TMB ประเมินแนวโน้มสินค้าเกษตรปี 64 ฟื้น

กรุงเทพฯ 5 มี.ค.- ธนาคารทหารไทย ประเมินสินค้าเกษตรปีนี้ฟื้นตัวจากปีที่แล้ว มูลค่ารวมเกือบ 900,000 ล้านบาท โดยเนื้อสัตว์ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ยางพารา มันสำปะหลัง จะราคาดี แต่ข้าวราคาจะทรงตัว


ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ในปีที่ผ่านมา สถานการณ์ภาคเกษตรไทยได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 น้อยกว่าภาคเศรษฐกิจอื่น ๆ เพราะว่าเป็นวัตถุดิบสำคัญในสินค้าเพื่อบริโภคอุปโภค ดังนั้นจึงเป็นปัจจัยที่ช่วยพยุงให้ความต้องการของสินค้าเกษตรเพิ่มขึ้น และทำให้ราคาปรับขึ้นเป็นส่วนใหญ่ สร้างรายได้ภาคเกษตรไทยกว่า 8.75 แสนล้านบาท โดยส่วนใหญ่มาจากสินค้าพืชหลัก ได้แก่ ข้าว ยางพารา อ้อย มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน สินค้าจากการประมง และกลุ่มการเลี้ยงไก่ สุกร แต่แนวโน้มผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ที่มีแนวโน้มลดลง จะช่วยให้ตลาดในประเทศและตลาดส่งออกของไทยมีความต้องการสินค้าเกษตรเพิ่มขึ้น 

สำหรับภาพรวมสถานการณ์ของภาคเกษตรในปี 2564 คาดว่ารายได้จะเพิ่มขึ้นจากปีก่อน ร้อยละ 2.9 หรือมีรายได้รวมอยู่ที่ 896,000 ล้านบาท แนวโน้มราคาสินค้าเกษตรในปีนี้จะยังคงขยายตัวจากปีก่อนที่ร้อยละ 1.4 จากความต้องการสินค้าเกษตรในตลาดโลกและราคาน้ำมันที่สูงขึ้นกว่าปีก่อน ขณะที่ผลผลิตจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.5 จากปีก่อน จากอานิสงส์ปรากฏการณ์ลานีญา (La Nina) ที่ส่งผลให้ปริมาณน้ำฝนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน-สิงหาคม 2563 ซึ่งเป็นผลดีต่อการปลูกพืชในช่วงฤดูการผลิต ขณะที่ช่วงต้นปี บางพื้นที่อาจจะมีน้ำไม่เพียงพอใช้ เนื่องจากปริมาณน้ำในเขื่อนที่ลดต่ำลงในช่วงต้นปี 2564 โดยเฉพาะในเขตภาคเหนือและภาคกลางตอนบน ส่งผลให้ในช่วงนี้ ผลผลิตของการปลูกพืชในเขตชลประทานมีแนวโน้มลดลง  


หากเจาะลึกลงไปในด้านอุปทาน พบว่าสถานการณ์ผลผลิตการเกษตรในระดับภูมิภาค ตามการประเมินของกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่าปริมาณน้ำฝนทั้งประเทศในปีนี้จะมากกว่าค่าปกติร้อยละ 10-15 โดยคาดว่าปรากฏการณ์ลานีญาจะกลับมาอีกครั้ง และทำให้ปริมาณฝนตกมากขึ้น ตั้งแต่เดือนมีนาคม-สิงหาคม ซึ่งดีกว่าปีก่อนที่ฝนตกน้อยกว่าค่าปกติถึงร้อยละ 20 โดยภูมิภาคที่ได้รับอานิสงส์จากปริมาณน้ำฝนมากที่สุด ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ซึ่งหากมองในภาพรวมแล้ว ปริมาณน้ำฝนที่เพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังก็ยังเป็นปัจจัยที่เอื้ออำนวยต่อการทำการเกษตร 

สำหรับในด้านอุปสงค์ของสินค้าการเกษตร ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีเอ็มบี ได้นำการคาดการณ์ตลาดสินค้าเกษตรมาประเมินร่วมกับแนวโน้มอุปทานข้างต้น ทำให้สามารถประเมินแนวโน้มสินค้าเกษตรในปี 2564 เป็น 2 กลุ่มสินค้า ตามการขยายตัวของรายได้ โดยสินค้าเกษตรที่มีแนวโน้มดี เนื้อสัตว์ สุกร และไก่ แนวโน้มราคาเพิ่มขึ้นจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ เช่น คนละครึ่ง และเราชนะ นอกจากนี้ การขยายตัวของการส่งออกลูกสุกรไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อทดแทนสุกรที่ได้รับผลกระทบจากโรคอหิวาต์สุกร และการส่งออกเนื้อแปรรูปไปยังประเทศฮ่องกง และจีน ที่เติบโตขึ้น จะเป็นปัจจัยสนับสนุนต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลัง ทำให้รายได้จะเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 9

ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ แนวโน้มราคาเพิ่มขึ้นจากความต้องการใช้เพื่อผลิตอาหารสัตว์ เนื่องจากความต้องการบริโภคเนื้อสัตว์ที่เพิ่มขึ้นจากภายในประเทศและส่งออก ในขณะที่ภาคเหนือ ซึ่งเป็นบริเวณที่มีการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์สูงที่สุด ได้รับอานิสงส์จากปริมาณน้ำฝนที่มากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 20% ทำให้ผลผลิตมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกับราคา ในภาพรวมคาดการณ์ว่ารายได้จะเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 4.1


ยางพารา แนวโน้มราคาเพิ่มขึ้นจากความต้องการใช้ยางพาราจากทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การใช้ยางเพื่อผลิตถุงมือทางการแพทย์ ต่อเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังมีอยู่ ในภาพรวมคาดการณ์ว่ารายได้จะเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 3.3

มันสำปะหลัง มีแนวโน้มราคาเพิ่มขึ้นจากความต้องการนำเข้าผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังที่เพิ่มขึ้นของประเทศจีน เพื่อนำไปใช้ผลิตเอทานอลทดแทนข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ราคาสูงและมีปริมาณสตอกคงเหลือลดลง ซึ่งหากวัดตามมูลค่าส่งออกแล้ว ตลาดจีนมีมูลค่ามากถึงร้อยละ 66 ของการส่งออกทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ปริมาณผลผลิตมันสำปะหลังมีแนวโน้มชะลอตัวจากความเสี่ยงการถูกกดราคารับซื้อหัวมันสดจากผู้ผลิตผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง คาดการณ์ว่ารายได้จากมันสำปะหลังจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ร้อยละ 1.8

ปาล์มน้ำมัน ในปีนี้ระดับราคายังมีระดับสูงต่อเนื่องจากปีก่อน อานิสงส์จากอุปสงค์ตลาดในประเทศเพิ่มขึ้นจากนโยบายใช้ดีเซล B10 เป็นน้ำมันดีเซลมาตรฐาน และอุปสงค์เพื่อนำไปใช้ทำอาหารปรับตัวดีขึ้น ในขณะที่ผลผลิตอยู่ในระดับใกล้เคียงจากปีก่อน จึงคาดว่ารายได้จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ร้อยละ 1.3

สินค้าเกษตรที่มีแนวโน้มทรงตัว ได้แก่ ข้าว ผลผลิตปีนี้คาดว่าจะสูงกว่าปีที่ผ่านมา แม้พื้นที่ปลูกข้าวเขตชลประทานในภาคกลางตอนบนและภาคเหนือตอนล่างจะได้รับผลกระทบจากปริมาณน้ำในเขื่อนที่มีปริมาณต่ำ อย่างไรก็ตาม ในด้านอุปสงค์ความสามารถในการแข่งขันราคาส่งออกข้าวไทยที่ลดลงเมื่อเทียบกับประเทศคู่แข่ง จากค่าเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นทำให้ราคาข้าวไทยที่สูงกว่าคู่แข่ง รวมไปถึงปัญหาขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ และค่าระวางเรือที่ปรับตัวสูงขึ้นมาก ทำให้ไม่สามารถส่งมอบสินค้าได้ตามกำหนด ทำให้คาดการณ์ว่ารายได้จากข้าวจะเพิ่มขึ้นเฉลี่ยที่ร้อยละ 2.7 จากผลผลิตที่เพิ่มขึ้นเป็นหลัก

อ้อย ผลผลิตในประเทศปีนี้ มีแนวโน้มหดตัวลงจากการตัดสินใจลดการผลิตของเกษตรกรในประเทศ เนื่องจากราคาอ้อยที่ตกต่ำในปีก่อน และปัญหาภัยแล้ง ทำให้น้ำตาลที่ผลิตเพื่อส่งออกมีปริมาณน้อยลง ประกอบกับแนวโน้มการแข็งค่าของเงิน คาดการณ์ว่ารายได้จากอ้อยและน้ำตาลจะลดลงเฉลี่ยร้อยละ 0.6

อาหารทะเล แม้ว่าภาพลักษณ์ของสินค้าอาหารทะเลของไทยมีแนวโน้มดีขึ้นกว่าปีก่อนในด้านอุปสงค์ จากการที่ EU ปลดสถานะใบเหลืองให้แก่ไทย ในประเด็น Illegal Unreported and Unregulated Fishing (IUU Fishing) อย่างไรก็ตาม แรงกดดันการระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้ผู้บริโภคทั้งภายในและต่างประเทศ ลดการบริโภคอาหารทะเล และหันไปซื้อเนื้อสัตว์ที่มีราคาต่ำกว่า นอกจากนี้ การที่สินค้าไทยไม่ได้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (GSP) ในตลาดสหรัฐฯ และ EU ส่งผลให้อาหารทะเลไทยมีราคาแพงขึ้นเมื่อเทียบกับคู่แข่ง โดยเฉพาะจีน อินเดีย และเวียดนาม ปัจจัยเหล่านี้เป็นปัจจัยกดดันให้อุปสงค์และอุปทานอยู่ในระดับที่จำกัดต่อไป โดยคาดการณ์ว่ารายได้ในกลุ่มนี้จะลดลงเฉลี่ยร้อยละ 1.8

