เกษตรฯ ชง ครม.แก้ราคายางตกต่ำ 20 พ.ย.นี้

กรุงเทพฯ 14 พ.ย. –  ก.เกษตรฯ ประชุมด่วนหาแนวทางแก้ราคายางตกต่ำ เล็งจ่ายเงินช่วยชาวสวนยางชดเชยขาดรายได้ ทำระบบรักษาเสถียรภาพ มาตรการภาษีจูงใจใช้ยางภายในประเทศ และลดปริมาณน้ำยางดิบปีละ 1.5 ล้านตัน เสนอ ครม.เห็นชอบ 20 พ.ย.นี้


นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยชาวสวนยางพาราที่ประสบปัญหาราคายางตกต่ำ จึงสั่งการให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์แก้ปัญหาอย่างเร่งด่วนภายใน 7 วัน จากการประชุมกับการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เครือข่ายชาวสวนยางพารา ผู้แทนสมาคมยางพารา และบริษัทผู้ส่งออกยางพารารายใหญ่ 5 ราย ได้แก่ บริษัท ไทยฮั้วรับเบอร์  บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี บริษัท เซาท์แลนด์รับเบอร์ บริษัท วงศ์บัณฑิต และบริษัท ไทยรับเบอร์ ลาแท็คซ์กรุ๊ป เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาราคายางพาราที่ตกต่ำต่อเนื่อง

นายกฤษฎา กล่าวว่า กระทรวงเกษตรฯ จะเสนอ ครม.อนุมัติงบประมาณชดเชยการขาดรายได้ชาวสวนยางพาราที่ขึ้นทะเบียนกับ กยท. 1.4 ล้านครัวเรือน จากเดิมจ่ายไร่ละ 1,500 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 15 ไร่ ทั้งเจ้าของสวนและผู้รับจ้างกรีดยาง ชาวสวนยางแบ่งสัดส่วนร้อยละ  60 : 40 ซึ่งขณะนี้กำลังพิจารณาว่า จะเพิ่มมากกว่าไร่ละ 1,500 บาท หรือยังคงอยู่ที่ไร่ละ 1,500 บาท แต่จะเพิ่มจำนวนไร่ต่อครัวเรือน นอกจากนี้ยังจะทำระบบรักษาเสถียรภาพราคายางพารา โดยราคาที่เกษตรกรควรขายได้ขณะนี้ สำหรับราคาน้ำยางสดกิโลกรัมละ 37 บาท ยางก้อนถ้วยกิโลกรัมละ 37 บาท ยางแผ่นรมควันกิโลกรัมละ 40 บาท โดยกำหนดงบไว้ประมาณ 10,000 ล้านบาท เบื้องต้นจะใช้งบ กยท.หากไม่พอจะเสนอของบกลางจากรัฐบาล หากภาคเอกชนรับซื้อต่ำกว่าราคาดังกล่าวรัฐจะชดเชยให้กิโลกรัมละ 2 บาท ทั้งนี้ กยท.จังหวัดจะเข้าไปดูแลปริมาณการขายอย่างเข้มงวด ไม่ให้มีการแจ้งเกินจริง ทั้งนี้ ระบบรักษาเสถียรภาพราคายางพาราจะดำเนินการอย่างต่อเนื่อง จนกว่าสถานการณ์ราคายางพาราจะดีขึ้นในระดับที่เกษตรกรคุ้มทุน 


นอกจากนี้ ที่ประชุมเห็นตรงกันว่าจำเป็นต้องกระตุ้นการใช้ยางพาราในประเทศเพิ่มขึ้น ที่ผ่านมามีแนวทางปรับเปลี่ยนจากการปลูกยางไปปลูกพืชอื่น แต่ยังไม่ได้รับการตอบสนองจากเกษตรกรเท่าที่ควร รวมทั้งจากที่เสนองดกรีดยาง 3 เดือน แต่มีหลายฝ่ายท้วงติงว่าแม้ไทยไม่กรีดยาง แต่ประเทศอื่นยังกรีด และส่งขายต่างประเทศ ทำให้ไทยขาดโอกาสในการส่งออก จึงยังไม่ดำเนินการมาตรการนี้  

