fbpx

จับรถตู้วงมาลีฮวนน่า ชนจักรยานตายแล้วหนี

ชุมพร 14 พ.ย.-จับคนขับรถตู้วงมาลีฮวนน่า ชนจักรยาน จ.ส.อ.ไพศาล เสียชีวิตแล้วหนี ถนนสายเพชรเกษมช่วง กม.ที่ 471 อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร 


วันนี้ เวลา 05.00 น. ร.ต.อ.นพดล ภักดีสว่าง รอง สว. (สอบสวน) สภ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ได้รับแจ้งเหตุรถยนต์เฉียวชนคนปั่นจักรยานขณะออกกำลังกายเสียชีวิตอยู่บนถนนสายเพชรเกษมช่วง กม.ที่ 471 หมู่ 2 ต.นากระตาม อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมหน่วยกู้ภัยสายชลมูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์


ที่เกิดเหตุอยู่ห่างหน้าโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลนากระตาม เพียงเล็กน้อย บนถนนช่องจราจรเลนซ้ายช่องทางขาขึ้น พบผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือ จ.ส.อ.ไพศาล เพชรพิรุณ อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 120 หมู่ 9 ต.นากระตาม อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร เป็นอดีตข้าราชการทหารมณฑลทหารบกที่ 44 ชุมพร สภาพศีรษะแตกเป็นแผลฉกรรจ์ กระดูกตามลำตัวหักหลายจุดนอนจมกองเลือด ใกล้กันพบรถจักรยานสภาพถูกชนอย่างแรงจนโครงรถงอ ใต้เบาะนั่งมีไฟสีแดงยังติดกระพริบอยู่ นอกจากนี้ ยังพบเศษชิ้นส่วนของรถยนต์คู่กรณีตกกระจายไปทั่วถนน คาดว่าชนแล้วหลบหนีไปจากที่เกิดเหตุไม่ยอมช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่จึงได้บันทึกภาพและเก็บหลักฐาน ก่อนจะให้หน่วยกู้ภัยนำร่างของผู้เสียชีวิตนำไปตรวจพิสูจน์ที่โรงพยาบาลท่าแซะ และได้วิทยุแจ้งให้ด่านตรวจท่าแซะ ด่านตรวจบ้านพละ ออกสกัดรถต้องสงสัยที่ก่อเหตุแล้วหลบหนีคันดังกล่าว

จนกระทั่งต่อมาได้รับแจ้งจาก ร.ต.อ.ชาตรี ทองจันทร์ หน.ชุดปฏิบัติการด่านความมั่นคงประตูภาคใต้บ้านพละ ถนนเพชรเกษม ต.เขาไชยราช อ.ปะทิว จ.ชุมพร ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 40 กม. ว่าสามารถจับกุมรถยนต์ตู้ต้องสงสัยได้แล้ว ร.ต.อ.นพดล ภักดีสว่าง รอง สว.สอบสวน สภ.ท่าแซะ จึงรุดไปตรวจสอบพบว่าเป็นรถยนต์ตู้ ยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียน ฮอ 4413 กรุงเทพมหานคร ด้านข้างรถมีสติ๊กเกอร์ติดข้อความตัวใหญ่ง่า “มาลีฮวนน่า” เบอร์โทรติดต่อรับงานแสดง บริเวณกระจกด้านหน้าแตกยุบ ไฟเลี้ยว กันชน ด้านซ้ายแตกพัง และยังมีรอยเลือดเปรอะเต็มประตู ทราบภายหลังเป็นรถตู้ของวงดนตรีมาลีฮวนน่าเพลงชีวิตวงดังของภาคใต้ โดยมี นายวินัย เข้มสีขำ อายุ 63 ปี รับเป็นคนขับรถคันดังกล่าว