จากแนวโน้มสินค้าเกษตรที่ประเมินไว้ เนื่องจากโครงสร้างตลาดสินค้าเกษตรไทยส่วนใหญ่ยังพึ่งพาตลาดส่งออก ซึ่งมีการแข่งขันสูง และค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นในปี 2564 จึงเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ลดทอนความสามารถในการแข่งขันของสินค้าเกษตรไทย อย่างไรก็ตาม หากเราสามารถควบคุมระดับอุปทานให้มีปริมาณที่เหมาะสมและต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ รวมไปถึงนโยบายสนับสนุนที่ช่วยประกันความเสี่ยงด้านราคาจากภาครัฐ จะช่วยให้สินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์เกษตรแปรรูปจะเป็นส่วนสำคัญในการช่วยหล่อเลี้ยงเกษตรกรและเศรษฐกิจภายในประเทศได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

สื่อเกาะติด! นายกฯ เข้าบ้านพิษณุโลก ถกผลประชุม JBC

บ้านพิษณุโลก 16 มิ.ย.- นายกฯ เข้าบ้านพิษณุโลก เรียกถกหน่วยงานความมั่นคง หารือผลประชุม JBC กำหนดแนวทางแก้ปัญหาข้อพิพาทพื้นที่ชายแดน ท่ามกลางสื่อมวลชนเกาะติดสถานการณ์ใกล้ชิด ความเคลื่อนไหวของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เช้าวันนี้ (16 มิ.ย.) ได้แจ้งเลื่อนภารกิจการให้ นางสาวสุชาตา ช่วงศรี Miss World 2025 และคณะ Miss World เข้าคาราวะ ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ในเวลา 10.00 น. ไปเป็นวันพรุ่งนี้ (17 มิ.ย. 68) โดยนายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมด่วนหน่วยงานด้านความมั่นคง ถึงกรณีผลการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 หรือ The Sixth Meeting of The Cambodian-Thai Joint Commission on Demarcation for […]

‘รองแม่ทัพภาค 2’ โพสต์ 5 หมายเหตุ สะท้อนปมชายแดน

16 มิ.ย.- ‘รองแม่ทัพภาค 2’ โพสต์หมายเหตุ 5 ข้อ สะท้อนปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา พลตรี ณัฏฐ์ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 โพสต์หมายเหตุ 5 ประเด็น สะท้อนปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา

กต.แถลงผิดหวังกัมพูชาไม่ร่วมมือไทย ขาดความตั้งใจแก้ปัญหา

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – กต.แถลงผิดหวังกัมพูชาไม่ร่วมมือไทย แก้ปัญหาลดความตึงเครียด ขาดความตั้งใจจริงในการใช้กลไกทวิภาคี บนพื้นฐานเพื่อนบ้านที่ดี พร้อมโต้ทุกประเด็นที่ถูกกล่าวหา เมื่อ 22.30 น. กระทรวงการต่างประเทศของไทย ออกแถลงการณ์ผลการประชุม JBC ทั้งที่เดิมนัดสื่อเเถลงวันนี้ (16 มิ.ย.) ระบุว่าการหารือมีความคืบหน้าสำคัญ 4 เรื่อง ซึ่งหลักๆ ทั้ง 4 เรื่องในคำเเถลงออกมาตรงกัน ซึ่งการรับรองผลการประชุม JTSC ครั้งที่ 4 สองฝ่ายเห็นตรงกันต่อตำแหน่งที่ตั้งของหลักเขตถึง 45 หลัก และเห็นชอบให้นำเทคโนโลยี LiDAR มาใช้ในการจัดทำภาพถ่ายทางอากาศเพื่อความรวดเร็วในการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดน ซึ่งในการเห็นชอบให้เเก้ไขแผนแม่บทว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกระหว่างไทยกับกัมพูชา จัดทำขึ้นเมื่อปี 2546 (TOR 2003) ก็นำเทคโนโลยี LiDAR มาใช้ในการจัดทำแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศเช่นกัน ส่วนในข้อ 4 เห็นชอบให้มีการจัดทำข้อกำหนดทางเทคนิคการเดินสำรวจในพื้นที่ตอนที่ 6 ไทยลงรายละเอียดว่า เป็นพื้นที่จากเขาสัตตะโสม จนถึงหลักเขตแดนที่ 1 ช่องสะงำ จังหวัดศรีสะเกษ โดยมอบหมาย JTSC […]

อุตุฯ เผยไทยตอนบนฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 40%

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 40% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ส่วนเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย ทั้งนี้ เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส .-สำนักข่าวไทย