนหน้า ธุรกิจวิทยุ มีรายได้จำนวน 185 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 3 จากไตรมาสก่อนหน้า ธุรกิจการให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ระบบดิจิทัล (BNO) มีรายได้จำนวน 109 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2560 ร้อยละ 6 ส่วนหนึ่งเป็นรายได้ที่เพิ่มขึ้นของค่าบริการสิ่งอำนวยความสะดวก หลังจากที่ บมจ.อสมท มีข้อยุติจากการเจรจากับลูกค้าที่ค้างชำระการใช้บริการโครงข่ายฯ เป็นผลให้ลูกค้ายังยืนยันที่จะใช้บริการโครงข่ายฯ ของ บมจ.อสมท ต่อไป และเริ่มมีการชำระหนี้ค้างเก่าเข้ามา ทำให้รายการบัญชีหนี้สงสัยจะสูญก็จะลดลงตามเช็คที่ถึงกำหนดชำระ ธุรกิจใหม่ มีรายได้จำนวน 24 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน ร้อยละ 17 และเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2560 ถึงร้อยละ 41 เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการผลิตสื่อ Social Media ทาง Line Official Account สำหรับรายได้จากธุรกิจด้านดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ www.mcot.net หรือแพลตฟอร์มโซเชียลที่ได้รับความนิยมต่างๆ เช่น Youtube และ Facebook บมจ.อสมท เร่งพัฒนาและต่อยอดใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด (Maximize utilization) โดยการสร้างรายได้จากการนำคอนเทนต์ที่บริษัทเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ไปเผยแพร่บนแพลตฟอร์มต่างๆ
สำหรับแผนงานในปี 2562 บริษัทจะมุ่งเน้นนโยบายการบริหารสินทรัพย์ให้เกิดมูลค่าเพิ่ม ด้วยการเร่งรัดสร้างมูลค่าเพิ่มจากที่ดินที่มีอยู่ทั้ง 3 แปลง โดยเฉพาะที่ดินย่านรัชดา เนื้อที่กว่า 50 ไร่ ซึ่งเป็นที่ดินที่มีศักยภาพในการพัฒนาต่อได้ ขณะนี้ได้จัดจ้างที่ปรึกษาในการจัดทำรายงานความคุ้มค่าของที่ดินแล้ว และจะเข้ากระบวนการจัดทำ Investor Feedback และกระบวนการ PPP ต่อไป
นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะเพิ่มคอนเทนต์คุณภาพจากพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ โดยจะมีการแถลงผังรายการของช่อง 9 MCOT HD หมายเลข 30 ในวันที่ 29 พฤศจิกายนนี้ ส่วนสื่อวิทยุเริ่มพัฒนาสู่ธุรกิจ Digital Platform โดยเร่งขยายนำคอนเทนต์ลงใน Digital Platform เพื่อขยายฐานผู้ฟังให้มากขึ้น ควบคู่กับการบริหารต้นทุนด้านการบริหารจัดการและปรับปรุงกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น” นายเขมทัตต์ กล่าว. – สำนักข่าวไทย