นายกฤษฎา กล่าวเพิ่มเติมว่า ไทยผลิตยางพาราได้ 4.6 ล้านตัน/ปี ส่งออก 4 ล้านตัน ใช้ในประเทศ 6 แสนตัน แต่ใช้ไม่หมดจึงล้นตลาด จากนี้ไปไม่สามารถจะพึ่งการส่งออกได้ เนื่องจากมีหลายประเทศปลูกยางพารา เพื่อส่งผลผลิตยางส่งออกเช่นกัน ดังนั้น จึงเห็นว่าการเพิ่มปริมาณการใช้ยางพาราในประเทศเป็นแนวทางที่ต้องเร่งดำเนินการ โดยเฉพาะการสร้างแรงจูงใจด้วยมาตรการลดภาษี โดยวันนี้ได้ประชุมร่วมกับบริษัทผลิตถุงมือยาง บริษัทผลิตล้อยางรถยนต์รวม 6 บริษัทให้มาตั้งโรงงานในไทย โดยทำข้อตกลงรับซื้อยางจากเกษตรกร ซึ่งรัฐจะลดภาษีให้เป็นพิเศษ ขณะเดียวกันประชาชนที่ซื้อล้อยางที่ผลิตจากน้ำยางในประเทศไปใช้สามารถนำใบเสร็จไปลดหย่อนภาษีได้ นอกจากนี้ ยังเชิญบริษัท IKEA ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเครื่องเรือนแห่งใหญ่ของสวีเดนให้มาตั้งโรงงานผลิตเครื่องเรือนในไทย โดยใช้วัสดุไม้ยางพารา ซึ่งจะลดภาษีให้เป็นพิเศษเช่นกัน

มาตรการที่ทำควบคู่ คือ ประสานงานกับกระทรวงต่าง ๆ เพื่อจัดทำเครื่องนอนทั้งที่นอนและหมอนจากยางพารามอบให้โรงพยาบาล โรงเรียนประจำ สถานสงเคราะห์ ค่ายทหาร และเรือนจำ โดยให้ กยท.รับซื้อน้ำยางดิบจากเกษตรกรราคาไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 37 บาท โดยจะเสนอของบกลางมาดำเนินการ ซึ่งเป็นการปรับเปลี่ยนการใช้งบประมาณจากที่หน่วยงานเหล่านี้ต้องจัดสรรงบเพื่อซื้อเครื่องนอน รัฐบาลจะนำงบประมาณส่วนนั้นมาสนับสนุนการใช้ยางพารา โดยที่หน่วยงานตัดงบประมาณสำหรับซื้อเครื่องนอนไป ตั้งเป้าหมายเพิ่มปริมาณการใช้น้ำยางสดให้ได้ 170,000 ตันในปีงบประมาณนี้ ซึ่งจะเริ่มรับซื้อทันทีที่ทราบปริมาณความต้องการใช้ ส่วนยางค้างสตอกขณะนี้เริ่มเสื่อมคุณภาพประมาณ 104,000 ตัน จะนำไปทำพื้นสนามฟุตซอล โดยสั่งการให้ กยท.เร่งสำรวจข้อมูลจากกระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดย กยท.จะผลิตให้แก่โรงเรียนและสนามกีฬาที่ต้องการ


นอกจากนี้ ได้ประสานงานกับอธิบดีกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง เพื่อให้พิจารณาว่าสามารถออกประกาศระเบียบพัสดุว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างในโครงการการใช้ยางพาราในภาครัฐเพื่อให้หน่วยงานต่าง ๆ ยังมีงบประมาณสนับสนุนโครงการนี้อีกกว่า 10,000 ล้านบาทมาซื้อยางพาราไปใช้ประโยชน์ต่าง ๆ ตามเป้าหมาย 200,000 ตัน จากปัจจุบันใช้เพียง 8,800 ตัน เนื่องจากที่ผ่านมายังติดขัดปัญหาระเบียบพัสดุว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างของราชการที่ต้องซื้อของราคาต่ำที่สุด แต่มีความคุณภาพสูงสุด โดยถนนการใช้ยางพาราดินซีเมนต์นั้นมีระยะเวลาใช้งาน 7 ปี ซึ่งนานกว่าถนนแอสฟัลท์ที่ใช้งานได้ 5 ปี แต่ราคาถนนยางพาราดินซีเมนต์ราคาแพงกว่ากลางของถนนที่ใช้แอสฟัลท์ ดังนั้น จึงจะเสนอกรมบัญชีกลางให้ทำราคากลางถนนยางพาราดินซีเมนต์ เพื่อให้สามารถจัดซื้อจัดจ้างได้ อีกมาตรการหนึ่ง คือ กำลังจะทำระบบประกันรายได้ของชาวสวนยางพารา โดยให้สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) ศึกษาว่าเกษตรกรควรขายยางแผ่นดิบได้ไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 45 บาท ซึ่งจะทราบผลใน 30 วัน สำหรับมาตรการแก้ไขปัญหาราคายางตกต่ำทั้งหมดนี้กระทรวงเกษตรฯ จะต้องนำเสนอในที่ประชุม ครม.วันอังคารที่ 20 พฤศจิกายนนี้