จากการสอบสวนเบื้องต้นนายวินัย คนขับรถตู้ให้การรับสารภาพว่า ได้ขับรถขนอุปกรณ์เครื่องดนตรีของวงมาลีฮวนน่า กลับจากไปแสดงที่ จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อจะเดินทางไปแสดงต่อทางภาคอีสาน จนมาถึงที่เกิดเหตุได้มีคนขับรถจักรยานออกมาจากข้างทางคล้ายจะข้ามไปอีกฝั่งถนนทำให้ตนเองซึ่งขับมาด้วยความเร็วไม่สามารถหักหลบได้ทัน จึงเฉี่ยวชนเข้าส่วนที่ตนไม่หยุดก็นึกว่าไม่เป็นอะไรมาก จนมาถึงด่านบ้านพละก็ถูกเจ้าหน้าที่ประจำได้เรียกและควบคุมตัวไว้ดังกล่าว

เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและพยายามหลบหนีโดยไม่ได้ให้ความช่วยเหลือ ส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชี้อิสราเอล-อิหร่านส่งสัญญาณหาทางถอยจากสงคราม

เยรูซาเล็ม 19 เม.ย.- สื่ออิสราเอลมองว่า การที่อิหร่านพยายามปฏิเสธว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอิหร่านวันนี้ไม่ใช่การโจมตีแก้แค้นของอิสราเอล และการที่อิสราเอลยังคงนิ่งเฉยไม่ออกตัวว่าเป็นผู้กระทำ เป็นการส่งสัญญาณว่าทั้ง 2 ฝ่ายกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงครามในขณะที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น เว็บไซต์ไทมส์ออฟอิสราเอลรายงานว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันจากทางการอิสราเอลว่า ได้โจมตีอิหร่านในเช้าวันนี้ ขณะที่สื่อทางการอิหร่านรายงานเพียงว่า มีการเปิดใช้งานระบบป้องกันภัยทางอากาศ และปฏิเสธรายงานข่าวเรื่องมีการโจมตีที่ตั้งทางทหารในเมืองอิสฟาฮาน ที่อยู่ห่างจากกรุงเตหะรานลงไปทางใต้ 315 กิโลเมตร โดยระบุว่าเหตุการณ์ปกติ แต่เจ้าหน้าที่อิสราเอลและสหรัฐที่ขอสงวนนามเผยกับสื่อในสหรัฐว่า เป็นฝีมือของอิสราเอล หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ของสหรัฐอ้างแหล่งข่าวอิหร่าน 3 คนว่า ฐานทัพอากาศในเมืองอิสฟาฮานถูกโจมตีแต่ไม่มีข้อมูลเรื่องความเสียหาย ไทมส์ออฟอิสราเอลมองว่า ลักษณะของการโจมตีอย่างจำกัด ซึ่งมีรายงานว่าเป็นการใช้โดรน ไม่ใช่ขีปนาวุธหรือปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ประกอบกับการที่อิสราเอลไม่ได้ยอมรับอย่างเป็นทางการ น่าจะเปิดทางให้รัฐบาลอิหร่านสามารถปฏิเสธเรื่องความจำเป็นที่จะต้องขู่โจมตีอิสราเอลเป็นครั้งที่ 2 หลังจากระดมยิงขีปนาวุธและโดรนมากกว่า 300 ลูกใส่อิสราเอลเมื่อเช้ามืดวันที่ 14 เมษายนตามเวลาอิสราเอล เป็นสัญญาณเบื้องต้นว่า ทั้ง 2 ประเทศอาจกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงคราม ก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์กันอย่างกว้างขวางว่า อิสราเอลจะแก้แค้นอิหร่านตามที่แสดงท่าทีมาตลอดทั้งสัปดาห์ว่า จะไม่ยอมปล่อยให้อิหร่านโจมตีโดยไม่ตอบโต้ จุดกระแสวิตกว่า การโจมตีตอบโต้กันไปมาจะบานปลายกลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบ อย่างไรก็ดี มีสัญญาณว่ากองกำลังป้องกันอิสราเอลได้ลดความุรนแรงของแผนการโจมตีตามที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น.-814.-สำนักข่าวไทย  

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาในแท็งก์น้ำ ดาดฟ้าหอพัก

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาสภาพเปลือย ในแท็งก์น้ำบนดาดฟ้าหอพัก ย่านมีนบุรี เสียชีวิตมาแล้ว 2 วัน คาดลงไปเล่นน้ำคลายร้อน