นายกฤษฎา กล่าวถึงชาวสวนยางทางภาคใต้กำลังจะเดินทางมาเรียกร้องให้แก้ไขปัญหาราคายางพาราตกต่ำ ว่า กระทรวงเกษตรฯ จะเร่งดำเนินมาตรการดังกล่าวโดยเร็วที่สุด ซึ่งมั่นใจว่าจะสามารถบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ปลูกยางพาราได้ แต่ไม่สามารถจะนำงบประมาณไปรับซื้อยางมาเก็บไว้เหมือนรัฐบาลอื่นได้ทำมา เนื่องจากเสี่ยงต่อการที่ราคายางจะผันผวน รัฐซื้อมาในราคาหนึ่ง แต่เมื่อจะขายหากราคาตลาดโลกลดต่ำจะทำให้ขาดทุน นอกจากนี้ ยางที่ซื้อมาเก็บ 104,000 ตันนั้น ยังต้องมีค่าเก็บรักษาเดือนละ 11 ล้านบาท รวมปีละ 120 ล้านบาท ซึ่งเห็นว่าหากจะต้องเสียงบประมาณเพื่อทำเช่นนั้น รัฐใช้แนวทางจ่ายค่าชดเชยการขาดรายได้แก่เกษตรกรโดยตรงดีกว่า รวมถึงกำหนดมาตรการแก้ปัญหาทั้งระยะสั้น ระยะกลาง ส่วนระยะยาวที่จะทำให้ราคายางมีเสถียรภาพจะต้องลดพื้นที่ปลูกยางทั่วประเทศจาก 14 ล้านไร่ในปัจจุบัน โดยจะต้องลดพื้นที่ลงเหลือเพียง 10 ล้านไร่ ก็จะสามารถแก้ปัญหาราคาตกต่ำได้อย่างยั่งยืน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

โรงเรียน-โรงพยาบาลในอุบลฯ เปิดวันแรก หลังเหตุปะทะไทย-กัมพูชา

13 ส.ค. – ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.สุรินทร์ เช้านี้ (13 ส.ค.) ยังปกติ ชาวบ้านติดชายแดนต่างวิตก หวั่นเกิดการปะทะ จึงเก็บสัมภาระเตรียมพร้อมหากต้องอพยพออกจากพื้นที่ ส่วนโรงเรียน-โรงพยาบาล ใน จ.อุบลราชธานี เปิดวันแรก ทำเอาชาวบ้านอยู่ไม่ได้ หลังมีกระแสข่าวว่าจะเกิดการยิงกันบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา จนชาวบ้านต้องขนของอพยพออกจากบ้านกลางดึก เพื่อมาตั้งหลักในตัว อ.กันทรลักษ์ แต่หลังจากแน่ใจว่าไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นจึงเดินทางกลับเข้าบ้านเรือน แต่ยังมีบางส่วนที่ยังไม่ไว้วางใจในสถานการณ์ ออกไปพักบ้านญาติพี่น้องต่างอำเภอ สำหรับสถานที่ราชการในตัว อ.กันทรลักษ์ วันนี้ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ ส่วนโรงเรียนบางแห่งประกาศให้เรียนทางออนไลน์แทน เพื่อความปลอดภัย โรงเรียนชายแดน จ.สุรินทร์ ปิดต่อ ให้เรียนออนไลน์เช่นเดียวกับ จ.สุรินทร์ โรงเรียนชายแดนยังปิดต่อ และให้เรียนออนไลน์แทน เพื่อรอดูสถานการณ์ ส่วนผู้ปกครองกังวลถ้ายังเปิดเรียนในช่วงสถานการณ์ยังไม่สงบและไม่ปลอดภัย 100% ส่วนในพื้นที่ อ.พนมดงรัก โรงเรียนประถมฯ บางโรงประกาศให้มีการเรียนการสอนในระบบออนไลน์ช่วงวันที่ 13-15 สิงหาคมนี้ และมีบางโรงเรียนที่กลับมาเปิดเรียนตามปกติแล้ว แต่ไม่บังคับว่านักเรียนต้องมาเรียนทุกคน โดยมีการแจ้งใน LINE กลุ่มผู้ปกครองว่าหากผู้ปกครองท่านใดยังมีความกังวลใจก็อนุญาตให้เด็กลาได้ ส่วนชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.สุรินทร์ เช้านี้ […]