ระทึก! สารแอมโมเนียจากโรงน้ำแข็งรั่ว บาดเจ็บนับร้อย

ระทึกกลางดึก สารแอมโมเนียรั่วในโรงน้ำแข็ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ชาวบ้านสูดดม ได้รับผลกระทบกว่า 100 คน ต้องกระจายส่งตาม รพ. ต่างๆ

จับแล้ว! ชายอินเดียฆ่าปาดคอหญิงวัย 51 ปี

เกิดเหตุฆ่าปาดคอหญิงอายุ 51 ปี ในโรงแรมท้องที่ สน.ตลาดพลู ผู้ต้องสงสัยเป็นชายชาวอินเดียที่อยู่ด้วยกันในโรงแรม กว่า 1 สัปดาห์ ก่อนหายตัวไปหลังเกิดเหตุ ล่าสุดตามจับได้แล้ว สารภาพอ้างแค้นผู้ตายไม่คืนเงิน

ข่าวแนะนำ

เฮลิคอปเตอร์กองทัพเรือมาเลเซียชนกันกลางอากาศ-ดับแล้ว 10

กองทัพเรือมาเลเซียกล่าวในแถลงการณ์ว่า เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพเรือมาเลเซีย 2 ลำ ชนกันกลางอากาศในระหว่างการฝึกซ้อมสำหรับการแสดงในขบวนพาเหรดของกองทัพเรือ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 10 ราย

ยัน รบ.ไม่ได้กู้เงิน ธ.ก.ส. ไม่ทำให้ขาดสภาพคล่อง

“จุลพันธ์” ยันรัฐบาลไม่ได้กู้เงิน ธ.ก.ส. ใช้ดิจิทัลวอลเล็ต แต่เป็นกลไกงบประมาณ มั่นใจไม่ทำ ธ.ก.ส.ขาดสภาพคล่อง บอก อย่าลืมรัฐถือหุ้น100% พัฒนา “ซูเปอร์แอปฯ” ใช้งบประมาณไม่ถึงพันล้าน

พีกไฟฟ้าเกินคาด จากร้อนจัด ทะลุ 35,550.9 เมกะวัตต์

กรุงเทพฯ 23 เม.ย.-อากาศที่ร้อนจัดเมื่อคืนนี้ คนไทยดับร้อนด้วยการเปิดแอร์กันมากขึ้นทำให้ การใช้ไฟฟ้าของไทยขึ้นสู่ระดับสูงสุดหรือพีกครั้งใหม่ เมื่อช่วงใกล้ 3 ทุ่ม  35,550.9 เมกะวัตต์ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยไทย แจ้งว่า จากอากาศร้อนจัดในปีนี้ ทำให้การใช้ไฟฟ้าพุ่งขึ้นทำลายสถิติสูงสุด (พีก) อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้เกิดพีกของประเทศครั้งใหม่ เมื่อวันที่ 22 เม.ย.67 เวลา 20.57 น. ที่ 35,550.9 เมกะวัตต์ สูงกว่าปีที่แล้ว 1,420.4 เมกะวัตต์ หรือ ร้อยละ 4.2 เนื่องจาก สภาอากสที่ร้อนถึงร้อนจัด ในช่วงกลางวัน จึงเกิดความร้อนสะสม ส่งผลให้เกิดพีกดังกล่าว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ แม้ค่าไฟต่อหน่วยจะไม่ขยับขึ้น แต่บ้านเราเป็นอัตราค่าไฟแบบขั้นบันได คือ ยิ่งใช้มาก ค่าไฟต่อหน่วยอันดับท้ายๆ ก็จะสูงขึ้น จะมีผลทำให้ประชาชนจ่ายค่าไฟเพิ่มขึ้นด้วย ในเดือนที่ร้อนจัด โดยในปีนี้เกิดพีกไฟฟ้าขึ้นแล้ว 5 ครั้ง โดยกระทรวงพลังงานมีการจัดการให้มีไฟฟ้าและเชื้อเพลิงอย่างเพียงพอไม่ขาดแคลน แต่เนื่องจากไทยมีการเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) […]

ประเทศไทยอากาศร้อนจัด-กทม.ฝนฟ้าคะนอง 10%

กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ภาคใต้ตอนล่างมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนอง 10%