South Korea Leader and wife at Presidential plane Apr 2023

เกาหลีใต้จับอดีตสตรีหมายเลข 1

โซล 13 ส.ค.- นางคิม คอน ฮี อดีตสตรีหมายเลข 1 ของเกาหลีใต้ ถูกควบคุมตัวตามที่ศาลออกหมายจับเมื่อค่ำวานนี้ หลังจากอัยการยื่นขอหมายจับเพราะเกรงว่าเธอจะทำลายหลักฐานและแทรกแซงการสอบสวนในคดีที่ถูกกล่าวหาหลายคดี นางคิม ซึ่งจะมีอายุครบ 53 ปีในเดือนกันยายน เป็นอดีตสตรีหมายเลข 1 คนแรกของเกาหลีใต้ที่ถูกจับกุม ขณะที่สามีของเธอ คือ อดีตประธานาธิบดียุน ซอก ยอล วัย 64 ปี กำลังถูกคุมขังระหว่างรอการพิจารณาคดี หลังจากถูกถอดถอนจากตำแหน่งกรณีประกาศกฎอัยการศึกเมื่อปลายปี 2567 ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกันนางคิมได้โค้งคำนับและไม่ตอบคำถามผู้สื่อข่าวขณะเดินทางถึงศาล จากนั้นไปรอฟังคำตัดสินที่สถานกักขังในกรุงโซลตามธรรมเนียมปฏิบัติของเกาหลีใต้ โฆษกคณะอัยการพิเศษที่ได้รับการแต่งตั้งเมื่อต้นเดือนมิถุนายนแถลงว่า อัยการยื่นขอหมายจับนางคิม เนื่องจากเกรงว่าเธอจะทำลายหลักฐานและแทรกแซงการสอบสวน สำนักข่าวยอนฮับของทางการเกาหลีใต้รายงานว่า ศาลอนุมัติหมายจับตามคำแถลงเรื่องเธอมีความเสี่ยงที่จะทำลายหลักฐาน อดีตสตรีหมายเลข 1 ของเกาหลีใต้ถูกตั้งข้อหาหลายคดี ตั้งแต่การปั่นหุ้นไปจนถึงการรับสินบนและการใช้อิทธิพลแทรกแซงอย่างผิดกฎหมายที่พัวพันกับเจ้าของธุรกิจ บุคคลทางศาสนา และผู้มีอิทธิพลทางการเมือง เธอถูกกล่าวหาว่า ทำผิดกฎหมายเรื่องสร้อยคอประดับจี้ยี่ห้อหรูที่สวมไปร่วมการประชุมสุดยอดองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต ที่สเปน พร้อมกับสามีในปี 2565 เนื่องจากไม่ได้แจ้งรายการทรัพย์สินจี้ดังกล่าวที่มีข่าวว่าราคาสูงกว่า 60 ล้านวอน (กว่า 1.4 ล้านบาท) เธอให้การกับอัยการว่าเป็นของปลอมที่ซื้อในฮ่องกงเมื่อ […]

สภาถกงบฯ 69 วันแรก “พิชัย” แจงหั่นงบ 8,920 ล้าน

รัฐสภา 13 ส.ค. – ที่ประชุมสภาฯ เริ่มถกงบฯ 69 วันแรกแล้ว “พิชัย” แจงรายงาน กมธ. เหตุหั่นงบ 8,920 ล้านบาท เพราะไม่สอดคล้องภาาวะปัจจุบัน-การเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบาย ในการประชุมสภาฯ เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท วาระสอง ซึ่งกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ พิจารณาแล้วเสร็จเป็นวันแรก โดยมีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ในฐานะประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปี งบประมาณ พ.ศ. 2569 ว่า คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ได้พิจารณาร่างงบประมาณ 69 เรียบร้อยแล้ว โดยคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ให้ความสำคัญกับการดำเนินภารกิจเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล ยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคแห่งชาติ เป้าหมายพัฒนาที่ยั่งยืน รวมทั้งแผนปฏิบัติราชการของกระทรวง โดยพิจารณาตามความจำเป็นและภารกิจของหน่วยรับงบประมาณ และแผนพัฒนาพื้นที่ตามความต้องการของประชาชน […]

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]